เมื่อเวลา 11.11 น. วันที่ 31 มีนาคม 2567 ที่วัดบางหลวงหัวป่า (วัดร้าง) สาขาวัดระฆังโฆสิตาราม หมู่ 4 ตำบลสวนพริกไทย อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี เจ้าประคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (สุชิน อคฺคชิโน) เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช กรรมการมหาเถรสมาคม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ในพิธีวางศิลาฤกษ์อาคารสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) โดยมี พระครูสุภัทรธรรมโฆษิต ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตาราม รักษาการเจ้าอาวาสวัดบางหลวงหัวป่า และนางสาวปฐมาภรณ์ เตมียเวส ประธานฝ่ายฆราวาส(สร้างถวาย) พร้อมพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ นายอดิเทพ กมลเวชช์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ว่าที่ ร.ต. ขรรค์ไชย ทันธิมารองผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร นายสุเมธ มีนาภา รองอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง นายสมพร กาญจน์นิรันดร์ รองอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง นายรณกร เผ่าวิจารณ์ นายอำเภอธัญบุรี นายวินัย สีเที่ยงธรรม โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดปทุมธานี และพุทธศาสนิกชนจำนวนมาก ร่วมประกอบพิธี วางศิลาฤกษ์อาคารสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)

โอกาสนี้ พระครูสุภัทรธรรมโฆษิต ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตาราม รักษาการเจ้าอาวาสวัดบางหลวงหัวป่า ได้จุดธูปเทียนบูชาฤกษ์ที่โต๊ะเครื่องบรวงสรวง โดยมีพราหมณ์ประกอบพิธีบวงสรวงบูชาฤกษ์ เจ้าประคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ปิดทองและเจิมแผ่นศิลาฤกษ์ ไม้เข็มมงคล แผ่นอิฐทอง-นาก-เงิน และประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ จากนั้นนางสาวปฐมาภรณ์ เตมียเวสและคณะร่วมโปรยทรายเสก ใบเงิน ใบทอง ใบนาก เหรียญเงิน ทอง ลงก้นหลุมของแท่นวางแผ่นศิลาฤกษ์ พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา ลั่นฆ้องชัย ประธานสงฆ์ประพรมน้ำพระพุทธมนต์ ผู้ร่วมพิธีถวายสังฆทาน กรวดน้ำรับพร และกราบลาพระรัตนตรัย เป็นอันเสร็จพิธี


พระครูสุภัทรธรรมโฆษิต ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตาราม รักษาการเจ้าอาวาสวัดบางหลวงหัวป่า กล่าวว่า วัดบางหลวงหัวป่า (ร้าง) แห่งนี้เป็นวัดร้างตั้งแต่รัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว แต่ปัจจุบันไม่มีเสนาสนะอะไร อาตมภาพจึงได้ร่วมกับ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ตั้งแต่เมื่อครั้งท่านดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน พร้อมด้วย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย เป็นผู้ขอบูรณปฏิสังขรณ์และขอยกวัดร้างแห่งนี้ให้เป็นวัดที่มีพระภิกษุสงฆ์อยู่จำพรรษาต่อไป เป็นวัดสาขาของวัดระฆังโฆสิตาราม โดยในช่วงที่ผ่านมา วัดได้ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย และสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ปลูกต้นไม้เฉลิมพระเกียรติ ประกอบด้วย ต้นไม้ประจำจังหวัดทั้ง 76 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร ตามความตั้งใจของท่านปลัดกระทรวงมหาดไทย และท่านนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ที่ประสงค์จะให้สถานที่แห่งนี้ เป็นรมณียสถาน สถานที่แห่งความร่มเย็น และเป็นศูนย์การเรียนรู้ตามโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และเป็นสถานที่แห่งการร่วมทำในสิ่งที่คนในโลกใบนี้ต้องช่วยกัน นั่นคือ การลดภาวะโลกร้อนตามแนวทางความยั่งยืนของสหประชาชาติ โดยเมื่อวัดแห่งนี้ได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์จนเสร็จสมบูรณ์ ยังเป็นพุทธสถานสาธารณสงเคราะห์นักเรียน นิสิต นักศึกษา ผู้ป่วยยากไร้ และชาวบ้านในพื้นที่ ให้ได้รับประโยชน์ในด้านต่าง ๆ ตามนโยบายด้านการสาธารณสงเคราะห์ของมหาเถรสมาคมอีกด้วย
พระครูสุภัทรธรรมโฆษิต กล่าวต่อว่า อาคารสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ถือเป็นอาคารที่สำคัญภายในวัด อยู่ภายใต้ โครงการกอ่สร้างอนุสรณ์สถาน 150 ปี สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) ในพื้นที่ทั้งหมด 23 ไร่ 64 วา  

อนุสรณ์สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) องค์ใหญ่ จะมีขนาดหน้าตัก 17 เมตร และสูง 22 เมตร พุทธศาสนิกชนผู้มีจิตศรัทธา สามารถร่วมอนุโมทนาสมทบทุนปัจจัยในการก่อสร้างได้ที่บัญชี "วัดบางหลวงหัวป่า เพื่อบูรณปฏิสังขรณ์" ทาง e-donation prompt pay คิวอาร์โค้ด https://shorturl.asia/tlUo8 เพื่อความสะดวกในการลดหย่อนภาษีของกรมสรรพากร โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่พระครูสุภัทรธรรมโฆษิต ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร รักษาการเจ้าอาวาสวัดบางหลวงหัวป่าสาขาวัดระฆังโฆสิตาราม  หมายเลขโทรศัพท์ 09-5990-9910"