“พริษฐ์” ไม่หวั่นยุบ “ก้าวไกล” ปัดเตรียมตั้งพรรคสำรอง บอกพร้อมรับทุกสถานการณ์ หวังศาลให้โอกาสพิสูจน์ความจริง บอกไม่ทราบ “ทนายพรรค” รวมตัวถกทางออก
เมื่อวันที่ 19 มี.ค. 2567 ที่ทำการพรรคก้าวไกล นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ส่งเรื่องคดียุบพรรคก้าวไกลให้ศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ว่า ขั้นตอนต่อไปคงต้องรอพรุ่งนี้ ว่าศาลจะรับคำร้องหรือไม่ และจะวางกระบวนการหลังจากนี้อย่างไร ซึ่งก็ต้องมีการแจ้งคำร้องมาให้กับพรรคก้าวไกล เราก็หวังว่าศาลจะให้โอกาสพรรคก้าวไกลได้แสดงความเห็นหรือชี้แจงเกี่ยวกับข้อกล่าวหาได้ ทางพรรคก้าวไกลและทีมกฎหมายจะทำเต็มที่เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง และไม่ปล่อยให้คดีนี้มาทำให้เสียสมาธิในการทำงานในสภาฯ
ส่วนที่แหล่งข่าวภายในพรรคก้าวไกลประเมินว่าจะมีการยุบพรรคในวันที่ 10 เม.ย. นั้น นายพริษฐ์ กล่าวว่า จะเร็วหรือช้า เราก็ต้องรับมือในทุกกรอบเวลา
เมื่อถามถึงพรรคสำรอง มีการเตรียมตัวไว้หรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า พรรคก้าวไกลเตรียมแผนรองรับทุกสถานการณ์อยู่แล้ว เพียงแต่ว่าในเมื่อสถานการณ์ยังไม่มาถึง ก็ยังไม่ลงรายละเอียดในตอนนี้ ท้ายที่สุด เราทั้ง 150 คน ถูกรับเลือกมาจากการเลือกตั้ง เพื่อพยายามผลักกันการเปลี่ยนแปลงที่เราได้สื่อสารในช่วงการเลือกตั้ง แม้จะไม่ได้เป็นรัฐบาล แต่ประชาชนก็คาดหวังให้เราใช้กลไกสภาในฐานะฝ่ายค้านอย่างเต็มที่ สส.ก้าวไกล ตื่นเช้ามา นอนหลับทุกคืน คิดแต่เรื่องงานเป็นหลัก ไม่ได้คิดว่าศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินเมื่อไหร่” นายพริษฐ์ กล่าว
เมื่อถามว่าการอภิปรายทั่วไป ตามมาตรา 152 อาจเป็นการอภิปรายครั้งสุดท้ายของพรรค นายพริษฐ์ ยืนยันว่าพรรคก้าวไกลจะทำเต็มที่ ตามมาตรฐานที่พรรคก้าวไกลได้สร้างไว้และจะยกระดับให้เข้มข้นขึ้น จะเป็นการอภิปรายครั้งที่เท่าไหร่ ของพรรคที่ชื่อว่าอะไรไม่ใช่เรื่องสำคัญ ตนยืนยันว่า สส.พรรคก้าวไกล จะใช้โอกาสทุกเวทีทุกพื้นที่อย่างเต็มที่ เพื่อตรวจสอบรัฐบาล
เมื่อถามย้ำว่าไม่ปิดทางเรื่องพรรคสำรองใช่หรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า เรามีแผนรับรองทุกสถานการณ์ เมื่อสถานการณ์มาถึงจะชี้แจงรายละเอียดอีกที ส่วนสถานะของผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ตนคิดว่าต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ
เมื่อถามว่าหากกรรมการบริหารพรรคโดนดำเนินคดีตัดสิทธิทางการเมือง จะลาออกก่อน เปิดทางให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไป เพื่อรักษาจำนวน สส. หรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน ตนเข้าใจถึงข้อเสนอนี้ เมื่อถึงจุดที่ต้องตัดสินใจคงมีการพูดคุยกัน ส่วนพรรคอนาคตไกลที่เริ่มมีการดำเนินการกิจการภายในพรรค นายพริษฐ์ กล่าวว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องกัน
เมื่อถามว่านายพริษฐ์อาจจะเป็นผู้นำรุ่นต่อไป นายพริษฐ์ กล่าวว่า เราไม่ได้ให้ความสำคัญเกี่ยวกับการวิเคราะห์ในประเด็นนั้น ณ วันนี้เราต้องทำเต็มที่ในการพิสูจน์ข้อเท็จจริง นอกจากนี้ ยังต้องยึดหลักการที่ทำให้พรรคการเมืองเป็นสถาบันทางการเมือง ซึ่งจะทำให้ประชาธิปไตยเข้มแข็ง พรรคการเมืองแข่งขันกันได้ ผลประโยชน์ตกอยู่ที่ประชาชน ยืนยันว่าพรรคก้าวไกลทำงานเต็มที่
เมื่อถามว่าเหตุผลที่ย้ายมาประชุมที่อาคารอนาคตใหม่ เป็นเพราะมีวาระสำคัญเรื่องการยุบพรรคใช่หรือไม่ นายพริษฐ์ ระบุว่า ไม่เกี่ยว แต่สาเหตุเป็นเพราะก่อนหน้านี้มีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 ทำให้ย้ายไปประชุมที่สภา เพื่อความสะดวกของ สส. แต่หลังจากนี้จะกลับมาประชุมที่ทำการพรรคเช่นเดิม
เมื่อถามว่ามีทนายความของพรรคมาด้วย จะมีการปรึกษาเรื่องข้อกฎหมายในคดียุบพรรคหรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการประชุม สส.ที่เกิดขึ้น แต่ไม่รู้ว่ามีการนัดหมายกับใครในที่นี้หรือไม่ เพราะในที่ทำการนี้ไม่ได้มีเฉพาะพรรคก้าวไกลเพียงอย่างเดียวแต่มีคณะก้าวหน้าด้วย
“ผมสารภาพว่าไม่ทราบว่าทางทนายมาพบปะกับใคร ในการประชุมอะไร ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการประชุม สส.พรรคครับ” นายพริษฐ์ กล่าว