"เศรษฐา" อารมณ์บูด ถูกสื่อถามที่มา "เงินดิจิทัล" อย่าสร้างความสับสน แถลงเมื่อไรก็เมื่อนั้น "พิชิต" ยันแหล่งเงิน "ดิจิทัลวอลเล็ต" ชอบด้วยกฎหมาย มั่นใจแจกได้แน่นอน ด้าน "ปธ.วิปฝ่ายค้าน" เผยเตรียมพร้อมซักฟอกสัปดาห์หน้า "ก้าวไกล" เตรียม 30 ขุนพลถล่ม เชื่อปรับ ครม.คือทางออก

ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 26 มี.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเสร็จสิ้นการแถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เดินจากตึกนารีสโมสรมาดูอาหารที่นายกรัฐมนตรีนำมาเลี้ยงผู้สื่อข่าวข้างรังผู้สื่อข่าวที่ 3 ที่ประกอบด้วย ไก่ย่าง ส้มตำ ก๋วยเตี๋ยว และไอศกรีม เจ้าโปรดของนายกรัฐมนตรี โดยระหว่างเดินจากตึกนารีสโมสร นายกรัฐมนตรีได้หันมาถามผู้สื่อข่าวที่ติดตามทำข่าวว่า ทำไมไม่ไปฟังแผนการค้าไทยและเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนแถลงข่าวการดำเนินงานของรัฐบาลด้านการลงทุนและความร่วมมือกับภาคเอกชนต่างชาติ ซึ่งผู้สื่อข่าวได้แจ้งกับ นายกรัฐมนตรี ว่า มีทีมข่าวทำอยู่แล้ว ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะหันมาบอกกับผู้สื่อข่าวพร้อมกับหัวเราะว่า "ถ้าไม่ฟัง ห้ามถามด้วยนะ เพราะในการแถลงจะมีการลงรายละเอียด"

ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้ถามถึงแหล่งเงินในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตจะใช้จากที่ใด นายกรัฐมนตรี ถึงกับชักสีหน้า ก่อนจะบอกผู้สื่อข่าวคนดังกล่าวว่า "ก็ให้ฟังแถลงไง ผมบอกไปแล้ว คุณพูดเดี๋ยวมันก็จะสับสนตลอดเวลา คอยแถลงหน่อยได้ไหม" เมื่อถามว่า จะเป็นวันที่ 10 พ.ค.ใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี ตอบด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวทันทีว่า "เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นแหละ ที่เขาแถลงไปอ่ะ อย่าให้มีการสับสนเลย บอกขั้นตอนชัดเจนเรียบร้อยแล้ว"

จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้เดินดูอาหารที่นำมาเลี้ยงสื่อมวลชน พร้อมเปิดถังไอศกรีมและถามแม่ค้าว่า "หมดแล้วหรือ เฮ้ยหมดก่อนเลยหรือ" ขณะที่ผู้สื่อข่าวตอบกลับนายกรัฐมนตรี "มันอร่อย แต่ยังเก็บไว้ให้นายกรัฐมนตรีอยู่" ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ตอบกลับว่า "ไม่เป็นไร ขอบคุณครับ" ก่อนที่จะเดินขึ้นกับไทยคู่ฟ้า เพื่อรับประทานอาหารกลางวัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้จัดเตรียมไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

นายพิชิต ชื่นบาน ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี กล่าวกรณีที่ฝ่ายค้านวิจารณ์ว่านโยบายของรัฐบาลทำได้ไม่ตรงปก โดยเฉพาะนโยบายการแจกเงินผ่านดิจิทัล 10,000 บาท ว่า อยากให้ดูการแถลงข่าวของรัฐบาลมีกระบวนการขั้นตอนและการทำงานอย่างไร โดยหัวใจของนโยบายเรื่องนี้ คือแหล่งเงิน ซึ่งมีทั้งงบประมาณแผ่นดิน หรือแหล่งอื่นที่เปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ จึงขอให้ทุกคนใจเย็นรอฟังรายละเอียดอีกครั้งในวันที่ 10 เม.ย. ยืนยันว่ารัฐบาลมีทีเด็ด ในการบริหารจัดการใช้จ่ายงบประมาณให้มีประสิทธิภาพ ขอย้ำว่าเรื่องนี้ทำได้แน่นอนและการดำเนินการเป็นไปโดยชอบตามกฎหมาย และมีความจำเป็นต้องทำเพราะตอนนี้มีวิกฤติกำลังซื้อ ดังนั้นการที่บอกว่านโยบายนี้ไม่ตรงปก อยากให้กลับไปดูในคำแถลงที่ส่งให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง และขอให้ทุกคนรอดูจนสิ้นกระแสความก่อนจะวิพากษ์วิจารณ์อะไร ส่วนขั้นตอนต่างๆเชื่อว่าจะมีการชี้แจงรายละเอียดขั้นตอนต่างๆ

"ผมยืนยันความชอบเรื่องของ กฎหมายเกี่ยวกับเรื่องของแหล่งเงิน ว่าไม่มีอะไรที่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะนโยบายนี้สำคัญและเกี่ยวกับประชาชนทั้งประเทศ รัฐบาลต้องรอบคอบและระมัดระวัง เพราะมีข้อเสนอมาจากหลายหน่วยงาน รวมถึงใช้งบประมาณสูง และมีคณะบุคคลมาพิจารณาดำเนินการนโยบายนี้"
ผู้สื่อข่าวถามว่า มั่นใจว่าไทม์ไลน์การจ่ายเงินดังกล่าวในไตรมาส 3 จะเริ่มลงทะเบียน และสามารถแจกได้ในไตรมาส 4 ไม่มีการเลื่อนใช่หรือไม่ นายพิชิต กล่าวว่า ทุกอย่างเป็นไปตามที่ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง แถลงข่าว และยืนยันว่าทำได้และทำสำเร็จแน่นอน

ที่รัฐสภา นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงการประชุมวิปฝ่ายค้านในวันนี้ ว่า วาระการประชุมเป็นการเตรียมประชุมกฎหมายสำคัญที่เข้าสู่สภา โดยวันที่ 27 มี.ค.นี้ ร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียมฯ จะเข้าสู่สภาพิจารณารายมาตรา วาระ 2 และ 3 คาดว่าจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ส่วนอีกฉบับหนึ่งเป็นร่าง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ คาดว่าจะผ่านสภาได้ทั้ง 4 ร่าง อยากให้ประชาชนจับตามอง เนื่องจากร่างของคณะรัฐมนตรี พรรคก้าวไกลยังมองว่ามีปัญหาอยู่บ้าง เนื้อหาในบางประเด็นเข้มงวดเกิน พอดี นอกจากนี้วิปฝ่ายค้านยังประชุมถึงกรอบระยะเวลาการอภิปรายทั่วไปรัฐบาลแบบไม่ลงมติ ตามมาตรา 152 กำลังพิจารณาว่าจะให้งดประชุมสัปดาห์หน้า เพื่อให้ทุกพรรคฝ่ายค้านเตรียมตัวอภิปราย อย่างเต็มที่

ผู้สื่อข่าวถามถึงการจัดกำลังพลในการอภิปราย นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ของพรรคอื่นตนยังทราบไม่มาก แต่ในส่วนของพรรคก้าวไกล จำนวนผู้อภิปรายอยู่ที่ประมาณ 30 คน แบ่งหมวดหมู่ในเรื่องประเด็นเศรษฐกิจ การทุจริตคอร์รัปชัน ซีรีส์การเมือง การศึกษา สิ่งแวดล้อม สังคม ส่วนการเรียงลำดับอภิปราย ขอไปพูดคุยกันอีกครั้งก่อน

เมื่อถามว่า เห็นสว.อภิปรายแล้ว จะต้องนำมาปรับเกมฝั่ง สส.อย่างไร นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ติดตามอยู่ มีบางส่วนที่หยิบยกมาใช้ได้ สส.แต่ละคนที่มีประเด็นของตัวเองอยู่แล้ว ก็ได้ติดตามสว.อภิปราย รวมถึงฟังคำตอบที่รัฐมนตรีแต่ละคนชี้แจงด้วย ซึ่งก็อาจจะมีการปรับเปลี่ยนหรือมีคำถามเพิ่มเติม โดยฟังรัฐมนตรีบางท่านตอบแล้ว อาจจะต้องหยิบยกมาถามอีกรอบในสภาผู้แทนราษฎร

เมื่อถามว่า แม้จะไม่มีการลงมติ แต่จะสามารถเขย่าจนปรับครม. ได้หรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ในบางประเด็นเราก็คาดหวัง เพราะรัฐมนตรีอาจทำหน้าที่บกพร่อง ซึ่งคาดหวังว่ารัฐบาลคงจะหยิบไป อย่างน้อยๆ นายกรัฐมนตรีก็คงจะมีการกำชับรัฐมนตรีบางท่านให้ปรับปรุงการทำงาน โดยการปรับครม.ก็จะเป็นวิธีการที่ดีก็ได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับรัฐบาล บางกระทรวงอาจจะมีผลงานที่ไม่ดี มีข้อครหาใด ๆ การปรับ ครม. ก็เป็นทางออก

เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านเองก็ถูกจับตามอง อย่าง น.ส.ธิษะณา ชุณหะวัณ และน.ส.รักชนก ศรีนอก 2 สส.กทม. พรรคก้าวไกล ที่อภิปรายผิดมาตรา และมีการอ่านเลขงบฯผิดด้วย จะต้องมีการกำชับหรือตักเตือนหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ตนไปพูดคุยแล้ว มองว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ถามว่าควรผิดหรือไม่ ตนก็ยอมรับว่าไม่ควรผิด

"ผมคิดว่าใช้คำว่าตักเตือนแรงไปเลยนะ มันก็ไม่ได้จำเป็นขนาดนั้น แต่เราก็ให้คำแนะนำแล้วกันว่าควรจะทำอย่างไร ผมรู้นะว่าตัวเลขหลายหลัก ถ้าเราไม่มีอยู่ในสคริปต์ อย่างน้อยๆ ก็ต้องดูทีละตัว ผมก็แนะนำไปว่าทำอย่างไร แต่ความผิดพลาดก็เกิดขึ้นได้ ผมก็คิดว่าสามารถปรับปรุงตัวเองได้ ทั้งคู่ก็เป็น สส. สมัยแรก ปีแรกด้วยซ้ำ ยังมีโอกาสที่จะปรับตัวอีกเยอะ ผมคิดว่าประเด็นที่มันเล็กๆน้อยๆแบบนี้ ถ้าเรามองย้อนกลับไป 10 กว่าปีที่แล้ว ประเด็นการพูดผิดแล้วตะกุกตะกัก แล้วนำมา โจมตีกันว่าไม่เหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่ง ผมว่ามันพอได้แล้ว มันคงไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่ขนาดนั้น" นายปกรณ์วุฒิ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีเรื่อง นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ที่เต้นออกนอกห้องประชุมด้วย นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ก็ประท้วงกันไป คิดว่าถ้าพรุ่งนี้ฝั่งรัฐบาลหารือในสภา แล้วนายวิโรจน์ลุกขึ้นชี้แจง ก็เป็นสิทธิของ นายวิโรจน์ เมื่อถามย้ำว่า ไม่ได้ห้ามใช่หรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ไม่ได้มีอะไร ส่วนจะกระทบภาพลักษณ์หรือไม่ คิดว่าก็วิพากษ์วิจารณ์กันได้

สำหรับที่วิจารณ์ว่า การเมืองใหม่แต่ยังทำเหมือนเดิมอยู่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ยังไม่เคยเห็นว่า 10 ปีที่แล้ว เขาเต้นกันในสภาเลย อาจจะใหม่ก็ได้ อย่างไรก็ตามจะไปพูดคุยกับนายวิโรจน์อีกครั้ง ส่วนการอภิปรายงบประมาณ 2567 ที่ผ่านมา ตัวเลขคนที่ไม่ได้มาโหวต จะสะท้อนอะไรหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า จากที่สอบถามไปหลายคนก็มีความผิดพลาดจริง ๆ บางคนกำลังเตรียมอภิปราย มาตรา 152 อยู่ แต่ไม่ได้ยินเสียงออด ส่วนที่เหลือก็สามารถชี้แจงได้