วันที่ 28 มีนาคม 2567 เวลา 01.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่าพ.ต.อ.พงศ์ยุทธ์  แก้วดอนรี ผกก.สภ.ไพร ได้รับแจ้งจากญาติของ นายสมพร อายุ 54 ปี อยู่บ้าน หมู่ 2 ต.ภูฝ้าย อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ ว่านายสมพร ได้มาบอกกับญาติว่า ได้ไปก่อเหตุฆ่าคนตาย จึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.ประสาร มณีวรรณ์ สวป.สภ.ไพร , ร.ต.อ.พิชิต โพธิทัด รอง สว.(สอบสวน) สภ.ไพร นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงพบ นายสมพร  อายุ 54 ปี ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณริมหน้าผาก เป็นแผลลึก เย็บ 7 เข็ม พร้อมให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เป็นผู้ก่อเหตุฆ่า นายเอกชัย บุญทอง อายุ 30 ปี หลานชาย ซึ่งเป็นญาติของตนเอง ที่บริเวณกลางทุ่งนา บ้านภูทอง หมู่ที่ 8 ต.ภูฝ้าย อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เดินทางไปตรวจสอบ

 

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุบริเวณกระท่อมกลางนา พบร่าง นายเอกชัย   อายุ 30 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ในที่เกิดเหตุ ในลักษณะไม่สวมเสื้อ สวมกางเกงขายาวสีดำ บริเวณกะโหลกศีรษะด้านหลังถูกของมีคมฟันจนกะโหลกแตกสมองไหล บริเวณแผ่นหลังมีรอยบาดแผลเป็นทางยาว และบริเวณนิ้วมือซ้าย ถูกตัดขาดทั้ง 5 นิ้ว จากนั้นจึงได้ควบคุมตัว นายสมพร ไปสอบสวน

จากการสอบสวน นายสมพร ให้การว่า ตนมีอาชีพขับรถดัมภ์ ซึ่งเป็นรถส่วนตัวของตน มีศักดิ์เป็นน้า ของผู้ตาย ซึ่งผู้ตายทำงานรับจ้างเป็นคนขับแบ็กโฮ ก่อนเกิดเหตุได้มารับจ้างปรับหน้าดินให้กับผู้ว่าจ้าง ตามปกติ โดยจะนอนเฝ้ารถอยู่กลางทุ่งนา ด้วยกัน 2 คน เป็นประจำ เมื่อช่วงค่ำหลังเลิกงาน นายจ้างได้นำเงินค่าจ้างมาจ่ายให้กับตนและผู้ตาย จากนั้นได้นำเงินไปซื้อเหล้าเบียร์มานั่งดื่มกินกัน ต่อมาผู้ตายได้พูดจาดูถูกถากถางตนว่าทำอะไรไม่เป็น ขับเป็นแต่รถดัมพ์ ขับแบคโฮเหมือนตนไม่เป็นหรอก ซ่อมรถก็ไม่เป็น พูดกลับไปกลับมาอยู่บ่อยครั้ง ตนจึงโมโหลุกขึ้นแล้วเดินไปเพื่อที่จะเอามือปิดปากบอกให้หยุดพูด แต่เกิดพลาดผู้ตายดิ้นจนตกจากเก้าอี้ลงกับพื้น ผู้ตายโมโห จึงหยิบขวดเหล้า มาฟาดเข้าที่กลางหน้าผากตน จนเป็นแผลเหวอะมีเลือดไหล ตนจึงโกรธแค้น กลับเข้าไปยังบ้านพัก นำอาวุธมีดมาฟันเข้าที่ศีรษะและร่างของผู้ตาย จังหวะนั้นผู้ตายยกมือมาจับศีรษะจึงถูกฟันนิ้วมือซ้ายจนกุดและนอนแน่นิ่งไป

หลังก่อเหตุตนจึงได้กลับเข้าไปที่หมู่บ้านไปบอกกับญาติว่าฆ่าคนตายมา ญาติจึงได้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาจับกุมตัวดังกล่าว พร้อมตรวจยึดของกลาง เป็นมีดอีโต้หัวตัด 1  เล่ม ยาวประมาณ 50 เซนติเมตร เสื้อแขนยาวสีส้มแถบน้ำเงิน 1 ตัว กางเกงขาสั้นลายทหาร 1 ตัว รองเท้าแตะ  สีดำ  1 คู่  

 

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่บ้านของผู้เสียชีวิต ไปพบกับ นายเซียง  อายุ 65 ปี พ่อของผู้เสียชีวิต เล่าว่า ตนกับภรรยามีลูกด้วยกันทั้งหมด 3 คน เป็นหญิง 2 ชาย 1 ผู้ตายเป็นลูกชายคนเล็ก มีอาชีพรับจ้างขับรถแบคโฮ ซึ่งจะไปทำงานตามหน้างานปกติทุกวัน และกินนอนเฝ้ารถอยู่เป็นประจำกับผู้ก่อเหตุ วันเกิดเหตุก็ไม่ได้มีลางสังหรณ์ใดๆ ซึ่งทั้งคู่ตนก็ไม่รู้ว่ามีเรื่องบาดหมางกันเรื่องใดหรือไม่ เพราะก็เป็นญาติกัน ลูกชาย ผู้ตายก็ไม่เคยมาเล่าเรื่องผิดใจกันให้ฟัง ตนจึงไม่รู้ว่าปมปัญหาคือเรื่องอะไรกันแน่ แต่ที่แน่ๆการก่อเหตุในครั้งนี้ ถือว่าโหดเหี้ยมมาก ซึ่งตนจะไม่ยอมยกโทษให้โดยเด็ดขาด และจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

ขณะที่ น.ส.น้อย (นามสมมุติ) อายุ 33 ปี เปิดเผยว่า ตนเป็นเพื่อนกับผู้ตาย ครั้งสุดท้ายที่เห็นเพื่อน เวลาประมาณ 19.00 น. ตนและเพื่อนอีกคนได้ออกมาหาผู้ตายที่ทุ่งนา ซึ่งตอนนั้นก็พบว่า ผู้ตายมีเลือดเปรอะเปื้อนที่แขน บอกว่าตีกันกับผู้ก่อเหตุ จะให้ตนล้างเลือดให้ แต่ตนกลัวเลือดจึงไม่กล้าล้างออกให้ แต่ก็ไม่รู้ว่าเหตุการณ์เป็นเพราะสาเหตุอะไรถึงได้ตีกัน มารู้อีกทีตอนตี 5 ว่าเพื่อนถูกฆ่าเสียชีวิต ซึ่งโดยปกติแล้วผู้ตาย เป็นคนนิสัยดี เป็นคนทุ่มเทกับเพื่อนทุกอย่าง สปอร์ต หายาก  ถามคนที่ก่อเหตุทำไมถึงต้องทำเพื่อนขนาดนี้ ถ้ามีเรื่องก็น่าจะแค่แจ้งความเอาผิดไม่น่าจะใช้ความรุนแรงถึงขนาดต้องฆ่ากันตาย

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และควบคุมตัวไว้ที่ สภ.ไพร ก่อนที่จะได้นำส่งตัวฝากขังยังศาลจังหวัดกันทรลักษ์ ในพรุ่งนี้เช้า เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป