หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ มส.7 (อ.ปางมะผ้า) ร่วมกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ชุดปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามที่ 2 อำเภอปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน และชุดสายตรวจประจำเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลุ่มน้ำปาย รับแจ้งเหตุมีการลอบตัดไม้สักทองในท้องที่บ้านแม่หมูลีซอ อ.ปางมะผ้า จึงดำเนินการเข้าจับกุมกลางดึก ยึดไม้ของกลางได้ 7 ท่อนขนาดใหญ่
เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2567 เวลา 00.30 น. นายครรชิต วงศ์พระยา หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ มส.7 (อ.ปางมะผ้า) เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากผู้หวังสินบน นำจับจากทางราชการ ว่ามีการลักลอบแปรรูปไม้ในบริเวณป่าแม่หมูลีซอ หมู่ที่ 8 ตำบลสบป่อง อำเภอปางมะผ้า ฯ จึงได้ประสานสนธิกำลังกับ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ชุดปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามที่ 2 อำเภอปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน และชุดสายตรวจประจำเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลุ่มน้ำปาย เดินทางออกไปทำการจับกุม โดยได้มีการจอดรถห่างไกลจากจุดเกิดเหตุจากนั้นเดินเท้าย่องเข้าไปตามเสียงเลื่อยยนต์ไฟฟ้า เมื่อไปถึงพบมีชายฉกรรจ์ 2 คนอยู่ในที่เกิดเหตุจึงควบคุมตัวไว้ พร้อมยึดของกลางในที่เกิดเหตุทันที โดยในขณะจับกุมได้มีการบันทึกวีดีโอไว้เป็นหลักฐานตลอดเวลา
สำหรับผู้ที่ถูกจับกุมได้จำนวน 2 คน ทราบชื่อภายหลังว่า ชื่อนายพิทักษ์พงษ์ อายุ 42 ปีอยู่บ้านเลขที่ 4/1 หมู่ที่ 8 ตำบลสบป่อง อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน และนายธวัชชัย อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13/3 หมู่ที่ 8 ตำบลสบป่อง อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอนจากนั้นคณะเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวจึงทำการตรวจสอบรอบๆบริเวณพื้นที่เกิดเหตุ พบไม้ท่อนจำนวน 7 ท่อนกันตรวจสอบทราบว่าเป็นชนิดไม้สักท่อน ปริมาตร 1.74 ลูกบาศก์เมตร คิดเป็นค่าเสียหายของรัฐ 104,400บาท (หนึ่งแสนสี่พันสี่ร้อยบาทถ้วน) ลักษณะไม้ไม่เคยประกอบเป็นสิ่งปลูกสร้างหรือเครื่องใช้ใดใด
ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ ตรวจยึดอุปกรณ์การกระทำผิดและไม้ของกลาง ดังนี้ ไม้ของกลาง 1. ไม้สักท่อน จำนวน 7 ท่อน ปริมาตร 1.74 ลูกบาศก์เมตร
อุปกรณ์การกระทำความผิด
1. เลื่อยโซ่ยนต์พร้อมคันบังคับโซ่ ขนาด 20 นิ้ว จำนวน 2 เครื่อง
2. โซ่เลื่อยยนต์ จำนวน 2 เส้น
3.ตะไบหางหนู จำนวน 1 อัน
4. ไฟฉายคาดหัว จำนวน 1 อัน
5. ขวาน จำนวน 1 เล่ม
6. ไม้บรรทัดระดับน้ำ 1 อัน
7. ไฟแช็ค 1 อัน
8. ไขควง 1 อัน
9. น้ำมันเครื่องเก่า 2 ขวด
10. น้ำมันเครื่องออโต้ลูป 1 ขวด
11. น้ำมันเบนซิน 1 แกลอน
12. กุญแจรถมอเตอร์ไซค์ 1 อัน
จึงได้ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปางมะผ้าเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
อย่างไรก็ตามในขณะที่มีการจับกุม ได้มีผู้ต้องหารายหนึ่ง คือนายพิทักษ์พงษ์ ธารารุ่งโณจน์ ซึ่งอยู่ในอาการเมา พูดวกวนไปมา บางครั้งก็บอกว่าแค่มากินเหล้าและเมาเหล้า ไม่ได้ทำผิด ต่อมาพูดว่าอยากกินยาบ้าเพราะทะเลาะกับภรรยา รวมไปถึงพูดท้าทายเจ้าหน้าที่ว่า อย่ายัดข้อหาทำไม้ให้แก่เขา
