แปลงใหญ่สละ ตำบลทุ่งนารี สร้างอัตลักษณ์แบรนด์สินค้า ขยายช่องทางการจำหน่ายและสร้างมูลค่าเพิ่ม
วันที่ 19 มี.ค.67 นายรพีทัศน์ อุ่นจิตตพันธ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า กรมส่งเสริมการเกษตร ได้ดำเนินงานโครงการระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่ ตามนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่เน้นการรวมกลุ่มของเกษตรกรรายย่อยในพื้นที่ โดยวางระบบการผลิตและการบริหารจัดการในแนวทางเดียวกัน เพื่อประหยัดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต โดยเน้นการผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด ตามนโยบายการตลาดนำการผลิต นำไปสู่การจัดการสินค้าเกษตรสู่สมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทาน สร้างเสถียรภาพของราคาสินค้าเกษตรได้อย่างมั่นคงในอนาคต ตามแผนปฏิรูปการเกษตร
สำหรับอำเภอป่าบอน ถือว่าเป็นพื้นที่ที่มีเกษตรกรปลูกสละมากที่สุดของจังหวัดพัทลุง แต่ที่ผ่านมา เกษตรกรต่างคนต่างทำ จึงมักประสบปัญหาทั้งด้านการผลิตและการตลาด กรมส่งเสริมการเกษตร จึงได้เข้าไปถ่ายทอดองค์ความรู้และส่งเสริมการรวมกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกสละ ตั้งแต่ปี 2557 โดยผ่านศูนย์เรียนรู้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) เพื่อให้เกษตรกรรวมกลุ่มกันแลกเปลี่ยนความรู้ในการผลิตสละ และต่อมาในปี 2563 ได้ผลักดันให้จัดตั้งเป็นกลุ่มแปลงใหญ่สละตำบลทุ่งนารีขึ้น มีการขับเคลื่อนการดำเนินงานร่วมกับ ศพก.เครือข่าย กำหนดกฎกติกา กำหนดเป้าหมายการพัฒนาอย่างเป็นระบบ มีทีมผู้จัดการแปลงคอยกำกับ ดูแล และช่วยแก้ไขปัญหาอย่างใกล้ชิด โดยมีการแบ่งโซนในการลงเยี่ยมแปลง ทำให้ได้เห็นถึงปัญหาของสมาชิก และวางแนวทางแก้ไขได้ทันท่วงที
นอกจากนี้ ยังส่งเสริมให้สมาชิกแปลงใหญ่สละตำบลทุ่งนารีทุกคน ลดความเสี่ยงจากการผลิตสินค้าเชิงเดี่ยว โดยส่งเสริมให้สมาชิกทุกคนทำอาชีพอื่นร่วมด้วย ตามความถนัดของแต่ละราย ซึ่งมีทั้งเลี้ยงสัตว์และปลูกพืชอื่นร่วมด้วยในแปลงสละ เช่น ถั่วฝักยาว แตงกวา และพืชพี่เลี้ยงในระยะสละ1-3 ปี เช่น กล้วย หมาก ไม้ผลอื่น เพื่อให้สมาชิกมีรายได้ต่อเนื่อง เพิ่มช่องทางสร้างรายได้ให้กับสมาชิกและลดความเสี่ยงจากพืชหลัก และยังเป็นการเกื้อกูลสร้างความสมดุลในแปลงสละอีกด้วย
ผลจากการส่งเสริมให้เกษตรกรรวมกลุ่มเป็นแปลงใหญ่ สามารถช่วยลดต้นทุนการผลิตให้เกษตรกรได้เป็นอย่างดี จากต้นทุนเดิมในปี 2563 เฉลี่ย 23,500 บาทต่อไร่ ผลผลิตเฉลี่ย 1,940 กิโลกรัมต่อไร่ แต่เมื่อเข้าสู่แปลงใหญ่ ต้นทุนปี 2566 ลดลงเหลือเฉลี่ย 18,520 บาทต่อไร่ ผลผลิตเพิ่มขึ้น 450 กิโลกรัมต่อไร่ เป็น 2,390 กิโลกรัมต่อไร่ เนื่องจากเกษตรกรได้รับองค์ความรู้ในการจัดการผลผลิตในระยะดอกผลและการป้องกันโรคและแมลงศัตรูพืช เป็นต้น โดยกลุ่มแปลงใหญ่สละตำบลทุ่งนารี อำเภอป่าบอน จังหวัดพัทลุง จะรวบรวมผลผลิตจากสมาชิกจำหน่ายผลสดให้กับผู้ประกอบการหรือพ่อค้าที่มารับซื้อโดยตรง คัดแยกผลผลิตตามคุณภาพ ทำให้จำหน่ายได้ราคาสูง นอกจากนี้ ยังมีผลิตภัณฑ์แปรรูปของกลุ่มที่ติดตลาดคือสละลอยแก้ว ซึ่งกรมส่งเสริมการเกษตร ได้เข้าไปช่วยแนะนำวิธีการเพิ่มช่องทางการตลาด จำหน่ายสินค้าผ่านระบบออนไลน์ ทางเพจ “กลุ่มแปลงใหญ่สละตำบลทุ่งนารี” ช่วยให้เข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น เพิ่มปริมาณการขายได้มากกว่าและราคาดีกว่าการขายส่งในปริมาณมาก ๆ ส่งผลให้สมาชิกมีรายได้เพิ่มขึ้น
“ความสำเร็จของกลุ่มแปลงใหญ่สละตำบลทุ่งนารี เกิดจากการที่เกษตรกรมี Learning Skills เปิดใจเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ยอมรับความเปลี่ยนแปลง จนมีความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูล ประเมินสถานการณ์ และคิดอย่างสร้างสรรค์เพื่อแก้ปัญหา มีการทำงานเป็นทีม แบ่งหน้าที่ตามความสามารถและความถนัดของแต่ละราย เพื่อช่วยกันแก้ปัญหาให้บรรลุเป้าหมายร่วมกัน ทั้งนี้ทางกลุ่มมีแผนที่จะพัฒนาให้มีอาคารแหล่งรวบรวบผลผลิตของสมาชิก การจัดหาตลาดที่ชัดเจน และส่งเสริมการแปรรูปเพิ่มมากขึ้น ซึ่งดำเนินการโดยใช้หลักการบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วมของสมาชิกทุกคนในกลุ่ม เพื่อทุกคนจะได้ร่วมกันขับเคลื่อนกลุ่มให้ไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ คือ ร่วมคิดร่วมทำ ผลิตสินค้าที่มีคุณภาพตามความต้องการของตลาด การผลิตไม่ยุ่งยากเมื่อเราเลือกใช้เทคโนโลยีนวัตกรรม ” รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าว