วันที่ 2 เม.ย. ที่ สน.เตาปูน นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ เดินทางมายัง สน.เตาปูน เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ เพจพระจันทร์ ลายกระต่าย v2 และ v3 ในความผิดนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ จากการนำคลิปเสียงที่อ้างว่า เป็นเสียงของนายณัฐพงค์ ซึ่งเป็นบัญชีม้าที่ตนแจ้งความดำเนินคดีไปเมื่อวานนี้ พูดกล่าวอ้างหาว่า ถูกทนายตั้มพามาอยู่ที่เซฟเฮ้าส์ 

โดยทนายตั้ม กล่าวว่า ทั้ง 2 เพจเอาคลิปเสียงดังกล่าวมาลง โดยกล่าวอ้างว่าเป็นคลิปเสียงของนายณัฐพงค์ พร้อมกล่าวหาว่า ตนเป็นคนพานายณัฐพงค์ มาอยู่ที่เซฟเฮ้าส์ซึ่งไม่เป็นความจริง ตนไม่มีเซฟเฮ้าส์ตามที่กล่าวอ้างและไม่รู้จักนายณัฐพงค์ อีกทั้งนายณัฐพงค์เป็นญาติกับดาบยาว ซึ่งเป็นฝั่งที่ถูกตนเองดำเนินคดี ถือเป็นคนละฝั่ง ดังนั้น ถ้าตนนำนายณัฐพงค์ไปไว้ที่เซฟเฮ้าส์ตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว ทำไมถึงไม่แจ้งความดำเนินคดีข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวกับตนเองตั้งแต่ตอนนั้น 

นอกจากนี้ ตนยังได้มีโอกาสพูดคุยกับคนทำงานกับนายณัฐพงค์ ซึ่งยืนยันว่า เสียงในคลิปไม่ใช่เสียงของนายณัฐพงค์ พร้อมเชิญสื่อมวลชนให้ไปตรวจสอบที่บ้านของนายณัฐพงค์และพ่อแม่ของนายณัฐพงค์ได้เลยว่า นายณัฐพงค์เคยหายไปจากบ้านหรือไม่ อีกทั้งบุคคลที่กล่าวอ้างว่าเป็นนายณัฐพงค์ ซึ่งจะเดินทางมา สน.เตาปูน กับทนายชื่อดังอีกรายหนึ่งในช่วงบ่ายวันนี้ ใช่นายณัฐพงค์ตัวจริงหรือไม่ 

ทนายตั้ม ยังกล่าวท้าทายไปยังบุคคลที่กล่าวอ้างว่าเป็นนายณัฐพงค์และทนายความที่พามาด้วยในช่วงบ่ายวันนี้ว่า ให้แจ้งความดำเนินคดีกับตนเองไปเลยในข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว ไม่ใช่มากล่าวหาลอย ๆ ในเมื่อยืนยันว่ามีพยานหลักฐานชัดเจน 

ทนายตั้ม ยังตั้งข้อสังเกตอีกว่า ทั้งสองเพจดังกล่าวเป็นเพจตำรวจที่ต้องการดิสเครดิตตนเอง ซึ่งตนเองก็ไม่ทราบว่า มีบิ๊กตำรวจใหญ่อยู่เบื้องหลังหรือไม่ ตนเองทราบแค่ว่า คลิปเสียงดังกล่าวยังนำไปลงในเพจนายอัจฉริยะอีกด้วย จึงเชื่อว่าน่าจะเป็นขบวนการเดียวกันทั้งหมด 

 ทนายตั้ม กล่าวทิ้งท้ายยืนยันว่า ตนเป็นเพียงแค่ทนายความ ไม่ใช่มาเฟีย ไม่ได้มีเซฟเฮ้าส์ที่จะไปกักขังหน่วงเหนี่ยวใครเป็นเดือน ๆ ส่วนคลิปเสียงแฉเรื่องส่วยคาราโอเกะที่ตนได้ลงไปก่อนหน้านี้นั้น ถ้าหากว่ามีคนไม่เชื่อว่าเป็นคลิปเสียงจริง ๆ หรือเชื่อว่าเป็นคลิปเสียงที่ทำขึ้น ก็มาแจ้งความจับตนเองได้เลย