EURO ตั้งเป้ารายได้ปี 67 โตเกิน 15% แตะ 1,400 ล้านบาท จากธุรกิจเดิม 10-12%  จากการขยายธุรกิจ 5-6% ซึ่งโตตามศักยภาพของตลาดลักชัวรี่  ฟากผู้บริหาร “เควิน กัมบีร์” ระบุครึ่งปีแรกเปิดโชว์รูมใหม่ 2 แห่ง ดีลแบรนด์ชั้นระดับนำระดับโลกเติมพอร์ต 3 แบรนด์ วางกลยุทธ์เจาะตลาดใหม่ รักษาฐานลูกค้าเดิมและขยายฐานลูกค้าใหม่ ตุน Sales Order คงค้างแล้ว 1,009 ล้านบาท มั่นใจดันผลงานออลไทม์ไฮ

นายเควิน กัมบีร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูโร ครีเอชั่นส์ จำกัด (มหาชน) (EURO) ผู้ประกอบการชั้นนำในธุรกิจ “Luxurious & High Quality Living” เปิดเผยว่า ในปี 2567 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 15% จากปีก่อน หรือไม่น้อยกว่า 1,400 ล้านบาท โดยคาดการณ์เติบโตจากธุรกิจเดิมประมาณ 10-12% ประกอบด้วย 1.กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับงานสถาปัตยกรรมงานภายใน 2.กลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อการใช้งานในพื้นที่ต่างๆ ภายในบ้านและอาคาร  และ 3.กลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อการประดับตกแต่งและอุปกรณ์ฟิตเนส และเติบโตจากการขยายธุรกิจประมาณ 5-6% อาทิ จากการเปิดโชว์รูมแห่งใหม่ และขยายหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์เพิ่มแบรนด์ใหม่เข้าพอร์ต

ทั้งนี้บริษัทฯ มีโชว์รูมที่เปิดดำเนินการแล้วทั้งสิ้น 5 แห่ง ได้แก่ (1) Euro Creations Flagship Gallery at Thonglor (2) Natuzzi Italia at Siam Paragon (3) Euro Creations Gallery at Crystal Design Center (4) Technogym Flagship Showroom at Ekamai และ (5) Technogym Showroom at Central Embassy และมีแผนขยายโชว์รูมแห่งใหม่ จำนวน 3 แห่ง  ได้แก่ Euro Gallery at Thonglor Soi 5 และ Euro Creations Flagship Gallery at Phuket  และ Euro Creations Gallery at Thonglor Soi 1

"ผลการดำเนินงานปี 2567 มีแนวโน้มเติบโตแข็งแกร่ง ตามศักยภาพของตลาดลักชัวรี่ ส่งผลให้ยอดคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น อีกทั้งบริษัทฯ ยังจับมือพารท์เนอร์ใหม่เป็นแบรนด์ชั้นนำ ประกอบด้วย Poltrona Frau แบรนด์เฟอร์นิเจอร์หนัง Top3 ของโลก,Frette ชุดเครื่องนอนที่ได้รับการยกย่องว่าดีที่สุดของโลกและเป็นแบรนด์เก่าแก่จากอิตาลี และ Haworth แบรนด์เฟอร์นิเจอร์สำนักงาน ที่ขึ้นชื่อเรื่องเก้าอี้ที่นั่งสบายที่สุดในโลกเช่นกัน นอกจากนี้เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้เปิดซอฟต์โอเพนนิ่งโชว์รูมใหม่ที่ภูเก็ต ซึ่งเร็วกว่าแผนงานที่วางไว้ประมาณ 1 เดือน โดยมีกระแสตอบรับที่ดี และคาดว่าจะสามารถเปิดโชว์รูม Euro Creations Gallery at Thonglor Soi 5 ได้ประมาณปลายไตรมาส 2/2567 ทำให้เชื่อมั่นว่าจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ผลการดำเนินงานทั้งส่วนรายได้และกำไรเติบโตสร้างสถิติสูงสุดใหม่" นายเควิน กล่าว

สำหรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ บริษัทฯ มุ่งเน้นการเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดด้วยการเจาะตลาดปัจจุบันและตลาดใหม่ด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ในปัจจุบัน  เพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับกลุ่มลูกค้าปัจจุบันและลูกค้าใหม่ เพิ่มสินค้าหลายประเภทจากเจ้าของสินค้าที่แตกต่างกันเพิ่มขึ้น เพื่อให้สามารถขายสินค้าและบริการเกี่ยวกับการใช้ชีวิตของลูกค้าได้อย่างครบวงจร (Total Living Solutions) และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ในทุกขั้นตอนของการตกแต่ง ทั้งบ้าน โรงแรม อาคารสำนักงาน และสปอร์ตคลับ ณ ต้นปี บริษัทฯ มียอดคำสั่งซื้อสินค้าของลูกค้าคงค้าง (Sales Order Outstanding) ประมาณ 1,009 ล้านบาท ทยอยรับรู้ในปีนี้ประมาณ 87%  ส่วนที่เหลือทยอยรับรู้ในปีถัดไป