‘ประเสริฐ’ มั่นใจ ‘ทักษิณ’ เดินทางเยือน”เพื่อไทย” ไม่ได้เป็นการครอบงำพรรค จนนำไปสู่ยุบพรรค ยันไปไหนมาไหนได้ เพราะไม่ได้มีข้อห้าม เชื่อกระแสนิยมพรรค ไม่ได้ขึ้นอยู่กับ”อดีตนายกฯ” แต่ขึ้นอยู่กับผลงานรัฐบาลมากกว่า ด้าน‘ทวี’ชี้”ทักษิณ”ไป”เพื่อไทย”ทำได้ หากไม่ขัดเงื่อนไขพักโทษ ด้าน 'ธรรมนัส'ยัน'เศรษฐา'ไม่ติดใจข่าวลือดัน 'ลุงป้อม'นายกฯ ย้ำหนุน'ไผ่ ลิกค์'นั่งรมต.
เมื่อวันที่ 25 มี.ค.67 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวถึงกรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางเข้าพรรคเพื่อไทยในวันที่ 26 มี.ค.นี้ เกรงกันว่าอาจจะถูกร้องเรียนกรณีการครอบงำพรรค ซึ่งมีโทษถึงยุบพรรค ว่า ไม่เกี่ยว คนละประเด็นกัน ซึ่งนายทักษิณเป็นอดีตผู้ก่อตั้งพรรคไทยรักไทย และในวันนี้ไม่ได้มีข้อห้ามที่จะไม่ให้นายทักษิณไปไหนมาไหน โดยสมาชิกพรรคไม่ได้เป็นห่วงประเด็นนี้
เมื่อถามว่า หากมีคนไปยื่นยุบพรรคเพื่อไทยกรณีนายทักษิณครอบงำพรรคจะดำเนินการอย่างไร นายประเสริฐกล่าวว่า ถ้ามองว่าเป็นการครอบงำ ไม่ใช่เลย แต่น่าจะเป็นเรื่องของการให้ความเคารพนับถือกันมากกว่า ที่สมาชิกกับนายทักษิณ สามารถไปมาหาสู่กันได้อยู่แล้ว ไม่ได้เสียหายอะไร และไม่ได้เป็นการครอบงำ
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่นายทักษิณเดินทางไปพรรคเพื่อไทยอาจทำให้มองไปในลักษณะแบบนั้นได้ นายประเสริฐ กล่าวว่า นายทักษิณเดินทางไปไหนก็ได้ อย่าลืมว่านายทักษิณเป็นผู้ก่อตั้งพรรคไทยรักไทย จนมาพรรคพลังประชาชน และล่าสุดพรรคเพื่อไทย แม้ว่าช่วงเวลาหนึ่งนายทักษิณจะไปอยู่ที่ต่างประเทศ แต่เมื่อนายทักษิณกลับมาประเทศไทย ก็ยังมีความผูกพันอยู่
เมื่อถามว่า ในอนาคตมีโอกาสที่นายทักษิณจะเข้ามาดูแลพรรคอย่างเต็มตัวหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ขณะนี้นายทักษิณไม่ได้เป็นสมาชิกและกรรมการบริหารพรรค ส่วนอนาคตนั้นตนไม่ทราบ เมื่อถามว่า การเคลื่อนไหวของนายทักษิณขณะนี้ทำให้คนมองว่าดึงภาพรัฐบาลให้ต่ำลงไม่สามารถต่อสู้กับพรรคก้าวไกลได้ นายประเสริฐ กล่าวว่า ไม่ได้ขึ้นอยู่กับนายทักษิณ จะเคลื่อนไหวหรือไม่เคลื่อนไหว แต่กระแสนิยมขึ้นอยู่กับผลงานของรัฐบาลมากกว่า เมื่อถามอีกว่า วันพรุ่งนี้จะเดินทางเข้าพรรคเพื่อไทยพบนายทักษิณหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ตนมีประชุมคณะรัฐมนตรีและมีการประชุมต่อจากนั้นอีก จึงยังไม่แน่ใจว่าจะเข้าพรรคหรือไม่ ขอดูเวลาที่เหมาะสมที่จะไปพบนายทักษิณ
