เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 3 เมษายน 67 พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผบก.ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ สอท. พร้อมด้วย พ.ต.ท.กฤษณพร พืชผล สว.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.5 , ร.ต.อ.บัณฑิต  ไทยทอง รอง สว.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.5 และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สอท.5 สนธิกำลังร่วมตำรวจกองกำกับการตำรวจสืบสวน ภ.จว.ชุมพร 
           

ซึ่งนำโดย ร.ต.อ.ธวัช ภู่พร รอง สว.กก.สืบสวน ภ.จว.ชุมพร นำหมายค้น ศาลจังหวัดชุมพร ที่ ค16/2567 ลงวันที่ 2 เมษายน 67 เข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งในหมู่ที่ 6 ตำบลวังใหม่ อ.เมือง จ.ชุมพร เพื่อตรวจค้นหา/ยึดสิ่งของซึ่งมีไว้เป็นความผิด ซึ่งเป็นพยานหลักฐานประกอบการสอบสวน หลังได้รับการร้องเรียนผ่านทางช่องทางออนไลน์ว่ามีผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กหนึ่งหรือ น.ส.ดาราพร  อายุ 32 ปี ที่อยู่ม.1 ต.บางลึก อ.เมือง จ.ชุมพร  ได้มีการกระทำลักษณะปล่อยเงินกู้นอกระบบที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงเกินกว่ากฎหมายกำหนดโดยใช้ช่องทางเฟซบุ๊กเป็นสื่อการปล่อยเงินกู้  
           

จากการขอตรวจค้นในครั้งนี้ พบ น.ส.ดาราพร  ยืนอยู่ใต้ถุนอาคารโรงเรียนแห่งกนึ่งซึ่งปิดไปนานกว่า 8 ปีแล้ว และตั้งอยู่ริมถนนสายบ้านคลองสะเดา ห่างจากถนนเพชรเกษม ประมาณ 1 กม.โดยใต้ถุนอาคาร ได้ปรับเปลี่ยนใหม่เป็นพื้นที่เพาะกล้าต้นทุเรียน เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงหมายค้นให้ดูและอ่าน โดย เจ้าตัวรับทราบเป็นที่เข้าใจ ก่อนนำตรวจค้นภายในห้องนอนด้วยความสมัครใจ ผลการตรวจค้นพบโทรศัพท์มือถือ และสมุดจดบันทึกรายละเอียดการปล่อยเงินกู้ 1 เล่ม บนโต๊ะและยังพบอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ขนาดลำกล้อง .22 มม. จำนวน 1 กระบอก และเครื่องกระสุนปืนขนาด .22 มม. จำนวน 9 นัดที่บรรจุอยู่ในกล่องกระสุนปืนยี่ห้อ CCI วางอยู่บนตู้เสื้อผ้าภายในห้องนอน เจ้าหน้าที่จึงขอยึดไว้เพื่อตรวจสอบ
       

 จากการสอบสวน น.ส.ดาราพร ยอมรับว่าภายในโทรศัพท์มือถือเครื่องดังกล่าวมีข้อมูลเกี่ยวกับการปล่อยเงินกู้ทั้งหมดของตนที่ได้ปล่อยเงินกู้ให้แก่บุคคลต่างๆที่ต้องการกู้เงินกับตน และทุกคนที่กู้ยืมเงินทุกรายชื่อก็จะนำมาลงสมุดจดบันทึกรายละเอียดการปล่อยเงินกู้ 1 เล่ม และสารภาพว่า จะคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยร้อย 20 ต่อวัน หรือร้อยละ 600 ต่อเดือน โดยตนจะให้ผู้กู้ถ่ายรูปคู่กับบัตรประชาชนผู้กู้ พร้อมทั้งเขียนสัญญาการกู้และส่งข้อมูลมาทางข้อความสนทนาบนแอพพลิเคชั่นแมสเซ็นเจอร์ แล้วตนจะโอนเงินไปยังผู้กู้ และผู้กู้ต้องชำระเงินตามสัญญาที่ตกลงกันไว้โดยการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารต่างๆที่ตนจะส่งให้แก่ผู้กู้ ตนได้ทำประกอบกิจการดังกล่าวมาแล้วเป็นเวลาประมาณ 1 ปี โดยหากลุ่มลูกค้าบนแอพพลิเคชั่นเฟซบุ๊กเป็นหลัก ตนยอมรับว่าบัญชีเฟซบุ๊ก เป็นบัญชีเฟซบุ๊กของตนจริงที่ตนได้ใช้งานอยู่ ณ ปัจจุบัน
         

น.ส.ดาราพร ยังยอมรับว่าตนไม่ได้รับอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืน (ใบ ป.4) แต่อย่างใด เพราะอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนดังกล่าวเป็นของตนจริง โดยสั่งซื้อมานานมากจนจำไม่ได้แล้ว       
             

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งให้ น.ส.ดาราพร ฐานความผิด “ให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินหรือกระทำการใดๆ อันมีลักษณะเป็นการอำพรางการให้กู้ยืมเงินโดยมีลักษณะเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้ , ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล โดยไม่ได้รับอนุญาต , มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” ก่อนนำตัวพร้อมของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานบอลสวน สภ.เมืองชุมพร  เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
       

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ สอท.กำลังควบคุมตัวบันทึกการจับกุมและสอบสวนขยายผลอยู่ที่บริเวณชั้น 2 ของสภ.เมืองชุมพรอยู่นั้น ได้มีหญิงสาววัย 50 ปี ขี่รถจักรยานยนต์พร้อมด้วยกระเช้าของขวัญจำนวน 1 กระเช้ามามอบให้กับพล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผบก. สอท. โดยมีพ.ต.อ.ปัญญา  ท้วมศรี  ผกก.สภ.เมืองชุมพร ร่วมในการรับมอบด้วย
     

 โดยหญิงสาวคนดังกล่าว เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า  “ตนเองได้กู้เงินจากเจ้าหนี้รายนี้จำนวน 6 พันบาท เมื่อกว่า 1 ปีก่อน โดยจ่ายดอกเบี้ยร้อยละ 20 บาทต่อวัน หรือร้อยละ 600 บาทต่อเดือนคิดเฉลี่ยแล้วตนต้องจ่ายดอกเบี้ยเดือนละเกือบ 2 หมื่น รวมเงินที่ตนจ่ายไปปีกว่าเป็นเงินราวกว่า 2 แสนบาทแล้ว แต่เงินต้น 6 พันบาทที่ยืมครั้งแรกยังอยู่เท่าเดิมไม่ลด ตนเดือดร้อนมากขอขอบคุณตำรวจไซเบอร์เป็นอย่างมากที่เข้ามาช่วยเหลือทุกข์ของประชาชน รู้สึกตอนนี้สบายใจขึ้น”