หุ้นไอพีโอน้องใหม่ที่ชื่อ บมจ.แบงคอกจีโนมิกส์อินโนเวชั่น หรือ “BKGI” กำลังจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) วันที่ 20 มีนาคม 2567 ในหมวดบริการ/การแพทย์ โดยกำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไป (IPO) จำนวน 160,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ในราคาหุ้นละ 1.63 บาท
BKGI คือหุ้นไบโอเทคตัวแรกที่เข้าตลาดหุ้นไทย ทำธุรกิจเกี่ยวกับกิจการห้องปฏิบัติการ และให้บริการการตรวจวินิจฉัยทางการแพทย์ แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่ 1.ธุรกิจการให้บริการตรวจคัดกรองและวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มหลัก ดังนี้ 1.การตรวจคัดกรองความผิดปกติทางพันธุกรรมด้านอนามัยการเจริญพันธุ์ 2.การตรวจวิเคราะห์กลุ่มโรคติดเชื้อ 3.การตรวจคัดกรองอื่นๆได้แก่ การตรวจคัดกรองยีนก่อโรคมะเร็ง และโรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมอื่นๆ รวมทั้งการตรวจ DNA 4.การให้บริการงานด้านเทคโนโลยี
2.ธุรกิจการจำหน่ายผลิตภัณฑ์อื่นๆ (Other Products) ที่สำคัญคือ การจำหน่ายชุดอุปกรณ์สำหรับตรวจความผิดปกติทางพันธุกรรมแบบครบวงจร รวมทั้งในอนาคต จะมีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารให้กับลูกค้าที่ใช้บริการถอดรหัสทางพันธุกรรมเฉพาะบุคคลอย่างละเอียดตามคำแนะนำของแพทย์
ทั้งนี้ถ้านักลงทุนกำลังมองหาหุ้น New S-Curve ไอพีโอน้องใหม่ BKGI นี่แหล่ะคือคำตอบที่ถูกต้องที่สุดในตอนนี้ นอกจากเทรนด์ของธุรกิจที่มีศักยภาพการเติบโตในอนาคตไปได้อีกยาวไกลแล้ว อีกไฮไลท์ที่สำคัญคือ BKGI ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีในการถอดรหัสพันธุกรรม ที่เรียกว่า Next-Generation Sequencing จากกลุ่ม BGI ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ซึ่งเป็นผู้นำด้านการวิจัยและการใช้เทคโนโลยีทางพันธุศาสตร์ระดับโลก มาใช้ในการให้บริการ ทำให้ผลการวิเคราะห์ต่างๆของบริษัทมีความแม่นยำสูง ( BGI Health (HK) เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นอันดับ 1 ใน BKGI ก่อนไอพีโอมีจำนวน 224,400,000 หุ้น หรือ 51.00% หลังไอพีโอมีจำนวนหุ้นเท่าเดิม 224,400,000 หุ้น แต่สัดส่วนการถือหุ้นลดลงเหลือ 37.40%
ทั้งนี้เชื่อว่าหลังการเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนแล้วจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด รองรับการเติบโตของธุรกิจการแพทย์จีโนมิกส์ (Genomics) ซึ่งอยู่ในเมกะเทรนด์โลก ในขณะเดียวกันการก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของประเทศไทย หรือ Aging Society ปัจจัยเหล่านี้กระตุ้นให้ประชาชนมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้มีความใส่ใจในการดูแลสุขภาพเพิ่มขึ้น ต้องการที่จะหาวิธีป้องกันโรค ไม่ว่าเป็นการตรวจพันธุกรรม หรือตรวจคัดกรองโรคต่างๆ เพื่อวางแผนการใช้ชีวิต มั่นใจว่าธุรกิจของบริษัทฯ จะเติบโตตามแนวโน้มการแพทย์สมัยใหม่ที่เป็น New S-Curve และเมื่อเข้าตลาดหุ้นแล้วเชื่อว่า BKGI จะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างคึกคัก
เสาวลักษณ์ ด่านสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BKGI เปิดเผยว่า เงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้จะใช้เพื่อผลักดันการเติบโตอย่างต่อเนื่องในระยะยาว โดยเฉพาะแผนการขยายธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์จีโนมิกส์ (Genomics) และด้วยการสนับสนุนของกลุ่ม BGI จะยิ่งเพิ่มศักยภาพของบริษัทฯ ช่วยสนับสนุนผลงานเติบโตอย่างก้าวกระโดด และเพิ่มความสามารถในการทำกำไรได้มากขึ้น สอดรับธุรกิจเมกะเทรนด์ที่กำลังได้รับความนิยมสูงในยุคปัจจุบัน
ส่วนภาพรวมผลการดำเนินงานของ BKGI ในช่วงที่ผ่านมามีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่อง โดยในช่วงปี 2563 - 2566 รายได้จากการตรวจคัดกรองความผิดปกติทางพันธุกรรมด้านอนามัยการเจริญพันธุ์ ซึ่งเป็นรายได้หลักของบริษัท มีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 23.40% ต่อปี สำหรับแนวโน้มในปี 2567 คาดว่ายังสามารถขยายตัวต่อไปได้ดีในทุกบริการของบริษัทฯ สอดคล้องกับการเติบโตของอุตสาหกรรม และความต้องการใช้บริการที่เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งการที่ภาครัฐให้การสนับสนุนแผนจีโนมิกส์ประเทศไทย ช่วยสนับสนุนการเติบโตการให้บริการการตรวจพันธุกรรมในประเทศไทย