เมื่อเวลา 13.45 วันที่ 14 มี.ค. 2567 ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลังให้สัมภาษณ์ภายหลังกลับจากปฎิบัติภารกิจต่างประเทศ กรณีที่มีประชาชนไปต้อนรับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่จังหวัดเชียงใหม่เป็นจำนวนมากว่า เข้าใจท่านและมองว่าเป็นธรรมดา เพราะเป็นนายกฯมาตั้งกี่ปี ไม่ได้กลับบ้านมา 17 ปี รู้สึกยินดีด้วยที่ได้กลับไปเยือนบ้านเกิดเมืองนอน และยินดีด้วยที่มีพี่น้องประชาชนที่อยากจะเจอมาพบท่าน ที่ผ่านมาตนเคยพูดทุกเวทีว่านายทักษิณ เป็นนายกฯที่ได้รับความนิยมชมชอบสูงที่สุดคนหนึ่ง นำพาประเทศไทยไปสู่ความเจริญได้ระดับหนึ่ง และได้เข้าสู่กระบวนการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เมื่อออกมาแล้วก็อยากกลับบ้านเกิด
นายเศรษฐา กล่าวว่า สำหรับภารกิจในการลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ของตนในวันที่ 15 มี.ค. ได้จัดมาก่อนที่จะทราบว่านายทักษิณจะไปจ.เชียงใหม่ย้ำว่าเป็นเรื่องธรรมดา จ.เชียงใหม่เป็นบ้านเกิดของท่าน และอดีตนายกฯ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ก็อยู่ที่นั่นจึงเป็นช่วงเวลาที่ดีของครอบครัวที่จะใช้เวลาที่เสียไป 17 ปีมาอยู่กับครอบครัวและอยู่อย่างมีความสุข
ผู้สื่อข่าวถามว่า การลงพื้นที่ของนายทักษิณ จะช่วยเรียกคะแนนนิยมให้กับพรรคเพื่อไทยด้วยหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่ทราบ แต่เชื่อว่าจะมีแฟนคลับของพรรคเพื่อไทยไปด้วย และเห็นว่าพรรคอื่นก็มีไปด้วย เพราะมีหลายคน นายทักษิณก็มีความผูกพันกับนักการเมืองทุก ๆ พรรค เพราะเป็นคนที่มีนิสัยใจคอโอบอ้อมอารี เชื่อว่าทุกพรรคและหัวหน้าพรรคที่อยู่ในรัฐบาลมีความปรารถนาดีกับท่านทุกคนและอยากไปเยี่ยมเยียน
“หากถามผมๆว่าไม่มีอะไรเสียหาย ทุกๆ รอยยิ้มที่เกิดขึ้นกับทุกอีเวนท์ในประเทศไทย ผมเชื่อว่าจะเป็นอะไรที่ทำให้สังคมเราแข็งแกร่งมากขึ้น” นายเศรษฐา กล่าว
เมื่อถามย้ำว่า มีการมองว่านายทักษิณ ออกมาเดินคู่ขนานกับนายกฯ เป็นการเสริมศักยภาพรัฐบาลและปูทางอนาคตให้พรรคเพื่อไทย นายเศรษฐา กล่าวว่า คงเป็นนัยทางด้านการเมือง แต่ตนเรียนแล้ว ไม่ติดขัดอะไรที่จะได้รับคำปรึกษาจากอดีตนายกฯ หลายๆคน ทั้งนายอานันทร์ ปันยารชุน นายสมชาย และนายทักษิณ แต่ละคนมีความรู้ความสามารถดีทั้งนั้น การที่ใครจะอยู่พรรคอะไร รักใครชอบใครก็เป็นสิทธิ์ และเป็นเรื่องของบุคคลนั้นๆ ส่วนตนมีหน้าที่บริหารบ้านเมืองในฐานะนายกฯ ก็ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ หากใครมีข้อคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะดีๆก็รับฟังตลอด
เมื่อถามว่า นายกฯเดินทางลงพื้นที่จ.เชียงใหม่ ครั้งนี้มีโอกาสที่จะพบกับนายทักษิณหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า คิดว่าคงมีโอกาส แต่ยังไม่ได้นัดหมายอะไร เพราะภารกิจของตนยังแน่นตลอดทั้งวันที่ 15 มี.ค. และจะบินไป จ.เชียงใหม่ตอนเย็น ไม่ได้มีการนัดหมายเป็นกิจจะลักษณะ แต่ก่อนที่จะลงเครื่องมาได้ดูบรรยากาศของวันนี้ ผ่านทางโซเชียลมีเดีย รู้สึกอบอุ่นดี เสียงต่างๆก็คงมีบ้าง แต่ในความเห็นของตนคิดว่าเป็นเรื่องที่ดีที่มีต่อรอยยิ้มในประเทศไทย ถือว่าเป็นนิมิตหมายอันดี
ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นห่วงหรือไม่กรณีที่มีรัฐมนตรีและข้าราชการ ไปต้อนรับจำนวนมาก อาจเป็นจุดที่ทำให้ฝ่ายค้านนำไปอภิปรายไม่ไว้วางใจถึงความเไม่หมาะสม นายเศรษฐา กล่าวว่า คงไม่ไปตั้งกฎว่าการอภิปรายจะเป็นเรื่องอะไรบ้าง ตามที่เข้าใจคงเป็นเรื่องการบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งตนพร้อมที่จะตอบ ส่วนที่ใครจะไปรับใครนั้น ก็อย่างที่บอกว่านายทักษิณจากประเทศไทยไปเป็น 10 ปีไม่ได้กลับบ้านเกิดมานาน และต้องเข้าใจว่าเป็นนายกฯ มายาวนาน มีพรรคพวกเพื่อนฝูงทางการเมืองเยอะ ถ้าไปด้วยความรักความปรารถนาดีก็เป็นเรื่องธรรมดา และตนไม่ได้คิดอะไร แต่ถ้าจะต้องตอบในเรื่องอะไรที่ไม่เกี่ยวกับตน ก็คงต้องไปถามจากท่านนั้นเอง ไม่ว่าจะเป็นรัฐมนตรีหรือใคร แต่ในฐานะนายกฯ ไม่ได้ติดอะไร
เมื่อถามย้ำถึง ความเหมาะสมที่มีข้าราชการไปรับในเวลาราชการ อาจจะถูกข้อครหาได้ นายเศรษฐา กล่าวว่า ก็ต้องดูความเหมาะสมด้วย ตนไม่ได้ดูตารางว่านายทักษิณไปไหนบ้าง เพราะตารางของตัวเองก็แน่นเอี๊ยดอยู่แล้ว ส่วนใครจะไปต้องดูให้เหมาะสมให้ถูกต้องแค่นั้นเอง
