"ภูมิธรรม" หารือทูต สปป.ลาว เร่งผลักดันความร่วมมือค้าชายแดน-ผ่านแดนให้สะดวกต่อการประกอบธุรกิจการค้าและการเดินทางของประชาชน โดยขอให้ สปป.ลาวอนุญาตให้รถขนส่งสินค้าไทยวิ่งข้ามแดนไปฝั่งลาวได้ เร่งเปิดทำการด่านชายแดนที่ยังปิดอยู่ และเสนอให้มีการจัดทำ MOU ระหว่างจังหวัดพะเยาของไทยกับแขวงไชยบุรีของ สปป.ลาว เพื่อส่งเสริมเครือข่ายการค้าท้องถิ่น รวมถึงแสดงความพร้อมที่ไทยจะร่วมมือกับ สปป.ลาวในการส่งโคผ่านแดนไปจีนเพื่อประโยชน์ร่วมกัน
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยหลังหารือกับเอกอัครราชทูต สปป.ลาวประจำประเทศไทย (นายคำพัน อั่นลาวัน) เพื่อส่งเสริมศักยภาพการค้าระหว่างกัน ช่วยผลักดันการส่งออกของไทย และแก้ไขอุปสรรคให้กับผู้ประกอบการหลังจากที่นายภูมิธรรมได้เดินทางไป ครม.สัญจร ที่จังหวัดพะเยา ในช่วงที่ผ่านมาได้รับข้อร้องเรียนจากผู้ประกอบการคนรุ่นใหม่ในจังหวัดให้ช่วยส่งเสริมการค้าระหว่างไทย-ลาว นายภูมิธรรม กล่าวว่า สปป.ลาวเป็นมิตรประเทศที่ไทยมีความใกล้ชิด การค้าระหว่างกันส่วนใหญ่เป็นการค้าชายแดน ไทยและลาวยังเป็นจุดผ่านแดนสำคัญไปสู่ประเทศอื่นๆ และปีนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญที่การเปิดสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 (หนองคาย-เวียงจันทน์) เชื่อมโยงสองประเทศครบรอบ 30 ปี
โดยในวันนี้ จึงได้พูดคุยแนวทางกระชับความร่วมมือการค้าชายแดน-ผ่านแดน หลังจากที่นายภูมิธรรมได้ร่วมคณะกับนายกฯรัฐมนตรีติดตามสถานการณ์การค้าชายแดนและการพัฒนาพื้นที่ก่อสร้างที่ทำการชายแดน CI ที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านฮวก อ.ภูซาง จ.พะเยา ช่วง ครม.สัญจรที่ผ่านมา ซึ่งหากการค้าไปได้ดี ประชาชนสองฝ่ายก็จะได้รับประโยชน์ โดยได้เสนอให้ สปป.ลาว อำนวยความสะดวกในการไปมาหาสู่ขอประชาชนและการขนส่งสินค้าบริเวณด่านชายแดนให้มีความคล่องตัว เช่น เร่งเปิดด่านฝั่งลาวที่ยังคงปิดทำการ อนุญาตให้รถขนส่งสินค้าไทยวิ่งเข้าไปยัง สปป.ลาวได้ดังเช่นในช่วงก่อนโควิด-19 โดยไม่ต้องเปลี่ยนหัวรถที่ด่าน และไทยพร้อมร่วมมือกับ สปป.ลาว ในการพัฒนาพื้นที่ด่านชายแดนเพื่อรองรับการค้าที่ขยายตัวมากขึ้น ซึ่งท่านทูตสปป.ลาว เห็นพ้องว่าไทยและลาวต่างพึ่งพาอาศัยกันในเรื่องการค้าและแจ้งว่ารัฐบาลลาวมีนโยบายทยอยเปิดด่านที่ปิดทำการอยู่ในขณะนี้ สำหรับมาตรการด้านการขนส่งรับที่จะพิจารณาให้ผู้ประกอบการไทยมีทางเลือกมากขึ้น
"การหารือในวันนี้ยังได้เสนอให้มีการจัดทำ MOU ระหว่างจังหวัดพะเยากับแขวงไชยบุรีของ สปป.ลาว เพื่อส่งเสริมการค้าระหว่างภาคธุรกิจในพื้นที่ รวมถึงร่วมกันพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมต่อระหว่างกัน พร้อมทั้งได้แจ้ง สปป.ลาวว่า ไทยพร้อมที่จะร่วมมือกับ สปป.ลาว ในการส่งออกโคมีชีวิตไปยังจีนตามโควตาที่ สปป.ลาว ได้รับ และพร้อมให้การสนับสนุน สปป.ลาว ในการฝึกอบรมทางวิชาการ ตลอดจนการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าต่างๆในไทยและกิจกรรมจับคู่ธุรกิจที่กระทรวงพาณิชย์จัดขึ้น เพื่อสร้างโอกาสทางการค้าการลงทุนให้กับผู้ประกอบการทั้งสองฝ่าย"
ทั้งนี้ปัจจุบัน สปป.ลาวเป็นคู่ค้าอันดับที่ 7 ของไทยในกลุ่มอาเซียน เป็นคู่ค้าชายแดนอันดับ 3 ของไทย โดยในปี 2566 การค้ารวมไทย-สปป.ลาว มีมูลค่า 264,354.19 ล้านบาท (-3.68%) ไทยเป็นฝ่ายเกินดุลการค้า 55,923.35 ล้านบาท สำหรับการค้าชายแดนไทย-สปป.ลาว มีมูลค่า 260,512 ล้านบาท (+0.18%) โดยไทยเป็นฝ่ายเกินดุลการค้า 56,518 ล้านบาท ทั้งนี้ การค้าชายแดนมีสัดส่วน 98.55% ของการค้ารวมไทย-สปป.ลาว สินค้าสำคัญที่ไทยส่งออกไปสปป.ลาว ได้แก่ น้ำมันสำเร็จรูป น้ำตาลทราย รถยนต์และส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ เครื่องสำอาง และสินค้าสำคัญที่ไทยนำเข้าจากสปป.ลาว ได้แก่ ไฟฟ้า ผักผลไม้และของปรุงแต่ง เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ ปุ๋ยและยากำจัดศัตรูพืช ปูนซิเมนต์
#ค้าชายแดน #ข่าววันนี้ #ท่องเที่ยว #พะเยา #อาเซียน