วันที่ 25 มี.ค.67 เวลา 10.00 น.ผู้สื่อข่าวได้รับร้องเรียนจาก นายอรรถพร อายุ 54 ปี ผจก.บริษัทระยองสื่อสารและเป็นตัวแทนผู้ดูแลตู้เติมเงินยี่ห้อดังในจังหวัดระยอง กรณีที่พนักงานสอบสวนสภ.บ้านค่าย จ.ระยอง ทำสำนวนสั่งฟ้องผู้ต้องหา 2 ราย คดีลักทรัพย์ งัดตู้เติมเงินในเขตพื้นที่อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ได้ส่งสำนวนต่ออัยการสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ไปยังศาลจังหวัดระยอง ซึ่งศาลจังหวัดระยองได้พิพากษายกฟ้องเนื่องจากการจับกุมมิใช่โดยเจ้าหน้าที่พนักงานตำรวจ จึงเป็นการจับกุมโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ศาลจึงมีคำพิพากษายกฟ้องโจทก์ ทำให้ผู้ต้องหาผัวเมียทั้ง 2 ราย ออกมาตระเวนก่อเหตุซ้ำอีกมากกว่า 40 ตู้ สูญเงินหลักแสนบาท

นายอรรถพร   เปิดเผยว่าตนเองเป็นตัวแทนผู้ดูแลตู้เติมเงินยี่ห้อดังในจังหวัดระยองทั้งหมด ที่ผ่านมาได้มีคนร้ายสองผัวเมีย ออกตระเวนก่อเหตุงัดตู้เติมเงินเพื่อลักเงินในกล่อง บางตู้ก็มีการยกไปทั้งตู้ซึ่งมีภาพกล้องวงจรปิดบันทึกภาพไว้ขณะคนร้ายก่อเหตุ จึงได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนหลายพื้นที่ในจังหวัดระยอง ก่อเหตุมาแล้วไม่น้อยกว่า 40 ตู้

จากนั้นทางบริษัทได้ส่งทีมโจรกรรมเป็นภาคเอกชนเข้ามาติดตามจับกุมคนร้ายได้และนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสภ.บ้านค่ายเพื่อให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่ต่อมาพนักงานสอบสวนได้ส่งสำนวนฟ้องต่อศาลจังหวัดระยอง ซึ่งศาลพิจารณาแล้วสั่งยกฟ้องคนร้ายสองผัวเมียดังกล่าว สาเหตุจากพนักงานสอบสวนทำสำนวนไม่รัดกุมทำให้ผู้ต้องหาออกมาก่อเหตุตระเวนงัดซ้ำอีก และขณะนี้ได้แจ้งความไว้หลายพื้นที่ ทางพนักงานงานสอบสวนรับปากเพียงว่าจะออกหมายเรียกผู้ต้องหาทั้งสองมาทำสำนวนใหม่ ซึ่งคิดว่าคนร้ายทั้งสองไม่เข้ามาตามหมายเรียกแน่นอนเพราะยังออกก่อเหตุซ้ำอีกหลายพื้นที่ 

ทั้งนี้จึงอยากให้ทางหัวหน้าพนักงานสอบสวนแต่ละสภ.ที่แจ้งความไว้เร่งทำสำนวนและออกหมายจับคนร้าย เพื่อให้จนท.ตร.ชุดสืบสวนจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเร่งด่วน เพราะเรื่องนี้เป็นความเดือดร้อนของชาวบ้านเป็นอย่างมาก