วันที่ 28 มี.ค.67 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก เทพไท - คุยการเมือง ระบุว่า...
จับตาระบอบทักษิณคืนชีพ
ระวัง! กระบวนการยุติธรรมไทย?
หลังจากการเลือกตั้งทั่วไป เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 มีการจัดตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว โดยมีดีลลับ หรือบิ๊กดีลเกิดขึ้น ทำให้พรรคเพื่อไทยได้เป็นพรรคแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล มีนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี จึงทำให้ระบอบทักษิณ ฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งนั้น
จนบัดนี้พบว่ามีปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว คือ
1.คุณทักษิณโดนคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตัดสินจับคุก3คดี โทษ 10 ปี กลับมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ศาลฎีกาฯมีคำสั่งนับโทษรวมเหลือ8ปี ได้รับพระราชทานอภัยลดโทษ เหลือโทษจำคุก1ปี ไม่ได้เข้าเรือนจำแม้แต่วันเดียว
2.คดีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษายกฟ้องคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และพวกรวม6คน ในคดีจัดอีเวนต์โรดโชว์ สร้างอนาคตประเทศไทย งบ 240 ล้านบาท พร้อมสั่งเพิกถอนหมายจับ
3.ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษายกฟ้องคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับพวก ใช้อำนาจโอนย้ายนายถวิล เปลี่ยนสี เลขาธิการ สมช. ในขณะนั้น ให้มาดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำโดยมิชอบ เมื่อช่วงเดือน ก.ย. 2554 ล่าสุดอัยการสูงสุดมีคำสั่งไม่อุทธรณ์คดี ทั้งที่ผู้เสียหายคือ นายถวิล เปลี่ยนสี มีความประสงค์ให้อุทธรณ์ เพื่อต้องการให้คดีจบสิ้นกระบวนความ ปราศจากข้อสงสัย
ส่วนคดีที่ต้องจับตากันต่อไป คือ
1.การสั่งคดีของสำนักงานอัยการสูงสุด ต่อคุณทักษิณ ชินวัตร ในคดีความผิดตามมาตรา 112 วันที่ 10 เมษายน 2567 ว่าจะมีคำสั่งฟ้องหรือไม่
2..การกลับประเทศเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะยึดแนวทางทักษิณโมเดล หรือแนวทางพิเศษอื่นที่ไม่ต้องติดคุกเลยหรือไม่
3.การกลับประเทศไทย ของนายจักรภพ เพ็ญแข ที่มีคดีค้างเก่าข้อหาอั้งยี่ และเคยต้องคดีความมาตรา 112 จะถูกดำเนินคดีอย่างไร มาตรฐานเดียวกับผู้ต้องหาคนอื่นๆหรือไม่
4.มีผู้ต้องหาหนีคดี หรือลี้ภัยการเมืองอยู่ในต่างประเทศจำนวนหนึ่ง อาจจะทยอยกลับสู่ประเทศไทย จะได้รับการปฏิบัติในกระบวนการยุติธรรมอย่างไรหรือไม่
ขอให้สังคมได้จับตากันต่อไปว่า เมื่อระบอบทักษิณคืนชีพขึ้นมาแล้วนั้น จะทำให้กระบวนการยุติธรรมไทย บิดเบี้ยวหรือปฏิบัติแบบ2มาตรฐานหรือไม่