ทนายกระดูกเหล็ก พาผู้รับมอบอำนาจจากเจ้าของที่ดินบนเกาะล้าน เข้าแจ้งความเสี่ย "บ” อ้างชื่อ "บิ๊กตำรวจ" บุกรุกที่ดิน 1 ไร่เศษ พร้อมข่มขู่ หลังคดีไม่คืบ

เมื่อวันที่ 1 เม.ย.67 ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช พร้อมด้วยนายก้องภพ วรานุชิตกุล และนางสาวชลิดา รังสิกุล ผู้รับมอบอำนาจจากเจ้าของที่ดินแปลงเลขที่ดิน 35 ระวาง 53 ต. 20 ฏ.ตั้งอยู่บนเกาะล้าน หมู่ที่ 7 ตำบลนาเกลือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ได้นำหลักฐานเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองพัทยา เพื่อดำเนินคดีกับเสี่ยบอย ผู้มีอิทธิพลในเมืองพัทยา ที่เคยมีข่าวเกี่ยวข้องกับวลี “เป้รักผู้การเท่าไหร่” กับพวก ในข้อหา “ร่วมกันบุกรุก / ทำให้เสียทรัพย์ / และลักทรัพย์” 


สืบเนื่องจากเมื่อต้นเดือนธันวาคม 2566 นายก้องภพ และนางสาวชลิดา ผู้รับมอบอำนาจ ทราบว่า มีผู้บุกรุกที่ดินบนเกาะล้าน ต่อมาในวันที่ 11 ธันวาคม 2566 ทั้งคู่ได้เดินทางไปที่เกาะล้าน ซึ่งเป็นที่ดินพิพาทพบว่า มีผู้บุกรุกจริง แต่ยังไม่ทราบว่าเป็นผู้ใด ได้เข้ามาตัดทำลายต้นไม้ พบร่องรอยการปรับไถที่ดิน พร้อมทั้งพ่นสีสเปรย์ตามรั้ว  ตามต้นไม้ และนำเจ็ตสกีเข้ามาจอดชายฝั่งภายในเขตที่ดิน โดยไม่ได้รับอนุญาตกระทั่ง วันที่ 3 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา ได้เข้าไปแจ้งความที่ สภ.เมืองพัทยา กับ ร.ต.ท.กิตติพงษ์ พนักงานสอบสวน ไว้เบื้องต้น
     
ต่อมาวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2567 นายก้องภพ และนางสาวชลิดา ได้ไปตรวจที่ดินแปลงพิพาท อีกครั้ง พบว่า มีการนำรถแบ็กโฮเข้าไปปรับไถหน้าดินจนเกลี้ยง มีการทุบกำแพงรั้ว แล้วก่อรั้วกำแพงเพิ่มเติมให้สูงขึ้น มีการติดป้ายห้ามบุกรุก และตัดทำลายต้นไม้ออกทั้งหมด ซึ่งคนงานได้โทรไปหา เสี่ย"บ” ภายหลังเสี่ย"บ” มาถึงที่ดินพิพาทได้อ้างตัวว่า เป็นผู้กระทำการดังกล่าวทั้งหมดเอง ดังนั้น ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา จึงมาแจ้งความเพิ่มเติมว่ากลุ่มบุคคลที่บุกรุกที่ดินดังกล่าวคือเสี่ย"บ” กับพวก
 
เมื่อวานนี้(วันที่ 31 มีนาคม 2567 )นายก้องภพ และนางสาวชลิดา ก็ได้ไปยังที่พิพาท พบว่ามีการสร้างอาคารทรงสี่เหลื่ยม สีขาว บนที่ดินใกล้ๆ กับบ้านทรงไทย ซึ่งเป็นของเจ้าของที่ดิน สร้างไว้นานแล้วกว่า 10 ปี โดยมีรั้วล้อมรอบ
 
นายก้องภพ กล่าวว่า เหตุที่เกิดขึ้น คนบนเกาะล้านบอกกันว่า แท้จริงแล้วเสี่ย"บ"มีคนอยู่เบื้องหลังเป็นนายตำรวจใหญ่ นาย "พล ต. "ที่กำลังมีข้อพิพาทกันอยู่ในขณะนี้ แต่ไม่ทราบว่าจริงหรือไม่ จึงอยากให้สื่อช่วยถามถามบิ๊กตำรวจนายนี้ให้หน่อย 


ด้านนางสาวชลิดา กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมา ตนเองได้พบกับเสี่ย"บ"  ซึ่งเข้ามาประชิดตัว และไล่ให้ออกไป ไม่ยอมคุยไม่ยอมเจรจา และข่มขู่ให้ออกไปจากพื้นที่ไม่งั้นจะนำเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาจับ และนาย"บ" ยังได้แสดงข้อมูลแชทที่พูดคุยกับเจ้าหน้าที่เมืองพัทยา ที่มีการรายงานแจ้งกับนาย"บ"ว่า ตนเองจะเข้าไปเสี่ยงภาษี และกล่าวหาในเชิงหมิ่นประมาทว่า ตนเองยัดเงินใต้โต๊ะเจ้าพนักงานและให้เงินตำรวจ ซึ่งตนเองมีคลิปเสียงและคลิปวีดีโอเป็นหลักฐานประกอบด้วย

ขณะที่ ร.ต.อ.กิตติพงษ์ แถลงกัน รอง สว.(สอบสวน) เปิดผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ในขั้นตอนการสืบสวนสอบสวน แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ ขอให้เวลาให้เจ้าหน้าที่ทำงาน 

ทนายอนันต์ชัย กล่าวปิดท้ายว่า คดีนี้ ที่ผมสนใจเพราะมีชื่อ เสี่ย"บ" เป็นผู้กว้างขวางในพัทยา และนายตำรวจใหญ่ นายพล "ต"ผมเลยสนใจเป็นพิเศษ และอยากฝากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นตำรวจ เทศบาลเมืองพัทยา ถ้าลูกความผมไม่ได้รับความเป็นธรรม ผมก็พร้อมจะรื้อเกาะล้านทั้งเกาะได้เช่นเดียวกัน ฝากไว้ให้คิด ผมคนพูดจริงทำจริง ขออย่างเดียวอย่าเข้าข้างคนผิด

วันนี้ จึงได้มาติดตามคดี และแจ้งความดำเนินคดีกับเสี่ย“บ” กับพวก เพิ่มเติมในข้อหา “ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ และลักทรัพย์” จะให้เวลา 7 วัน และขอให้พนักงานสอบสวนทำการยึด รถแบ็คโฮ เรือเจ็ตสกี บ้านสีขาว เป็นของกลางด้วย