หนุ่มโรงงานสุดช้ำใจเสียรู้แก๊งมิจฉาชีพ นำรถยนต์ไปกู้เงินในเว๊บออนไลน์ เพียง1วันติดต่อไม่ได้ถูกบล็อกทุกช่องทาง สุดท้ายมีผู้ติดต่อให้มารับรถที่พัทยา โอนเงินที่กู้ไปคืนมา หวังจะได้รถตัวเองกลับ ถูกหลอกโอนเงินซ้ำ แม้เเต่เงารถก็ไม่เห็น
 
 นายชูศักดิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ29ปี ได้ติดต่อมายังทีมข่าวขอให้สื่อช่วยมาเป็นพยานในการติดต่อ ขอรับรถยนต์ของตนเองคืน หลังจากที่ได้นำรถยนต์ไปจำนำไว้ในเว็บฯออนไลน์ โดยมีการส่งมอบรถยนต์และรับเงิน  จากนั้นได้มีการนัดส่งมอบรถคืนกันที่บิ๊กซีเอ็กตร้าพัทยากลาง


  จากการสอบถามนายชูศักดิ์ฯ ได้เล่าด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครีอว่า ตนเองเป็นคนจังหวัดอุบล ทำงานเป็นหนุ่มโรงงานอยู่ที่อมตะชลบุรี ล่าสุดครอบครัวมีปัญหาเรื่องการเงิน ตนเองไม่มีเงินส่งค่างวดรถยนต์อีซูซู ดีแม็กสีขาว ทะเบียน..... โดยมีการค้างค่างวดไว้ ทางบริษัทรถฯได้ติดต่อมา หากไม่ชำระเงินภายในวันที่14มีค.ทางบริษัทก็จะขอมายึดรถ ซึ่งตนเองส่งมาแล้ว5ปี คงเหลีออีกแค่2ปีก็จะส่งค่างวดหมดแล้ว และด้วยความที่ไม่กล้าบอกและปรึกษาใคร จึงได้ติดต่อไปยังเว๊บไซด์ออนไลน์หนึ่งขึ่งเป็นเว๊บฯกู้ยีมเงิน ตนเองจึงได้ติดต่อไปและขอฝากรถยนต์ฯคันดังกล่าวไว้ โดยขอกู้เงิน40,000บาทเท่านั้น โดยคนที่ตนสนทนาด้วยนั้นเป็นผู้หญิง แต่เมื่อนัดส่งมอบรถและรับเงินกัน ทางผู้หญิงที่ติดต่อไว้ ได้ให้ผู้ชายเป็นผู้นำเงินมาให้ พร้อมทั้งเขียนเอกสารให้ตนหนึ่งฉบับ ในเอกสารไม่ได้ระบุอะไรมากมาย ไม่มีบัตรประชาชน หรือสิ่งอี่นใด แต่สำหรับของตนเองนั้น ทางเว๊บออนไลน์ ขอเอกทุกอย่างของตัวรถ บัตรประชาชน ตนเองให้ไปหมด ขณะส่งมอบรถก็ไม่ให้ถ่ายรูปแต่อย่างใด


  ต่อมาในวันรุ่งขึ้น นายชูศักดิ์ฯก็ได้นำเงินโอนไปให้บริษัทไฟแนนท์รถจ่ายค่างวดเรียบร้อย จากนั้นได้ติดต่อไปยังเบอร์โทร ของเว็บออนไลน์ ที่เพิ่งกู้ยืมเงินมาเมี่อวานนี้เอง แต่กลับติดต่อไม่ได้ เบอร์นั้นไม่สามารถใช้งานได้อีก ตนเองคิดเอะใจแล้ว สงสัยจะโดนแก๊งมิจฉาชีพหลอกต้มตุ๋นแล้ว จึงได้ให้พี่ชายช่วยติดต่อไปในเพจของเว๊บออนไลน์ดังกล่าว ปรากฏว่าถูกแอดมินเพจบล็อกอีกครั้ง หลังวางข้อความไปประมาณว่า“รบกวนแอดมินเพจ ต้องการจะไถ่รถคืน แต่ติดต่อไม่ได้จะต้องทำอย่างไร” หลังจากที่ถูกบล็อกทุกช่องทางแล้ว ก็ได้มีสายโทรเข้ามาตามเบอร์ที่วางไว้ในเพจ เป็นผู้ชายโดยอ้างว่า ตนเองครอบครองรถคันนี้อยู่ โดยมีผู้หญิงชื่อพลอย เอามาขายฝากไว้เมื่อวันก่อน ตอนนี้รถอยู่ที่พัทยา ถ้าอยากได้รถคืนให้โอนเงินมา4หมื่น แล้วมารับรถกลับคืนไป โดยนัดรับรถกันที่บิ๊กซีพัทยากลาง
 

