วันที่ 21 มีนาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า เจ้าหน้าที่ ตำรวจ และ ราชทัณฑ์ ได้ระดมกำลังไล่ล่าติดตามตัว  นักโทษชาย กิตติพจน์  อายุ 38 ปี  คดียาเสพติด ยาบ้า จำนวน 443 เม็ด  เข้ารักษาตัวด้วยอาการคลุ้มคลั่ง  ที่แผนกจิตเวช โรงพยาบาลน่าน  หลบหนีพร้อมโซ่ตรวจ ออกจากโรงพยาบาลน่าน อ.เมืองน่าน   เมื่อเวลา 02.50 น. ของวันนี้

จากการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นชั้น 5 ตึกวันน่านสันติสุข โรงพยาบาลน่าน   พบว่าได้งัดโครงเหล็กดัดแล้วแล้วปีนหลบหนีลงไปด้านล่าง และจากการตรวจสอบ กล้องวงจรปิดของโรงพยาบาลน่าน พบว่า นช.กิตติพจน์  สวมใส่กางเกงสีม่วง ของผู้ป่วยโรงพยาบาลน่าน หลบหนีพร้อมโซ่ตรวน ข้ามสะพานนครพัฒนา ไปฝั่งอำเภอภูเพียง 

โดยมีพลเมืองดีแจ้งเบาะแสว่าพบอยู่ในพื้นที่บ้านปัวชัย ตำบลฝายแก้ว  อำเภอภูเพียง  เข้ามาถามทางไปกรมทหารพรานที่ 32 ฐานแสงเพ็ญ และมาขอให้ช่วยถอดโซ่ตรวนที่ตีตรวนไว้ตรงขา   ทำให้ชาวบ้านสงสัย จึงถามว่าหลบหนีมาจากไหน  แต่นช.กิตติพจน์ อ้างว่า หลบหนีมาจากชั้น 5 โรงพยาบาลน่าน  ไม่ได้ป่วยเป็นจิตเวชแต่ถูกจับมารักษา และหมอจะฉีดยาเลยหนีออกมา แต่ชาวบ้านไม่เชื่อจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ  ซึ่งนช.เห็นท่าไม่ดีจึงเดินหนีไปทางทุ่งนา

ในเวลา 11.30 น. เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวได้ ขณะนั่งพักเหนื่อยที่ใต้ต้นมะขามกลางทุ่งนา โดยสวมเสื้อสีดำ กางเกงขาสั้นสีดำ รองเท้าผ้าใบสีชมพู และไม่มีโซ่ตรวนที่แล้ว   โดยขณะเข้าจับกุม นช.กิตติพจน์ ได้ขัดขืนและวิ่งหลบหนี เจ้าหน้าที่กระจายกำลังติดตาม และจับได้ที่ฃบริเวณสวนป่าด้านหลังโรงเรียนบ้านทุ่งน้อย ตำบลฝายแก้ว อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน 

ซึ่ง นช.กิตติพจน์ สารภาพว่า  เมื่อ 3 วันก่อน แฟนตนได้มาขอเยี่ยมที่เรือนจำจังหวัดน่าน เพื่อมาขอเลิกเนื่องจากมีชายคนใหม่แล้ว พร้อมกับขอทรัพย์สินทั้งหมด  ทำให้ตนเครียดและควบคุมตัวเองไม่ได้ คลุ้มคลั่ง จนเจ้าหน้าที่ต้องส่งมารักษาที่โรงพยาบาล  และอาศัยจังหวะที่เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จัดเวรยามเฝ้าเพียงประตูด้านนอก เนื่องจากเป็นแผนกจิตเวชไม่สามารถไปเฝ้าด้านในได้  จึงทำการรงัดลูกกรงที่โรงพยาบาลน่าน และปีนด้านหลังตึกลงมาจากชั้น 5 แล้วข้ามถนน  ตั้งใจว่าจะไปหาพ่อที่เป็นทหารพรานที่อยู่ฐานแสงเพ็ญ แต่จังหวะที่กำลังเดินบนสะพานมีรถยนต์ขับมาพอดีจึงตกใจ กระโดดสะพานไป  จากนั้นกางเกงที่ใส่มาหลุดหาย ตนจึงว่ายน้ำมาเรื่อยๆ จนมาขึ้นฝั่ง และเจอชาวบ้านเลยขอเสื้อผ้ามาใส่  

ทั้งนี้ตนได้ไปถามทางและขอให้ชาวบ้านช่วยถอดโซ่ตรวน แต่ไม่มีใครช่วย ตนจึงเดินลัดกลางทุ่งนา เพื่อจะไปหาพ่อที่อยู่ฐานแสงเพ็ญ   ขณะเดินหลบหนีพบค้อนของชาวบ้านที่ทิ้งไว้กลางทุ่งนา จึงเอามาตีโซ่ตรวนจนหลุดและมานั่งพักที่ใต้ต้นมะขาม และเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มาพบในที่สุด   

โดยเจ้าหน้าที่บันทึกเป็นหลักฐาน  ก่อนควบคุมตัวนำไปกักขังไว้ที่เรือนจำจังหวัดน่าน พร้อมแจ้งข้อหาเพิ่มหลบหนีสถานที่คุมขัง ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำ ทั้งปรับ ซึ่งโทษที่เพิ่มขึ้นจะถูกนำมารวมกับโทษในคดีที่ยังเหลืออยู่ต่อไป

สำหรับ นช.กิตติพจน์ หรือ ป๊อบ  อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาในคดีข้อหา 1.มีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษชนิดร้ายแรงประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน)โดย ไม่ได้รับอนุญาต   2.เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย  ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2567 เวลาประมาณ 15.30 น.  ที่บริเวณชายป่าเขตบ้านใหม่ชายแดน หมู่ 9 ตำบลชนแดน อำเภอสองแคว  จังหวัดน่าน   พร้อมกับ 2 คน ซึ่ง นช.กิตติพจน์   หรือ ป๊อบ   ถูกจับในห้วงระดมกวาดล้างอาชญากรรมทุกประเภทในพื้นที่รับผิดชอบ ห้วงเดือน มีนาคม 2567 ในพื้นที่รับผิดชอบเขต ต.ชนแดน อ.สองแคว จ.น่าน พร้อมด้วยของกลางมียาเสพติดให้โทษชนิดร้ายแรงประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) จำนวน 2 ถุง รวมทั้งหมดจำนวน 443 เม็ด

ซึ่งนายกิตติพจน์ฯยอมรับว่ายาบ้าทั้งหมดเป็นของตัวเองจริง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลาง ต่อมา ทาง พนักงานสอบสวน ได้นำตัวส่งฟ้องศาลฝากขังที่เรือนจำจังหวัดน่าน กระทั่งเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมามีอาการคลุ้มคลั่ง ทางเจ้าหน้าที่เรือนจำจึงได้นำส่ง เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลน่าน หลังจากนั้นได้หลบหนี ในระหว่างรักษาตัวดังกล่าว