กระทรวงวัฒนธรรม(วธ.)ร่วมกับสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นเด็ก เยาวชนและประชาชนที่มีต่อ “วันอนุรักษ์มรดกไทย ปี 2567” จากกลุ่มตัวอย่างทั่วประเทศ 16,339 คน ครอบคลุมทุกภูมิภาค โดยผลสรุปปรากฏว่าเด็ก เยาวชน และประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 76.67 ทราบว่าวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็น “วันอนุรักษ์มรดกไทย” ตรงกับวันที่ 2 เมษายนของทุกปี และร้อยละ 70.37 เพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นราชสักการะแด่พระองค์ ในฐานะมีพระมหากรุณาธิคุณอย่างใหญ่หลวงในงานด้านศิลปวัฒนธรรมของชาติ

เมื่อถามเด็ก เยาวชน และประชาชนถึงประเด็นการเข้าใจคำว่า “มรดกไทย” อย่างไร ร้อยละ 71.33 ตอบว่า เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่แสดงออกถึงสัญลักษณ์ของความเป็นชาติ ร้อยละ 54.41 โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ โบราณสถาน วรรณกรรม ศิลปหัตถกรรม นาฏศิลป์ และดนตรี

เมื่อถามว่ารักและภูมิใจใน “มรดกไทย” ประเภทใดมากที่สุด อันดับ 1 โบราณสถาน (วัด โบสถ์ วิหาร เจดีย์ อันดับ 2 ประเพณีสงกรานต์ ลอยกระทง แห่เทียน และอันดับ 3 มรดกภูมิปัญญา สมุนไพรไทย อาหารไทย เครื่องแต่งกาย นวดแผนไทย กีฬาพื้นบ้าน บ้านทรงไทย

เมื่อถามว่ามรดกวัฒนธรรมไทยประเภทใดที่ควรช่วยกันอนุรักษ์ ฟื้นฟูและสืบทอดต่อไป ส่วนใหญ่บอกว่าประเพณีลงแขกเกี่ยวข้าว รองลงมาศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น เช่น ภาษาถิ่น การแต่งกาย (ผ้าโบราณ/ผ้าพื้นถิ่น) อาหาร ศิลปะพื้นบ้าน (ลิเก ลำตัด เพลงฉ่อย) งานศิลปหัตถกรรมที่มีมาตั้งแต่อดีตกาล ทั้งที่เป็นเครื่องใช้ เครื่องแต่งกาย เครื่องประดับ เครื่องประกอบยศของบุคคลชนชั้นสูง

เมื่อถามว่าแหล่งเรียนรู้ประเภทใด ที่จะช่วยให้ท่านเกิดการเรียนรู้เกี่ยวกับการส่งเสริมและอนุรักษ์มรดกวัฒนธรรม 3 อันดับแรก ได้แก่ โบราณสถาน ตามด้วยพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ และอุทยานประวัติศาสตร์ 

เมื่อถามว่าจะมีส่วนร่วมช่วยอนุรักษ์มรดกไทยจะทำอย่างไร ส่วนใหญ่ตอบว่าจะมีส่วนร่วมในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ทั้งผ่านสื่อออนไลน์

ด้านนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.วัฒนธรรม กล่าวว่า วธ.พร้อมเป็นหน่วยงานที่มุ่งเดินทางผลักดันให้มรดกอันล้ำค่าของไทยทุกแขนงไปสู่ระดับโลกมากขึ้นไป