“วราวุธ” ยกย่อง นักสังคมสงเคราะห์ อุทิศตน มีส่วนพัฒนาประเทศ พม. ตั้งเป้า คุณภาพชีวิตต้องดีขึ้น ปรับรูปแบบการทำงาน เน้น พัฒนา-เสริมสร้างศักยภาพ
เมื่อวันที่ 20 มี.ค.67 ที่กระทรวง พม. นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวผ่านวีดีทัศน์ในที่ประชุมวิชาการสวัสดิการสังคมและสังคมสงเคราะห์ ครั้งที่ 15 ประจำปี 2567 และระดับภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ครั้งที่ 7 ที่มี นายอนันต์ ดนตรี รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ , Dr. Sang-Mok Suh ประธานสภาสังคมสงเคราะห์ระหว่างประเทศ , Dr. Annamaria Campanini ประธานสมาคมสถาบันการศึกษาสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ระหว่างประเทศ , Prof. Machiko OHARA ประธานสมาพันธ์นักสังคมสงเคราะห์ระหว่างประเทศ ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก , Ms. Kyungsun Kim ผู้แทนองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย เข้าร่วม
นายวราวุธ กล่าวว่า เนื่องในโอกาส “วันสังคมสงเคราะห์โลก” ประจำปี 2567 ประเทศไทยในฐานะประเทศสมาชิกของสมาพันธ์นักสังคมสงเคราะห์ระหว่างประเทศ (IFSW) ตระหนักถึงบทบาทและความสำคัญของงานสังคมสงเคราะห์ มีนักสังคมสงเคราะห์และผู้ปฏิบัติงานสังคมสงเคราะห์ เป็นบุคลากรขับเคลื่อนและสร้างสรรค์งานสังคมสงเคราะห์เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน และมุ่งสู่การสร้างความกลมเกลียว และความสมานฉันท์ของชุมชนและสังคม
นายวราวุธ กล่าวว่า ปี 2567 การเฉลิมฉลองวันสังคมสงเคราะห์โลก จัดขึ้นในวันที่ 19 มีนาคม 2567 ณ สาธารณรัฐปานามา โดยสมาพันธ์นักสังคมสงเคราะห์ระหว่างประเทศ และได้กำหนดแนวคิดหลักในปีนี้ คือ "Buen Vivir: Shared Future for Transformative Change" "ชีวิตที่ดี : อนาคตร่วมกันเพื่อการเปลี่ยนแปลงระดับฐานราก" เพื่อกระตุ้นให้นักสังคมสงเคราะห์และผู้ปฏิบัติงานสังคมสงเคราะห์ได้ทบทวนแนวทางการปฏิบัติงาน
นายวราวุธ กล่าวว่า มุ่งเน้นภูมิปัญญาท้องถิ่นและแนวทางที่ขับเคลื่อน โดยชุมชนเป็นหัวใจหลักของแนวทางการปฏิบัติงาน หลักการ "Buen Vivir" จึงมุ่งเน้นไปที่ “ความเป็นอยู่ที่ดี” ของชุมชน ซึ่งมีรากฐานมาจากการอยู่รวมกันของชุมชนกับธรรมชาติ ที่อยู่ร่วมกันได้อย่างกลมกลืนและสมดุล ซึ่งสอดคล้องกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 อีกทั้งยังเป็นเครื่องเตือนใจสำหรับนักสังคมสงเคราะห์ ให้ตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงของกระบวนการขับเคลื่อนทางสังคม การสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก และการส่งเสริมชุมชนให้มีการพัฒนาและสร้างความเจริญบนพื้นฐานของความเคารพซึ่งกันและกันและความยั่งยืน
นายวราวุธ กล่าวว่า กระทรวง พม. และภาคีเครือข่าย ด้านสังคมสงเคราะห์ในประเทศไทยและภูมิภาค ร่วมกันจัดงานวันสังคมสงเคราะห์โลก ประจำปี 2567 เพื่อเป็นโอกาสนำเสนอภาพลักษณ์อันดีของประเทศไทย และการตระหนักรู้ของประชาคมโลกเกี่ยวกับผลดำเนินของรัฐบาลไทยในการขับเคลื่อนงานสังคมสงเคราะห์ งานสวัสดิการสังคม และการพัฒนาในภาคส่วนต่างๆ ทั่วประเทศ รวมถึงเป็นการใช้โอกาสในเวทีความร่วมมือระดับนานาชาติเพื่อยกย่องการอุทิศตนของนักสังคมสงเคราะห์ ผู้ปฏิบัติงานสังคมสงเคราะห์ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจากภาคส่วนต่างๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดบริการ กิจกรรม และโครงการด้านสังคมสงเคราะห์ สวัสดิการสังคม และการพัฒนาในประเทศ
นายวราวุธ กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพสังคมสงเคราะห์ และปฏิบัติงานในหน่วยงานภาครัฐและเอกชนทั่วประเทศกว่า 2,000 คน และจำเป็นที่จะต้องได้รับการฝึกฝน เพิ่มเติมความรู้ และพัฒนาทักษะให้มีความรู้และความสามารถในการสร้างความเปลี่ยนแปลงในระดับฐานรากให้เกิดขึ้นได้ ซึ่งกระทรวง พม. มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาสังคม และมุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างขีดความสามารถของนักสังคมสงเคราะห์และผู้ปฏิบัติงานด้านสังคมสงเคราะห์ ในการปฏิบัติหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพในโลกที่เปลี่ยนแปลง