วันที่ 18 มี.ค.67 ที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร ดร.ชูพงศ์ คำจวง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร พร้อมด้วยสมาชิก ส.อบจ.15 คนร่วมกันชี้แจงข้อเท็จจริงภายหลังมีกลุ่ม ส.อบจ. จำนวนหนึ่งได้ออกมาให้ข้อมูลข้อสงสัยต่อฝ่ายบริหารของ อบจ.สกลนคร ภายหลังมีการประชุมสภา อบจ.เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา ในเรื่องผ่านงบประมาณประจำปี 2567 โดยมีประเด็นตั้งข้อสงสัยในหลายเรื่อง ซึ่งภายหลังเกิดเรื่องดังกล่าวนั้น ทางฝ่ายบริหารองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนครนั้นต่างพากันรู้สึกไม่สบายใจในเรื่องดังกล่าวและจำเป็นต้องชี้แจง
ดร.ชูพงศ์ คำจวง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร กล่าวว่า โอกาสนี้ตนขอชี้แจงในเรื่องส่วนตัวก่อนซึ่งก่อนหน้านี้นั้นประมาณ 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ตนถูกร้องเรียนแจ้งความในเรื่องการเรียกรับประโยชน์จากผู้รับเหมาและถูกกล่าวหาจนมีการไปแจ้งความร้องทุกข์เกี่ยวกับตน ตนขอชี้แจงสั้นๆว่าไม่เป็นความจริงแต่ประการใด เรื่องนี้ผู้รับเหมาทะเลาะกันเองแล้วมาให้ตนเป็นผู้ติดตามในเรื่องเงินที่เขาตกลงทำธุรกิจร่วมกัน และขอตอบเพียงเท่านี้ เพราะจะเสียต่อรูปคดีที่ต้องต่อสู้ในข้อเท็จจริง ซึ่งอยู่ระหว่างการสอบสวน จึงยังขอยืนยันว่าตนเองนั้นบริสุทธิ์ แม้เรื่องจะถึง ปปช.แล้วก็ตาม และขอให้เป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย ขณะนี้ยังไม่ได้เรียกวอบผู้ถูกกล่าวหา
ดร.ชูพงศ์ กล่าวต่อว่า กลับมาที่เรื่องของ อบจ.สกลนคร อยากชี้แจงในเรื่องที่ฝ่ายบริหารเหตุใดถึงมีการกู้ยืมเงินการจัดซื้อเครื่องมือเครื่องจักรใหม่ เนื่องจาก อบจ.ไม่ได้ซื้อเครื่องจักรมาหลายสิบปีชำรุดใช้งานไม่ได้ โดย อบจ.มีถนนในความรับผิดชอบ 900 กว่ากิโลเมตร ถนนเชื่อมตำบลประมาณ 1,000 กิโลเมตร แต่ได้รับงบประมาณเพียง 150 ล้านบาท ต่อปีไม่เพียงพอต่อการสร้างถนน จึงเป็นเหตุผลที่ต้องหาเครื่องจักรมาทำเองจะคุ้มกว่า โดยการกู้เงิน กสอ.เป็นเงินฝาก ของ อบจ.เอง ซึ่งดอกเบี้ยเพียงร้อยละ 0.85 บาท ไม่ได้กู้แบงค์พาณิชย์ซึ่งดอกเบี้ยสูงกว่า จึงไม่ส่งผลกระทบต่อการเงินการคลังของ อบจ.และประชาชนจะได้ประโยชน์จากการสัญจรไปมา เนื่องจากปัจจุบันยังพบถนนยังมีเป็นหลุมเป็นบ่ออยู่พอสมควร และการขออนุมัติกู้เงินนั้นเป็นไปตามระเบียบของกฎหมายทุกประการ
สำหรับ รพ.สต.149 แห่ง ที่ถ่ายโอนมากับ อบจ.แล้วมีการอนุมัติจัดซื้อไฟฟ้าแสงสว่างและถนน ให้กับ รพ.สต.เนื่องจาก ทางเข้า รพ.สต.นั้นยังมีความมืดไม่สว่างและทางเข้าไม่สะดวกสะบายรวมถึงกล้องวงจรปิดภายนอกอาคาร เพื่อความปลอดภัยต่อทรัพย์สิน เพราะ กล้องวงจรปิด รพ.สต.ส่วนใหญ่มีแต่ภายในอาคารโดยด้านนอกไม่มีเห็นสมควนพัฒนาไว้ใช้ป้องปรามเหตุและเป็นหลักฐาน ส่วนการตั้งข้อสงสัยเอกสารเกี่ยวกับการหาไฟฟ้าแสงสว่างเป็นเพียงเอกสารการหาข้อมูลไม่ใช่เอกสารการจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งปกติการจัดซื้อจัดจ้างนั้นเป็นประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ ใครก็สามารถเข้ามาประกวดราคาได้ไม่มีการล็อกสเปกหรือฮั้วประมูลแต่ประการใด
"ในส่วนของโครงการน้ำดื่มแร่ สำหรับแร่ที่เราจะจัดซื้อสามารถกรองน้ำกร่อยน้ำเค็มได้ โดยผ่านการยืนยันจากการทดลองใช้มาแล้วว่ามีประโยชน์ สำหรับน้ำดื่มนั้น ใน รพ.สต.เอง อดีตน้ำดื่มยังมีกลิ่นไม่สะอาด ดังนั้นเพื่อสุขภาพที่ดีเกี่ยวกับปฐมภูมิต่อประชาชน เมื่อผู้มารับบริการ รพ.สต.น้ำดื่มต้องสะอาดปลอดภัยต่อประชาชน โดยภาพรวมนั้น อบจ.เองต้องดูแลพัฒนา รพ.สต.หลังภารกิจถ่ายโอนมา ประเด็นเรื่องจัดซื้อรถมินิบัสปรับอากาศ 2 คัน เพื่อใช้ในการทัศนศึกษา มีการกล่าวว่ารถที่จะจัดซื้อเสียซ่อมบ่อย ชี้แจงว่ารถดังกล่าวนั้นเป็นเครื่องยนต์จากญี่ปุ่นไม่ใช่รถจีนแต่อย่างใด และรถที่ได้มามีความจำเป็นในการทัศนศึกษาเพราะสกลนคร นั้นไม่มีงบประมาณมีแต่งบเติมน้ำมันหากมีไว้แล้วหน่วยงานใดก็สามารถมาขอสนับสนุนได้ และการตั้งข้อสงสัยว่ามีแต่งบเร่งด่วนยืนยันว่ามีแต่เรื่องเร่งด่วนจริงๆในการทำหน้าที่ของ อบจ.เพื่อประโยชน์ของประชาชน"
ดร.ชูพงศ์ กล่าวอีกว่า จากกรณีที่มีผู้ออกมาให้ข่าวนั้น ในเรื่องการท้วงติงเอกสารไม่สมบูรณ์ในการประชุม นั้นถือเป็นสิทธิ์ของท่านที่ทำได้ในการตรวจสอบ แต่เราได้พูดคุยกันแล้วในที่ประชุมสภาจนตกผนึก แต่ปรากฎว่ามีการนำออกมาพูดข้างนอก จนทำให้องค์กรได้รับผลกระทบ ในเรื่องนี้ที่ฝ่ายบริหารถูกกล่าวหานั้น เนื่องจากมองว่าเป็นเกมการเมืองเพราะฝ่ายบริหารจะหมดวาระลงในเดือนธันวาคมปีนี้ จึงมีการทำอย่างไรก็ได้จะทำให้ฝ่ายบริหารอ่อนแอ เลยอยากให้ประชาชนเป็นคนตัดสินจะดีกว่าไม่อยากให้เล่นเกมส์การเมืองลักษณะนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเองก็ได้ชี้แจงไปหมดแล้วจากกระแสดราม่าต่างๆทีผ่านมาและตรวจสอบได้ จึงอยากชี้แจงให้ประชาชนได้รับทราบว่าควรฟังความรอบด้าน