สถานการณ์ไฟป่าของแม่ฮ่องสอน ยังคงทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง สุดที่จะยับยั้งการลอบเผาป่า ล่าสุดจุดฮอทสปอตสูงถึง 9,967 คาดค่ำวันนี้ยอดจุดไฟป่าภาคบ่ายจะรายงานค่าเกิน 10,000 จุดอย่างแน่นอน ทำให้ฝุ่นพิษคละคลุ้มเต็มทั่วอาณาบริเวณกระทบสุขภาพประชาชนในพื้นที่อย่างหนัก ด้านอ.สบเมยเกิดเหตุสลด 2 ผัวเมียช่วยดับไฟป่าถูกไฟคลอกได้รับบาดเจ็บทั้งคู่

เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2567 ศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้รายงานสถานการณ์หมอกควันและฝุ่นละออง ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ประจำวันที่ 3 เมษายน 2567 จุดความร้อนประจำวันที่ 2 เมษายน 2567 (เมื่อวานนี้) จำนวน 499 จุด,จุดความร้อนสะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 2 เมษายน 2567 จำนวน 9,967 จุด สูงสุดที่อำเภอแม่สะเรียง จำนวน 2,158 จุด โดยเกิดขึ้นสูงสุดในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ จำนวน 5,504 จุด 

แหล่งข่าวในหน่วยงานราชการแห่งหนึ่งระบุว่า สถานการณ์ดังกล่าวได้ชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่า การแก้ไขปัญหาไฟป่าล้มเหลวอย่างหนัก หลังจากเจ้าหน้าที่รัฐไม่สามารถควบคุมการลอบเผาป่าของประชาชนในทุกพื้นที่ได้แต่อย่างใด

การนำกำลังออกไปดับไฟป่าทำให้สิ้นเปลืองงบประมาณที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงจุดเกิดไฟป่าที่ไม่สามารถดับได้เนื่องจากเป็นเทือกเขาสูงชันและคิดเป็นร้อยละ ไม่ต่ำกว่า 70 ของจุดไฟป่าทั้งหมด ส่งผลให้เกิดหมอกควันไฟป่าในปริมาณที่สูงปกคลุมทุกอำเภอของจังหวัด

ในขณะที่ คุณภาพอากาศประจำวันที่ 3 เมษายน 2567 ค่า PM2.5 สถานีอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน เท่ากับ 166.3 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (ค่ามาตรฐานเกิน 37.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร  คุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับมีผลกระทบต่อสุขภาพ) , ค่า PM2.5 สถานีอำเภอแม่สะเรียง เท่ากับ 100 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (ค่ามาตรฐานเกิน 37.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร  คุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับมีผลกระทบต่อสุขภาพ)และ ค่า PM2.5 สถานีอำเภอปาย เท่ากับ 180.3 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (ค่ามาตรฐานเกิน 37.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร  คุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับมีผลกระทบต่อสุขภาพ)

นายสังคม คัดเชียงแสน นายอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ปริมาณฝุ่นละอองในอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน มีค่าสูงเกินค่ามาตรฐานและกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ซึ่งทางอำเภอเมืองได้ให้ทาง สำนักงานสาธารณสุขอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน รพ.สต. และอสม.ลงพื้นที่รณรงค์ให้ความรู้และแจกหน้ากากอนามัย N 95 ให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยง

อาทิเช่น ผู้สูงอายุ ผู้พิการ หญิงตั้งครรภ์ และผู้ที่มีโรคคประจำตัวโดยเน้นการปฏิบัติป้องกันตนเองจากฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) เพื่อเฝ้าระวังสุขภาพ ป้องกันโรคให้แก่ประชาชนในพื้นที่บ้านปางหมู หมู่ 1 บ้านในสอย หมู่ 4 บ้านกุงไม้สัก หมู่ 2  ต.ปางหมู อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน

นายพงษ์พิพัฒน์ มีเบญจมาศ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ได้โพสลงเฟสบุคส่วนตัว Chai Pongpipat  กรณีเกิดเหตุ พิษไฟป่า ที่ส่งผลกระทบทำให้ต้นไม้ เสาไฟฟ้าหักโค่น และ ปิดเส้นทางการสัญจรเมื่อค่ำวานนี้ บนถนนทางหลวงชนบทหมายเลข 3004 ต.สบเมย อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ก่อนถึงบ้านห้วยกองมูล ซึ่งในห้วงเวลาดังกล่าว  ได้มีรถชาวบ้านห้วยกระต่ายนำคนเจ็บ 2 คน ออกมาส่งโรงพยาบาลต้องติดอยู่ด้วย 

โดยระบุในข้อความว่าบนเฟสบุคพร้อมรูปถ่ายว่า  ได้เกิดเหตุชาวบ้านห้วยกระต่าย ม.8 ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน จำนวน 2 คน เป็นชาย 1 คน หญิง 1 คน (สามีภรรยา)  ถูกไฟไหม้ บริเวณแขนและหน้าตาบางส่วน สำหรับสาเหตุ ระบุว่า  ไปช่วยดับไฟที่ลุกลามออกนอกเขตกันชนแนวป้องกันกันไฟป่า ชาวบ้านจึงช่วยกันนำส่งผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล แต่ระหว่างทางนำส่งผู้บาดเจ็บ เจอไม้ล้มขวางถนนทับรถ 2 คัน ทางอำเภอสบเมย จึงได้นำรถช่วยส่งต่อ โรงพยาบาลสบเมย  ตอนนี้ราษฎรบ้านห้วยกระต่าย ทั้ง 2 คนได้รับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลสบเมยและปลอดภัยแล้ว