“ไอติม”เผย“ก้าวไกล”ติวเข้มวางตัว สส.เตรียมพร้อมอภิปรายงบฯ67-ศึกซักฟอก ไม่ให้ซ้ำประเด็น แนะรัฐบาลให้ความสำคัญสภาฯ เชื่อเป็นปย.ฝ่ายบริหาร

เมื่อวันที่ 19 มี.ค. 2567 ที่อาคารอนาคตใหม่ ที่ทำการพรรคก้าวไกล นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวว่า อยากเชิญชวนให้พี่น้องประชาชนจับตาดูการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณ ปี 67 ยังมีอะไรที่ไม่สมเหตุสมผลอยู่หรือไม่ และรัฐบาลได้ทำเต็มที่หรือไม่ในการจัดสรรงบประมาณผ่านกลไกกรรมาธิการฯ เพื่อที่จะทำให้เป็นไปตามหรือสอดคล้องกับนโยบายที่รัฐบาลนั้นมีวาระไว้ ส่วนการวางตัวสส.พรรคก้าวไกลนั้น การจะเข้มข้นทุกวาระอยู่แล้ว หรือแทบจะทุกสัปดาห์ เพราะโดยเฉลี่ยแล้วจะมีกฎหมายของพรรคก้าวไกลเข้าสู่วาระที่ประชุมสภาเกือบทุกสัปดาห์ ทุกการประชุม จึงมีความสำคัญต่อการทำงานของพรรคก้าวไกล

“การอภิปรายงบประมาณ และการอภิปรายทั่วไป เป็นปกติที่พรรคก้าวไกลได้วางไว้ คือมีกระบวนการให้ สส.ที่มีความประสงค์จะอภิปรายมาลงชื่อ แล้วจึงมีการคัดเลือก เพื่อให้มั่นใจว่า จะมีการอภิปรายครอบคลุมทุกประเด็น และไม่ซ้ำซ้อนกันจนเกินไป เพราะทุกนาทีในสภาฯมีความหมาย ถ้าสองคนพูดเรื่องเดียวกัน ก็เป็นการใช้เวลาที่ไม่มีประสิทธิภาพมากที่สุด”โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าว

เมื่อถามว่าขณะนี้มี สส.ลงชื่อมากน้อยแค่ไหน นายพริษฐ์ กล่าวว่า การอภิปรายงบประมาณก็มีการลงชื่อพอสมควร เพราะส่วนใหญ่เป็น สส.ที่ทำงานอยู่ในกรรมาธิการงบประมาณฯ โดยตรง หรือ สส.ที่อยู่ในอนุกมธ.งบประมาณฯ แต่ก็ยังมี สส.ทั่วไปที่มีความสนใจด้วย ตนคิดว่าในมุมของ สส.ที่ได้อภิปรายในภาพรวมไปแล้วในวาระที่ 1 หากเห็นว่า มีการปรับเปลี่ยนหรือไม่ปรับเปลี่ยนอย่างไร ก็อาจมีความต้องการลงลึกไปในบางส่วนตามมา

เมื่อถามว่าจะฝากอะไรไปถึงรัฐบาลในการวางแผนงบประมาณ ปี 67 ที่ต่อเนื่องไปสู่งบประมาณ ปี 68 นายพริษฐ์ กล่าวว่า คู่ขนานไปกับการที่ สส.พรรคก้าวไกลมีส่วนร่วมในการตรวจสอบงบประมาณ ปี 67 ผ่านชั้นกรรมาธิการฯ ที่มีนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล เป็นผู้ริเริ่มกระบวนการคู่ขนาน เพื่อศึกษาการของบประมาณ ปี 68 ตั้งแต่ต้นน้ำ เพราะที่ผ่านมา ครั้งแรกที่สภาจะได้มีโอกาสตรวจสอบงบประมาณ มักจะเป็นหลังจากที่งบประมาณ มีการจัดทำมา และเสนอเป็นร่างเข้าสู่สภาเรียบร้อยแล้ว แต่สิ่งที่นายณัฐพงษ์พยายามทำ คือการที่ทำให้ สส.มีโอกาสเข้าไปตรวจสอบคำของบประมาณตั้งแต่ต้นทาง เพื่อจะได้เห็นว่า แต่ละหน่วยงานมีคำของบประมาณอะไรบ้าง และอาจมีการเสนอแนะไป หากเห็นว่าโครงการไหนดูจะตอบโจทย์หรือไม่ตอบโจทย์ เพื่อหวังที่จะเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจของฝ่ายบริหารว่า ควรอนุมัติคำของบประมาณอะไรบ้าง

เมื่อถามว่า แม้จะมีการทำคู่ขนาน แต่รัฐบาลยังมีการจัดทำงบประมาณแบบเดิม จะมีประโยชน์อะไรหรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า สิ่งที่เราตัดสินใจทำเรื่องนี้ เพราะเราเข้าใจดีว่า ถ้าเราอยากจะเปลี่ยนแปลงประเทศตามที่ประชาชนคาดหวัง ก็จำเป็นจะต้องมีการปฏิรูปกระบวนการในการจัดสรรงบประมาณ ดังนั้น หากอยากให้ประชาชนหรือ สส.ที่เป็นตัวแทนของประชาชน เข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น จะรอเพียงแค่ร่างที่เคาะจากฝ่ายบริหารและเสนอเข้าสู่สภา ก็อาจจะไม่ทันต่อการให้คำแนะนำ หรือการให้ข้อเสนอแนะ ดังนั้นการที่เราเปิดโอกาส และเพิ่มความโปร่งใส ให้ประชาชนเห็นถึงกระบวนการตัดสินใจก่อนหน้านั้น ก็จะเป็นส่วนสำคัญ หวังว่าความเห็นของ สส.ทุกพรรค จะเป็นประโยชน์ต่อรัฐบาล และหน่วยงานที่มีหน้าที่ในการตั้งงบประมาณ

เมื่อถามว่ามีการตกผลึกแล้วหรือยัง ว่าจะมีประเด็นในการอภิปรายอะไรบ้าง นายพริษฐ์ กล่าวว่า การอภิปรายทั่วไปอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการคัดเลือก ที่คณะกรรมการจะมีการคัดกรอง ซึ่งเมื่อกำหนดวันแล้ว ก็พอจะคำนวณได้ว่าพรรคก้าวไกลจะมีเวลาในการอภิปรายเท่าไหร่ และด้วยเวลาจำกัดที่เรามีอยู่ จะแบ่งให้ผู้อภิปรายได้กี่คน และครอบคลุมได้กี่ประเด็น ยืนยันว่า ครอบคลุมทุกประเด็นที่ประชาชนให้ความสำคัญแน่นอน รวมถึงนโยบายหลักของรัฐบาลที่ประชาชนคาดหวัง ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม

เมื่อถามถึงกรณีที่นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ระบุว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อาจจะไม่ไปตอบ สว.นั้น ในส่วนการอภิปรายของ สส.มีความคาดหวังต่อการมาตอบของนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี (ครม.) อย่างไรบ้าง นายพริษฐ์ กล่าวว่า เราคาดหวังให้ทั้งนายกรัฐมนตรี และรัฐบาลในฐานะฝ่ายบริหาร ให้ความสำคัญกับงานในสภาอยู่แล้ว แน่นอนการมาตอบคำถามของ สส.ในการเปิดอภิปราย เป็นความคาดหวังขั้นพื้นฐาน แต่เราไม่ได้คาดหวังแค่ตรงนั้น เราอยากให้นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีทุกคนให้ความสำคัญกับสภา ที่สุดแล้วเราอยู่ในระบบรัฐสภา ที่ฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหารมีความเชื่อมโยงกัน ฝ่ายบริหารเข้าสู่ตำแหน่งได้ก็เพราะได้รับการรับรองจากฝ่ายนิติบัญญัติที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ดังนั้น การที่นายกรัฐมนตรีไม่เพียงแต่มาตอบคำถาม ในการอภิปราย แต่มาตอบในกระทู้ถามสด กระทู้ทั่วไป หรือแม้กระทั่งให้ความร่วมมือกับการเข้ามาตอบคำถามในชั้นกรรมาธิการ จะเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ ให้ สส.สามารถทำงานได้เต็มที่ ในการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล และถามคำถามแทนพี่น้องประชาชน