เมื่อวันที่ 1 เม.ย. ที่ห้องประชุมชั้น 4 สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ ถ.พหลโยธิน นายทศพร ภิญโญยาง อายุ 30 ปี คนพิการแต่กำเนิด แต่ด้วยร่างกายที่เล็กกว่าอุปกรณ์ช่วยเหลือต่างๆ เพราะมีความสูงวัดจากพื้นเพียง 50 เซนติเมตร ต้องอาศัยไถสเก็ตบอร์ดในการเดินทาง ประกอบอาชีพขายลอตเตอรี่หาเลี้ยงครอบครัว เดินทางมายื่นหนังสือเพื่อขอความช่วยเหลือทางกฎหมายต่อนายวิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ และนายวรกร ไหลหรั่ง ประธานอนุกรรมการสิทธิมนุษยชนด้านบุคคลพิการ ทุพพลภาพและผู้ด้อยโอกาส สภาทนายความฯ
นายทศพร เปิดเผยว่า เมื่อประมาณ 1 ปีก่อน ตนเองและครอบครัวไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการถูก อบต. แห่งหนึ่ง ในอำเภอเกษตรสมบูรณ์ จังหวัดชัยภูมิ มารังวัดจะสร้างถนนสาธารณะและแจ้งรื้อถอนสิ่งก่อสร้างของที่บ้านเพื่อจะขยายถนนเป็นความกว้าง 6 เมตร ซึ่งที่ผ่านมาตนและครอบครัวทราบเรื่องมาตลอดว่าถนนสายนี้ ยายตนได้ยกให้สร้างเป็นสาธารณะแค่เพียง 3 เมตรเท่านั้น จึงไม่ยินยอมถ้าจะให้ทาง อบต. ขยายถนนเป็น 6 เมตรแต่ทาง อบต. กลับมาแจ้งความดำเนินคดีกับพ่อของตน ว่า ได้ทำการบุกรุกทั้งกลางวันและกลางคืน จนถูกออกหมายจับ และตนต้องนำเงินกลับไปประกันตัวพ่อออกมา และที่บ้านยังถูกรื้นประตูรั้วไปแล้ว
จากมุมมองส่วนตัวตนมองว่าถนนเส้นนี้ตัดผ่านบ้านของตนและตัดทุ่งนาของครอบครัวตน แต่ไม่ได้ถนนที่จะสร้างนี้ไม่ได้ไปเชื่อมต่อกับเส้นอื่นๆ ใช้ประโยชน์แทบไม่ได้ ตนจึงเห็นว่าหากนำเงินดังกล่าวมาทำถนน ให้เอาไปทำอย่างอื่นดีกว่า ตนเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม และครอบครัวไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร จึงได้ตัดสินใจเดินทางโดยสเก็ตบอร์ดร้องขอความช่วยเหลือทางกฎหมายจากสภาทนายความฯ
นายวิเชียร กล่าวว่า หลังจากรับเรื่องนี้จะไปให้ทางทีมงานสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม แล้วจะลงพื้นที่ไปดูพื้นที่จริงส่วนหากพบว่าทาง อบต. ดังกล่าวมีการใช้งบประมาณไม่ถูกต้อง จะนำข้อมูลมาพิจารณา แต่เบื้องต้นเรื่องสำคัญคือการช่วยเหลื บิดาของนายทศพรที่ถูกหมายจับ และคาดว่าถูกดำเนินเร็วๆ นี้ ซึ่งตรงตนมองเบื้องต้นว่าเข้าข่ายเป็นบุคคลที่สภาทนายความฯ จะเข้าไปช่วยเหลือได้ ยืนยันว่าทางสภาทนายความฯ จะไม่ทิ้งใครไว้เบื้องหลัง ทุกวันนี้นายทศพรเป็นเสาหลักในการดูแลครอบครัวด้วยการขายลอตเตอรรี่ ถ้ามาถูกรังแกลักษณะนี้ ถ้าสภาทนายความฯ ไม่ช่วยแล้วใครจะช่วย ดังนั้นเป้นสิ่งไม่อาจนิ่งดูดายได้
ทั้งนี้ นายวิเชียร ได้แต่งตั้ง น.ส.ณิชชารีย์ เป็นเอกชนะศักดิ์ ผู้ประสบอุบัติเหตุตกชานชาลารถไฟฟ้าที่สิงคโปร์ เป็นที่ปรึกษาคณะกรรมการสวัสดิการทนายความผู้พิการ เนื่องจาก เห็นว่า น.ส.ณิชชารีย์ เป็นผู้พิการที่มีจิตอาสา ออกมาสนับสนุนเพื่อสิทธิของผู้พิการและผู้ด้อยโอกาสอย่างสม่ำเสมอ