สปส. จับมือ สปสช.  สถานพยาบาล ผู้ประกอบการ ทั่วประเทศ ตรวจสุขภาพฟรี เพิ่ม 14 รายการ จากสิทธิ์พื้นฐาน ลดความซ้ำซ้อนงบประมาณ วางเป้าตรวจสุขภาพเชิงรุกในสถานประกอบการเพิ่มขึ้น 100% เน้นการป้องกันสุขภาพมากกว่าการรักษา 

          
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ตรวจเยี่ยมโครงการการตรวจสุขภาพเชิงรุกในสถานประกอบการ (KICK OFF) ระหว่าง สำนักงานประกันสังคมและสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ณ บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) ตำบลบางพูน อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี โดยมีนายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม นายแพทย์จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ นายภาสกร บุญญลักษม์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี นายอดิศักดิ์ ตั้งมิตรประชา ประธานบริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) นายผยง ศรีพาณิช์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) คณะผู้บริหารโรงพยาบาลปทุมธานี คณะผู้บริหารดูโฮมฯ ร่วมงาน

          นายพิพัฒน์ กล่าวว่า การร่วมมือกันของ สปส. และ สปสช. เป็นกลไกสำคัญที่ส่งเสริมให้ผู้ประกันตนมาใช้สิทธิตรวจสุขภาพตามรายการสุขภาพพื้นฐานของ สปสช. และสนับสนุนการใช้สิทธิตรวจสุขภาพเพิ่มเติมของ สปส. “ฟรี โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย” ซึ่ง สปส. ได้ปรับปรุงประกาศคณะกรรมการการแพทย์ของสำนักงานประกันสังคม และเพิ่มสิทธิการตรวจสุขภาพของผู้ประกันตน (มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 เมษายน 2567) คือ เพิ่มรายการตรวจสุขภาพ 14 รายการ ให้ได้รับการตรวจสุขภาพที่ถี่ขึ้นตามช่วงอายุที่เหมาะสม เช่น ช่วงอายุ 35 ปีขึ้นไป ได้ตรวจสุขภาพประจำปีฟรี 1 ครั้งทุกปี (ตรวจไขมันในเส้นเลือด น้ำตาลในเลือด การทำงานของไต ความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด ตรวจปัสสาวะ) เพิ่มรายการตรวจ คัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่และลำไส้ตรง FiT TEST การตรวจวัดความดันของเหลวภายในลูกตา รวมถึงเพิ่มความถี่การถ่ายภาพรังสีทรวงอก ซึ่งการปรับปรุงประกาศคณะกรรมการการแพทย์ฯ ในครั้งนี้ เพื่อเป็นการค้นหาโรคและเฝ้าระวังปัจจัยเสี่ยงที่ก่อให้เกิดโรคของผู้ประกันตน เพื่อให้ผู้ประกันตนมีสุขภาพที่ดี พร้อมทั้ง ลดค่าใช้จ่ายที่อาจสูญเสียไปกับค่ารักษาพยาบาล ลดอัตราการลางาน ลดอัตราการเจ็บป่วยเรื้อรังที่อาจทำให้เกิดอันตราย พิการ หรือเสียชีวิตได้

          รมว.แรงงาน กล่าวต่อไปว่า ผมขอขอบคุณ นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่เล็งเห็นความสำคัญของสุขภาพแรงงานในสถานประกอบการ ขอขอบคุณโรงพยาบาลปทุมธานี และบริษัท ดูโฮมฯ ที่จัดบริการตรวจสุขภาพให้แก่ผู้ประกันตน จำนวน 500 คน ในวันนี้ ซึ่งถือเป็นนิมิตหมายอันดีที่ 2 กระทรวงของภาครัฐร่วมผลักดันด้านสุขภาพกับภาคเอกชน ลดความซ้ำซ้อนของงบประมาณ วางเป้า ตรวจสุขภาพเชิงรุกในสถานประกอบการเพิ่มขึ้น 100% พร้อมทั้งพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศให้มีความเจริญก้าวหน้า สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติต่อไป


 
         นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขมุ่งสร้างเสริมสุขภาพที่ดีให้กับคนไทยทุกคน ทุกสิทธิ อย่างทั่วถึงและเท่าเทียมลดการเจ็บป่วยรุนแรงและเสียชีวิตจากโรคที่ป้องกันได้ โดยเน้นการป้องกันสุขภาพมากกว่าการรักษา ด้วยการตรวจคัดกรองสุขภาพ ค้นหาความผิดปกติ และนำเข้าสู่กระบวนการรักษาตั้งแต่ระยะเริ่มแรก ซึ่งการบูรณาการความร่วมมือของ สปส. และ สปสช. ครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการร่วมกันดูแลคนไทยให้ได้รับสิทธิการบริการสาธารณสุขที่มีมาตรฐานและมีประสิทธิภาพ ตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 ที่ครอบคลุมการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค และยังช่วยลดความซ้ำซ้อนของชุดบริการตรวจสุขภาพประจำปีของ สปส. และชุดสิทธิประโยชน์สร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคของ สปสช. ในบางรายการด้วย โดยผู้ประกันตนจะได้รับการตรวจสุขภาพที่ครอบคลุมตามสิทธิประโยชน์ทุกรายการที่ทั้ง 2 หน่วยงานกำหนด ภายใต้การให้บริการของหน่วยบริการในระบบเดียวกัน เริ่มดำเนินการพร้อมกันทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนนี้เป็นต้นไป ซึ่งจะทำให้การบริหารจัดการงบประมาณด้านสุขภาพในภาพรวมมีประสิทธิภาพมากขึ้น


         “ที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ผู้ประกันตนต้องไปรับบริการตรวจสุขภาพที่สถานพยาบาลในช่วงเวลาทำการ ทำให้ไม่สะดวกเรื่องการลาหรือหยุดงาน การตรวจสุขภาพเชิงรุกในสถานประกอบการ จึงเป็นอีกบริการที่เข้ามารองรับในจุดนี้ ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ประกันตนได้รับบริการโดยไม่ต้องลางาน และในรายที่ผลการตรวจสุขภาพผิดปกติ ก็จะได้รับการติดตามดูแลรักษาสุขภาพอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่วนนี้กระทรวงสาธารณสุข พร้อมให้ความร่วมมือในการจัดบริการตรวจสุขภาพเชิงรุกแก่ผู้ประกันตนในสถานประกอบการ โดยมีสถานพยาบาลในสังกัดที่ขึ้นทะเบียนกับ สปส. และ สปสช. พอเพียงและครอบคลุมทุกพื้นที่ สามารถให้บริการได้อย่างทั่วถึง” นายแพทย์ชลน่านกล่าว 

         ด้าน นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า KICK OFF เป็นก้าวสำคัญที่ตอกย้ำว่าผู้ประกันตนจะได้รับการดูแลด้านสุขภาพที่ครอบคลุม โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ทุก รพ. ทั่วประเทศ สถานประกอบการที่สนใจ สามารถดำเนินการประสานสถานพยาบาลที่มีความพร้อมในการให้บริการตรวจสุขภาพ ที่ขึ้นทะเบียนเรื่องส่งเสริมสุขภาพของสำนักงานประกันสังคม และสำนักงานประกันสุขภาพแห่งชาติ ณ ปัจจุบันมีสถานพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการฯ รวม 213 แห่ง แบ่งเป็น สถานพยาบาลรัฐ 165 แห่ง เอกชน 48 แห่ง สามารถตรวจสอบรายชื่อสถานพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการได้ที่ www.sso.go.th หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน 1506 ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง