โฆษกรัฐบาลเผยผลงานการปราบปรามการนำเข้าโคเถื่อนอย่างต่อเนื่องตามแนวชายแดน พร้อมเดินหน้ายกระดับมาตรการเฝ้าระวังป้องกันโรคระบาดสัตว์ สร้างหลักประกันและความเชื่อมั่นต่อสินค้าปศุสัตว์ไทย
วันนี้ (18 มีนาคม 2567) นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยถึงผลสำเร็จการปราบปรามการนำเข้าโคเถื่อน ตามที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันทำงานอย่างบูรณาการ โดยตรวจสอบทุกด่านตามแนวชายแดน เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาการลักลอบนำเข้าโคเถื่อนจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาในประเทศไทย พร้อมแก้ไขปัญหาการลักลอบนำเข้าสินค้าเถื่อนอื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง ยกระดับมาตรการเฝ้าระวังป้องกันโรคระบาด โดยเฉพาะสินค้าเกษตรเพิ่มความเชื่อมั่นต่อสินค้าปศุสัตว์ไทย
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐบาลโดยกรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดำเนินการตามนโยบายนายกรัฐมนตรีร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเข้มงวด ตั้งจุดตรวจ จุดสกัด เพื่อป้องกันการกระทำผิดกฎหมาย โดยล่าสุดที่จุดตรวจตำบลแม่ปะ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ตรวจสอบพบรถบรรทุก 6 ล้อ บรรทุกโคเพศผู้ จำนวน 26 ตัว จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา กระทำการเคลื่อนย้ายสัตว์หรือซากสัตว์ ภายในเขตเฝ้าระวังโรคระบาดปากและเท้าเปื่อย โดยไม่ได้รับอนุญาตตามมาตรา 22 บทลงโทษมาตรา 65 แห่ง พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำตัวคนขับพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่สอด ส่วนของกลางโคมีชีวิต ได้ส่งมอบให้เจ้าหน้าปศุสัตว์ดำเนินการตามระเบียบกรมปศุสัตว์
ผลงานการจับกุมดังกล่าวเป็นการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ตอบสนองต่อนโยบายของรัฐบาลในการปราบปรามการลักลอบนำโคเถื่อนมาอย่างต่อเนื่อง โดยก่อนนี้เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา พบรถกระบะบรรทุกโคมีชีวิต จำนวน 3 คัน รวม 18 ตัว ณ จุดตรวจเพื่อความมั่นคงชายแดน ตำบลแม่สอง อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก ซึ่งไม่พบใบอนุญาตเคลื่อนย้ายสัตว์ และเอกสารประกอบอื่น ๆ จึงได้แจ้งความผิดตามมาตรา 22 มีโทษตามมาตรา 65 แห่ง พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งนี้ กรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีแผนยกระดับมาตรการเฝ้าระวังป้องกันโรคระบาด และนโยบายในการเตรียมตัวส่งออกโคมีชีวิต ผ่านการรับรองคุณภาพ “ปลอดโรคปลอดภัย” เพื่อสร้างหลักประกันและความเชื่อมั่นให้กับประเทศคู่ค้าว่าสินค้าไทยปราศจากโรค พร้อมกันนี้ รัฐบาลเร่งเดินหน้าเปิดตลาดใหม่ๆ เพื่อส่งออกไปยังต่างประเทศ ในตลาดที่มีกำลังซื้อสูง เพื่อให้ผู้เลี้ยงโคสามารถเติบโตในอาชีพได้อย่างยั่งยืนและยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรให้ดีขึ้นอีกด้วย
“นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับปัญหาการลักลอบนำเข้าโคเถื่อน เพื่อช่วยเหลือและปกป้องเกษตรกรไทยไม่ให้ได้รับผลกระทบ ซึ่งทำสำเร็จเห็นผลงานเป็นรูปธรรมจากราคายางพาราที่มีราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กำหนดเป็นนโยบายเตรียมตัวส่งออกโคมีชีวิตต้องผ่านการรับรองคุณภาพ “ปลอดโรคปลอดภัย” สร้างหลักประกันและความเชื่อมั่นให้กับประเทศคู่ค้า ซึ่งมาตรการเหล่านี้ล้วนต้องการดูแล ยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรไทยให้ดีขึ้น” นายชัย กล่าว