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เปิดเผยถึงกรณีมีรายงานข่าวระบุ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่อยู่ระหว่างการพักโทษจะเข้าไปที่พรรคเพื่อไทยในวันที่ 26 มี.ค.ว่า ตนไม่ได้ติดตามข่าว หากไม่ติดเงื่อนไขการพักโทษของกรมคุมประพฤติก็สามารถทำได้ เนื่องจากยังถือว่ามีศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์เหมือนกัน ส่วนจะเป็นการครอบงำพรรคหรือไม่นั้น ก็เป็นเรื่องของการเมือง
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงกรณีที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางเข้าพรรคเพื่อไทย ว่า ก็ไม่ได้ผิดเงื่อนไขอะไร เพราะเขาไม่ได้เขียนอยู่ในข้อห้ามของบุคคลที่อยู่ในระหว่างคุมประพฤติ ระหว่างการพักโทษ ก็ไม่เห็นจะมีอะไร ไม่ได้มีข้อห้ามอะไร หากบุคคลที่เขาหนีคดีความ มีคำพิพากษาให้ต้องโทษ แล้วเราเป็นรัฐมนตรีไปพูดคุยกับบุคคลดังกล่าว ก็อาจจะมีเรื่องของวินัยอะไรเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ว่าอันนี้ไม่ใช่ เลยพ้นระยะเวลานั้นแล้ว ไม่มีปัญหาอะไรทั้งสิ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทางพรรคเพื่อไทยเป็นห่วงในประเด็นนี้หรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า ไม่มี ไม่มีข้อห้าม ไม่มีกฎหมายห้าม ถ้าก่อนหน้านี้หากเป็นคนที่มีหมายศาลแล้ว เราไปนั่งคุย อาจจะมีคนร้องเรียนเรื่องวินัยได้ แต่มันไม่มีใครไปร้องหรอก เพราะมันไม่มีความผิด เมื่อถามว่า จากการออกมาเดิน หรือว่าเคลื่อนไหวต่างๆ แปลว่านายทักษิณหายดี แข็งแรงแล้วใช่หรือ ไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า คนอายุ 70 กว่าจะไปแข็งแรงอะไร มีผมคนเดียวนี่แหละที่แข็งแรงเตะบอลได้ ส่วนเรื่องที่พรรคก้าวไกลเหน็บนั้น ตนไม่ทราบ เขาก็อาจจะอิจฉา เมื่อถามว่า แม้จะไม่มีกฎหมายห้ามตรงนี้ แต่อาจมีคนถามว่าเหมาะสมหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ก็ไม่เป็นไรก็ถามมา ก็ตอบไป ตนก็ว่าเหมาะสม
นายสมศักดิ์ ยังกล่าวอีกว่า อย่างกองทุนหมู่บ้านที่ตนกำกับดูแลอยู่ ตนก็ได้บอกว่า คนที่ตั้งกองทุนหมู่บ้านท่านกลับมาแล้ว การพัฒนากองทุนให้แข็งแกร่ง หากมีโอกาสก็จะไปปรึกษา หากไปพรรควันที่ 26 มี.ค. ตนก็จะไปด้วย เพราะว่าตนรู้ว่าที่มาของกองทุนหมู่บ้านอยู่ที่ไหน ตนก็ต้องไปถาม ตนจะไปเลี้ยงปศุสัตว์ให้เกษตรกรลงทุน เพื่อเพิ่มกำลังซื้อให้กับคนจน อย่างวันนี้ ส.ว.ถาม ตนก็จะเข้าไปตอบตอน 2 ทุ่ม
เมื่อถามว่า การที่นายทักษิณออกมาเคลื่อนไหวจะทำให้กระแสนิยมของพรรคเพื่อไทยตกลงหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ล่ะ กระแสดีขึ้น ไปไหนก็บอกว่าคนก่อตั้งหน่วยงานต่างๆ ที่ตนดูแลอยู่กลับมาแล้ว มั่นใจว่าจะทำได้ไม่ผิดเงื่อนไข อะไรที่ถามได้เราก็ต้องถามให้เป็นประโยชน์กับคนส่วนใหญ่กับประเทศชาติ เราก็รู้ว่าท่านทักษิณทำพรรคการเมืองได้รับความนิยมตลอดระยะเวลายาวนานกว่านักการเมืองคนอื่นๆ พรรคการเมืองอื่นๆ ก็เล็กลงๆ ตามเวลา เพราะว่าการบริหารการเมือง บริหารความต้องการของประชาชนนั้น มั่นใจว่านายทักษิณทำได้ และที่เป็นที่ปรึกษาที่ดีด้วย และนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ก็ยินดีที่จะไปปรึกษา ตนว่าได้ประโยชน์
ผู้สื่อข่าวถามว่า ผลสำรวจจากนิด้าโพลชี้ว่าคะแนนนิยมลดลง นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ให้รอดูต่อไป เวลาเลือกตั้งจะวิ่งกันเข้ามาช่วยพรรคเพื่อไทยกันเต็มไปหมด แต่ย้ำว่าไม่ได้เกี่ยวกับยุบพรรคก้าวไกล เพราะตนยังไม่รู้ยังไม่รู้ว่าจะยุบหรือไม่เลย ส่วนหากยุบแล้วพรรคจะรับหรือไม่นั้นตนตอบแทนพรรคไม่ได้ ในส่วนตัวตนว่าต้องรอดูจะยุบไม่ยุบตนไม่ทราบหรอก เมื่อถามว่าการที่นายทักษิณ เข้ามาจะสามารถทำงานแซงหน้าก้าวไกลได้หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า อย่าไปเทียบกับพรรคการเมืองอื่น พรรคอื่นเขาก็ยังไม่เคยทำงาน หรืออะไรต่างๆ เขาก็พูดได้ทุกมุม แต่เราอย่าไปพูดถึงพรรคอื่นเลย เรามาดูพวกเราเถอะว่าขณะนี้พวกเราทำอะไรกันบ้าง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในอนาคตจะมีโอกาสที่นายทักษิณเข้าพรรคเพื่อไทยเต็มตัวหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ ไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรค ดีใจที่ท่านจะไปให้คำปรึกษาพูดคุย เมื่อถามว่า กังวลว่าฝ่ายค้านจะนำเรื่องนี้เข้าไปสมทบในการอภิปราย มาตรา 152 หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่มีลงมติจะไปอะไรมากมาย ถามมาก็ตอบไป ใครรู้แค่ไหนก็ตอบ อภิปรายไม่ลงมติก็เหมือนแนะนำสอบถาม อะไรดีเราก็รับไปอะไรไม่ดีเราก็ตอบไป ประชาชนก็จะได้รู้ข้อมูลอีกด้าน ดีมากเลย วันนี้เราต้องเปิดเผย เราจะปิดบังหรืองุบงิบทำนู่นนี่ไม่ได้
เมื่อถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่าเมื่อนายทักษิณกลับมาแล้วครั้งหน้าเพื่อไทยแลนด์สไลด์แน่ๆ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า คิดว่าดีขึ้น แต่ดีเท่าไหร่เดี๋ยวคำพูดของตนจะเป็นเครื่องกดดัน ไม่ดี เมื่อถามต่อว่า มีโอกาสที่พรรคเพื่อไทยจะได้เป็นรัฐบาลพรรคเดียวหรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า เขาก็อยากได้กันอย่างนั้น แต่จะทำได้หรือไม่ได้ก็ต้องดูผลงานในขณะนี้ เมื่อถามว่า การที่นายทักษิณกลับมามีความเคลื่อนไหวจะมีผลกับสนามเฉพาะหน้าอย่างการเลือกตั้ง อบจ.หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า อย่าไปเอาโยงกัน พรรคเพื่อไทยก็ต้องมีคนของพรรค แต่จะเปิดตัวเมื่อไรอย่างไรก็รอดู แต่ก็คงไม่นาน
ด้าน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นเรื่องไม่ได้ไปร่วมบวงสรวงของพรรคพลังประชารัฐ ว่า เนื่องจากตนลาราชการไปที่ต่างประเทศ หลังจากงบฯ ของกระทรวงเกษตรฯ ผ่านวาระการพิจารณาของที่ประชุมรัฐสภา ซึ่งได้ลาราชการล่วงหน้าไว้แล้ว ไม่ใช่การลาเพื่อไม่ร่วมงานของพรรค และไม่มีประเด็นใด
เมื่อถามว่า มีหลายฝ่ายมองว่าร.อ.ธรรมนัสเดินทางไปจ.เชียงใหม่รับนายกฯ แต่งานของพรรคตัวเองไม่ค่อยไปนั้น ร.อ.ธรรมนัส กล่าวปฏิเสธว่า ตนมีการประชุมส.ส.ทุกวันพุธ มีลงพื้นที่ให้กับส.ส. และอดีตผู้สมัครตลอดเวลา ฉะนั้นการทำงานร่วมกับพรรคไม่จำเป็นต้องนั่งประชุมอยู่ในห้องแอร์ โดยใช้จินตนาการ ซึ่งไม่ใช่การทำงานของตน เพราะตนทำงานภาคสนาม
สำหรับกรณีที่มีบางสื่อพาดหัวข่าวมีเกมการเมืองให้โหวตคว่ำพ.ร.บ.งบประมาณในที่ประชุมสภาเพื่อดัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้มีการเปลี่ยนตัวเป็นนายกรัฐมนตรี ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เนื่องจากตนอยู่ต่างประเทศ และทราบเรื่องพร้อมกับสื่อมวลชน ซึ่งได้ตรวจสอบกับส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐแล้ว ไม่มีความเคลื่อนไหวอะไร ส่วนนายกรัฐมนตรีก็ไม่ได้ติดใจ หรือสอบถามอะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้สอบถามพล.อ.ประวิตรในเรื่องนี้หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศเมื่อคืน และยังไม่ได้เจอหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งได้เจอพล.อ.ประวิตรครั้งล่าสุดคือการประชุมพรรค ก่อนเดินทางไปประชุมครม.สัญจรที่จ.พะเยา เมื่อถามย้ำว่า ยืนยันยังเป็นน้องที่น่ารักเหมือนเดิมของพล.อ.ประวิตรใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส ตอบว่า "ผมเป็นน้องที่น่ารักของพี่ๆ ทุกคน และเป็นพี่ที่น่ารักของน้องๆ ทุกคน"
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวจะเปลี่ยนตัวรมว.คลังแล้ว ซึ่งในโควตารัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐยังว่างอยู่ ตอนนี้มีการพิจารณาอย่างไรบ้าง ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ในส่วนของโควตาครม.ของพรรคพลังประชารัฐยังว่างอยู่อีก 1 ตำแหน่ง ถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรก็ตาม ก็คงจะสนับสนุนท่านเดิมคือ นายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมวินิจฉัยคุณสมบัติ และโควตาของพรรคยังคงเดิมไม่มีเปลี่ยน โดยส่วนของรัฐมนตรีท่านอื่นของพรรคพลังประชารัฐไม่มีเปลี่ยนแปลง เป็นเรื่องที่หัวหน้าพรรคประชารัฐกำชับมาโดยตลอดเวลา เมื่อถามย้ำว่า เรื่องที่มีการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย สามารถเปิดเผยได้หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส ไม่สามารถพูดในที่นี้ได้ แต่ยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องร้ายแรง