เมื่อช่วงเช้ามืดของวันนี้ (15 มี.ค. 67) นายมนตรี โภคานิตย์ ปลัดอำเภอบ้านคา จ.ราชบุรี ได้สนธิกำลังร่วมกับทหารหน่วยเฉพาะกิจทัพพระยาเสือ และตำรวจสภ.บ้านคา ได้แบ่งกำลังเป็น 3 จุด เพื่อเข้าตรวจค้นแหล่งกบดานของแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย เนื่องจากทางศูนย์ดำรงธรรมอำเภอบ้านคา ได้รับแจ้งเบาะแสมาจากชาวบ้านว่า ที่บริเวณบ้านร่องเจริญ หมู่ 3 ต.บ้านบึง อ.บ้านคา มีการนำแรงงานต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายมาซุกซ่อนทำงานโดยจะกระจายกันไปอยู่ตามบ้านของชาวบ้านที่เป็นนายทุน เพื่อทำงานและรอเวลาที่จะเดินทางไปทำงานที่อื่นต่อ
ซึ่งผลการตรวจค้นพบแรงงานต่างด้าวที่ไม่มีเอกสารและไม่มีสถานะใดๆอยู่ในบ้านของชาวบ้านรวมทั้งหมด 11 คน แต่แบ่งออกเป็นแรงงานต่างด้าวที่หลบหนีออกมาจากศูนย์อพยพบ้านถ้ำหิน อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี 8 ราย เจ้าหน้าที่ทำการส่งตัวกลับไปยังศูนย์อพยพบ้านถ้ำหิน และมีแรงงานต่างด้าวที่หลบหนีภัยจากการสู้รบเข้ามาอยู่อีก 3 ราย เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวไว้ รวมทั้งควบคุมตัวเจ้าของบ้านที่ให้ที่พักพิงกับแรงงานต่างด้าวด้วย
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจค้นบ้านของนายจ้างแรงงานต่างด้าว ก็ไปพบอาวุธปืนลูกซองยาว แต่เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นปืนที่มีทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย และพบลูกกระสุนปืนลูกซองอีกจำนวน 52 นัด ซึ่งมีมากเกินความจำเป็นเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดไว้ และยังพบซากเลียงผา ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ถูกต้มอยู่ในหม้อซุกซ่อนอยู่ในโรงจอดรถเจ้าหน้าที่จึงได้ออกมาตรวจสอบว่าเป็นซากเลียงผาที่คาดว่าน่าจะมีอายุที่โตเต็มวัยโดยวัดจากขนาดของเขา
ซึ่งมีตั้งแต่หัวไปจนถึงขา รวมทั้งหมด 3 ตัว แต่ทางนายจ้างก็อ้างว่าได้ทำการรับซื้อมาจากชาวบ้านอีกทีหนึ่ง เพื่อนำมาต้มสกัดเอาน้ำมันมาทาตามลำตัวให้กับวัวในฟาร์มที่มีอาการเจ็บป่วยตามความเชื่อว่าจะสามารถรักษาแผลได้ โดยไม่ทราบว่าผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งไปยังเจ้าหน้าที่สายตรวจสัตว์ป่าและป้องกันสัตว์ป่า อ.บ้านคา ให้มาตรวจสอบพร้อมทั้งทำการตรวจยึดซากเลียงผาทั้งหมดไปตรวจสอบ เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหา ให้ที่พักพิงแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย รวมทั้งมีซากสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาติ ก่อนจะนำส่งพนักงานสอบสวนสภ.บ้านคา ดำเนินคดีต่อไป