ต่อมาทางนายชูศักดิ์ฯ และพี่ชายได้เดินทางมาตามนัดเพื่อขอรับรถยนต์คืน โดยชายดังกล่าวอ้างว่าตนเองชื่อบอย เป็นขาใหญ่ในเมืองพัทยา รับจำนำรถเถื่อนเป็นอาชีพ ใครๆก็รู้จัก โดยอ้างว่าให้นายชูศักดิ์โอนเงินก่อน ถึงจะให้ลูกน้องเอารถมาจอดคืนให้ แต่ทางผู้เป็นเจ้าของรถก็ยังไม่ยอมโอน เพราะไม่เชื่อใจและไม่มั่นใจว่าจะได้รถคืนหรือไม่ ถ้าโอนเงินให้ไปแล้ว จึงจะขอดูรถก่อนได้ไหม ซึ่งนายบอยก็ไม่ยอมทำตาม มิหนำซ้ำยังขู่กลับจะเอารถข้ามไปขายส่งออกนอกประเทศใรคืนนี้เลย หากไม่โอนเงินมาก่อน ต่างฝ่ายต่างเจรจากันอยู่ประมาณ2ชั่วโมง

 

สุดท้ายทางเจ้าของรถยินดีที่จะโอนเงินให้ทางนายบอย แม้ยังไม่เห็นรถของตัวเองก็ตาม ในใจลึกๆของนายชูศักดิ์ก็คิดว่า หากไม่ได้รถคืนก็จะต้องแจ้งความดำเนินคดีต่อไป เพราะเราเอาเงินเขามาจริงๆ ก็ต้องคืนเงินเขาเป็นเรื่องที่ควรทำแม้รู้แก่ใจว่าโอกาสที่จะได้รถคืนนั้นน้อยมาก แต่ถ้าหากไม่โอนเงินไปให้นายบอย ก็จะไม่ได้เจอรถตนเองอีกเลย นายชูศักดิ์ฯจึงตัดสินใจให้พื่ชายโอนเงินไปให้ทันที โดยไม่ต้องวางสายจากนายบอย ขณะที่กำลังทำการโอนเงินอยู่นั้น นายบอยอ้างว่าใกล้จะถึงจุดนัดหมายแล้วติดไฟแดงอยู่ แจ้งเลขบัญชีเจ้าของบัญชีเรียบร้อย พอได้รับแจ้งว่าเงินเข้าแล้ว นายบอยก็ปิดโทรศัพท์ทันทีติดต่อไม่ได้อืกเลย
 
 
  ทางด้านนายชูศักดิ์ฯ ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่สภ.พัทยาในเบื้องต้น ก่อนที่วันต่อมาคือวันนี้17มีค.67 ทางผู้เสียหายได้เดินทางไปยังสภ.บางปะกง ในฐานะเจ้าของพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อเข้าแจ้งความร้องทุกข์ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่รับแจ้งความ โดยอ้างว่าทางด้านนายชูศักดิ์ฯเป็นเพียงผู้ครอบครองรถ ยังไม่ใช่เจ้าของรถ จะต้องไปขอใบมอบอำนาจจากธนาคารของบริษัทไฟแนนท์มาแสดงก่อน ถึงจะรับแจ้งความได้ ก็ทำให้ผู้เสียหายงง เพราะตนเองเป็นเจ้าของรถ ผ่อนส่งมา5ปีแล้ว ทำไมถึงแจ้งความเองไม่ได้ พร้อมทั้งได้พาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่จริง ในวันเกิดเหตุที่ส่งมอบรถกันข้างโรงไฟฟ้าบางปะกง ซึ่งจุดเกิดเหตุตรงนั้น มีกล้องวงวงจรปิดล้อมรอบ ทางด้านผู้เสียหายได้วิงวอนขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ติดตามจับตัวกลุ่มมิจฉาชีพรายนี้มาดำเนินคดีตามกฏหมายโดยเร็ว ก่อนที่จะไปเกิดเหตุการณ์แบบนี้ซ้ำซ้อนกับใครได้อีก(เสียงผู้เสียหาย)…