ดนตรี / ทิวา สาระจูฑะ

สัปดาห์นี้ บนตารางอันดับเพลง บิลบอร์ด ฮ็อท 100 ซึ่งเป็นชาร์ทที่ได้การยอมรับมากที่สุดในธุรกิจดนตรีโลก และเป็นเป้าปรารถนาของศิลปินเกือบทุกราย เพลง “Lose Control” ของ เท็ดดี้ สวิมส์ นักร้อง-นักแต่งเพลงหนุ่มวัย 31 ปี ขึ้นไปติดอันดับ 1 เป็นเพลงอันดับ 1 ลำดับที่ 1,167 ในประวัติศาสตร์ของ บิลบอร์ด ฮ็อท 100

แต่ความสำเร็จสูงสุดของเพลง “Lose Control” ก็ไม่ได้เกิดขึ้นโดยรวดเร็ว ต้องใช้เวลานานถึง 32 สัปดาห์นับตั้งแต่เข้าตารางอันดับครั้งแรกกว่าจะติดอันดับ 1 ช่วงที่ยึกยักมากที่สุดคือตอนที่เพลงเข้าติดท็อป 5 ขึ้นลงอยู่ระหว่างอันดับ 2 กับ 5 อยู่นานทีเดียว

เท็ดดี้ สวิมส์ เป็นนามแฝงในวงการดนตรีของ จาเท็น คอลลิน ดิมสเดล ชายหนุ่มผู้เติบโตขึ้นมาในร็อคสเดล เคาน์ตี้, จอร์เจีย การใช้ชื่อ เท็ดดี้ มาจากรูปร่างใหญ่หนาคล้ายหมีของเขา ตามชื่อตุ๊กตาหมี เท็ดดี้ แบร์ ที่ทุกคนรู้จักดี ส่วนสกุล สวิมส์ เอามาจากคำย่อของ "someone who isn't me sometimes" สื่อเป็นนัยว่าตัวเขาเองก็มีหลายภาคอยู่ในตัว เช่นเดียวกับเพลงที่เขาร้อง

เท็ดดี้ โตขึ้นมาในบ้านที่อวลไปด้วยเพลงโซลที่พ่อของเขาชอบเปิด แม้ตอนแรกตั้งเป้าหมายชีวิตว่าจะเป็นนักอเมริกันฟุตบอลอาชีพ ซึ่งก็เหมาะกับรูปร่างใหญ่โตของเขา แต่หันเหความสนใจมาที่ดนตรีหลังจากที่เขาได้เข้าไปเล่นละครเวทีตอนเรียนมัธยม

จากนั้น เท็ดดี้ ก็ เริ่มเอาจริงเอาจังกับการร้องเพลงและเล่นดนตรี เขาเคยเป็นสมาชิกอยู่ในวงร็อคหลายวง เล่นดนตรีตามคลับบาร์ในแถบแอ็ทแลนต้า, จอร์เจีย ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองใหญ่ทางดนตรีของอเมริกา เขาสั่งสมประสบการณ์ทางดนตรีหลากหลาย ขณะเดียวกันการร้องก็พัฒนาเท็คนิคมากขึ้น

เท็ดดี้ เหมือนคนยุคใหม่ส่วนมากที่หาความสนุกและใช้ประโยชน์จากสื่อออนไลน์ เขาเริ่มบันทึกภาพและเสียงการร้องเพลงของตนเป็นวิดีโอ และอัพโหลดขึ้นแพล็ทฟอร์มอย่างยูทู้บ สะดุดตาผู้ชมจากรูปร่างใหญ่โตและรอยสักที่พราวไปทั้งตัว สวนทางกับเสียงร้องที่ยอดเยี่ยม

แต่คนนับหมื่นๆแสนๆที่ทำแบบเดียวกับ เท็ดดี้ ไม่ได้ประสบความสำเร็จเหมือนกันทุกคน

ผู้คนเริ่มให้สนใจเป็นจำนวนมากเมื่อเขานำ “Rock With You” ของ ไมเคิล แจ็คสัน มาทำใหม่ในปี 2019 จากนั้นเขาก็นำเพลงของศิลปินหลากหลายแนวทางมาทำใหม่ในสไตล์ของตัวเอง แต่ละเพลงมียอดคนดูหลักล้าน โดยเฉพาะเพลง "You're Still the One" ของ ชาไนอา ทเวน มียอดการดูทางยูทู้บพุ่งทะยานขึ้นถึง 153 ล้านวิว

ความนิยมจากผู้ชมทางยูทู้บสุดที่บรรดาบริษัทเพลงยักษ์ใหญ่จะอยู่นิ่งเฉยได้ แต่สุดท้ายเป็น วอร์เนอร์ เรคอร์ดส์ ที่ประสบความสำเร็จในการจับ เท็ดดี้ เซ็นสัญญา จากนั้นก็เป็นไปตามแผนของต้นสังกัด เท็ดดี้ มีโอกาสได้ร้องร่วมกับศิลปินดังๆหลายราย เป็นการแนะนำให้ผู้ฟังผู้ชมคุ้นหน้าคุ้นเสียง และเตรียมเข้าสู่อาชีพศิลปินบันทึกเสียงเต็มตัว

ในที่สุด อัลบั้มแรกของ เท็ดดี้ สวิมส์ ก็ออกมาในเดือนกันยายน 2024 ใช้ชื่อว่า I’ve Tried Everything But Therapy (Part 1) ซึ่งดูจากชื่ออัลบั้มแล้ว แน่นอนว่าจะต้องมีภาค 2 ตามมา โดยก่อนหน้าอัลบั้มจะออกวางขาย “Lose Control” และ "Some Things I'll Never Know" คือซิงเกิลที่ปล่อยนำร่องออกมาก่อน

ดนตรีของ สวิมส์ ในอัลบั้ม I’ve Tried Everything But Therapy (Part 1) มีความหลากหลายจากประสบการณ์ทางดนตรีที่เขาสั่งสมมา เป็นป็อปที่มีกลิ่นอายของโซล, ร็อค และคันทรี่ผสมผสานอยู่ แต่เชื่อมโยงด้วยซาวน์ดของดนตรีสมัยใหม่และเสียงร้องของเขา

เท็ดดี้ ไม่ได้เป็นที่ยอมรับเฉพาะการเป็นนักร้องชั้นยอด เขายังได้การยอมรับในฐานะนักแต่งเพลงด้วย พิสูจน์ได้จากเพลง “Angels Don’t Always Have Wings” ของ โธมัส เร็ทท์ ซึ่งเขามีส่วนร่วมในการแต่งด้วย ขึ้นไปติดอันดับ 1 บนตารางเพลงคันทรี่

สำหรับอัลบั้ม I’ve Tried Everything But Therapy (Part 1) เท็ดดี้ สวิมส์ มีส่วนร่วมแต่งในเพลงทั้งหมด  10 เพลง เนื้อหาส่วนใหญ่เป็นเรื่องอกหักรักสลายที่เจ้าตัวเพิ่งพานพบมา แต่วันนี้การถูกอดีตสาวคนรักทิ้งไป ได้รับการล้างแค้นแล้ว ด้วยความสำเร็จของ “Lose Control”