ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หมู่บ้านเลขที่ 5 หมู่5 ต.ท่าทราย อ.เมืองสมุทรสาคร ได้มีกลุ่มชาวบ้านออกมาร่วมตัวกว่า 10 คน พร้อมถือป้ายประท้วง ว่าได้รับความเดือดร้อนจากผลกระทบของรถบรรทุกที่ขนดินขนาดใหญ่ ที่วิ่งผ่านเส้นทางของหมู่บ้าน ก่อผลกระทบสร้างความเดือดรำคราญ ทั้งนี้เพื่อนำเอาดินไปใช้ถมที่ ก่อสร้างหมู่บ้านในแถบบริเวณใกล้เคียง 

โดยนางทับทิม  หนึ่งในกลุ่มชาวบ้านที่ได้รับปัญหาผลกระทบจากรถบรรทุกวิ่งขนดินรายนี้ อายุ 59 ปี เผยว่า ตนเองเละเพื่อนๆในชุมชนแห่งนี้ก็ต่างไม่พอใจที่เดือดร้อนและรำคราญใจมานานของกรณีมีรถ 10 ล้อและรถพ่วง เข้ามาวิ่งบรรทุกดินตั้งนานแล้วโดยอาศัยใช้ถนนของหมู่บ้านอยู่เป็นประจำ 

“ซึ่งเมื่อเวลามีรถวิ่งผ่านจำทำให้ตัวบ้านและอาคารสั่นสะเทือน และมีทั้งมีฝุ่นละออง นอกจากนี้ ยังทำให้เศษดินตกหล่นทางเส้นทางถนน ซึ่งหมู่บ้านเราเป็นหมู่บ้านเก่าแก่ ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปก็คงอาจจะทำให้กระจกแตก ที่สำคัญหลังคาบ้านก็จะเกิดแตกร้าวต่อไป และอาจเป็นเหตุให้มีความเสียหายได้ในระยะยาวต่อรุ่นลูกหลาน ทั้งนี้ มีหน่วยงานรัฐที่ใดบ้างที่จะคิดรับผิดชอบกับความเดือดร้อน และรำคราญใจ โปรดลงมาช่วยดูแลความสงบให้ชาวบ้านและ ปชช.บ้าง” นางทับทิม กล่าว

ซึ่งนางทับทิม  และผู้ได้รับผลกระทบรายอื่น บอกทำนองเดียวกันว่า จากปัญหานี้ ล่าสุดทางชาวบ้านเตรียมทำหนังสือร้องเรียน เพื่อยื่นไปร้องเรียนต่อ ผวจ.สมุทรสาคร ขอให้ตรวจสอบและสั่งให้ระงับบรรดาขนบรรทุกขนาดใหญ่นี้ ที่มาวิ่งผ่านเส้นทางของหมู่บ้าน จนเป็นเหตุให้ทำชาวบ้านได้รับผลจากความเดือดร้อน ทั้งยังมีฝุ่นละออง และบ้านทรุด รวมถึงทำเศษดินตกเรี่ยลาดเกลื่อนถนน ซึ่งอากาศก็เป็นพิษด้วยมาหลายสิบปี 

จากปัญหาที่เกิดขึ้นในกรณีรถสิบล้อต้องขนดินผ่านทางเข้าหมู่บ้านเลขที่ 5 โดยใครจะเป็นฝ่ายผู้รับผิดชอบก็ขอความกรุณาท่านพ่อเมืองฯ โปรดระงับพฤติกรรมของขนดิน ไปใช้ทางถนนบางปลา หรือเส้นทางอื่นๆแทน ซึ่งชาวบ้านก็เห็นพร้อมต้องด้วยกันว่า เพื่อป้องกันมิให้เกิดความเสียหายต่อที่อาคารของบ้านที่อยู่อาศัยของตนเอง จึงต้องร้องเรียนมาเพื่อให้ผู้ใหญ่ได้รับไปพิจารณาต่อไป