ป.ป.ช.อยุธยา บูรณาการ เทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา เดินหน้าหามาตรการป้องกันการบุกรุกพื้นที่สาธารณะประโยชน์ พร้อมกำหนดจุดผ่อนปรน เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย

สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย ป.ป.ช.ภาค 1 จังหวัดนนทบุรี และชมรม STRONG จิตพอเพียงต้านทุจริตจังหวัดพระนครศรีอยุธยา บูรณาการเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา เดินหน้าหามาตรการป้องกันการบุกรุกพื้นที่สาธารณะประโยชน์ พร้อมกำหนดจุดผ่อนปรน เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย
         

วันที่ 14 มี.ค.67  ที่เทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย ป.ป.ช.ภาค 1 จังหวัดนนทบุรี และชมรม STRONG จิตพอเพียงต้านทุจริตจังหวัดพระนครศรีอยุธยา  นำโดย นางศิริพร  กฤชสินชัย  ประธานโค้ช STRONG – จิตพอเพียงต้านทุจริตจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ติดตามผลการปฏิบัติการหาแนวทางป้องกันการบุกรุกพื้นที่สาธารณะประโยชน์ที่อยู่ในความรับผิดชอบของเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา
         

นางศิริพร  กฤชสินชัย  ประธานโค้ช STRONG – จิตพอเพียงต้านทุจริตจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า การลงพื้นที่หารือกับเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยาครั้งนี้ เป็นไปตามโครงการ STRONG – จิตพอเพียงต้านทุจริต แผนงานปฏิบัติการ  STRONG – จิตพอเพียงต้านทุจริตของ ป.ป.ช.ประจำจังหวัดฯ ภายใต้กิจกรรมการจับตามองและแจ้งเบาะแส (Watch & Voice) ครั้งที่ 3  ซึ่งถือว่าเป็นการบูรณาการร่วมกันกับเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา  ในการหามาตรการแนวทางการป้องกันการบุกรุกที่สาธารณะประโยชน์ จุดผ่อนปรนทั้งหมดทั้งปัจจุบันและอนาคต รวมถึงทางเท้าหลายจุดในเมืองมรดกโลก ครอบคลุมในเขตพื้นที่อำเภอพระนครศรีอยุธยาทั้งหมด เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนให้เห็นเป็นรูปธรรมและเป็นต้นแบบ โดยเฉพาะการจัดทำแผนควบคู่กับการกำหนดระยะเวลาดำเนินการที่แน่นอน
         

ด้านนายกฤษณ์ เถี่ยนมิตรภาพ รองนายกเทศมนตรีนครพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า จากการสำรวจร้านค้าที่ทำการค้าขายบริเวณพื้นที่สาธารณะ และบางจุดมีการรุกล้ำ พบว่ามีร้านค้าที่ทำการขายบริเวณที่ หรือทางสาธารณะภายในเขตเทศบาลนครฯ มีทั้งหมด 504 ร้านค้า  ซึ่งจะมีการทบทวนทั้งจุดผ่อนปรน และต้องดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบและข้อกฎหมาย  ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้เทศบาลนครฯ ได้ส่งเจ้าหน้าที่สร้างความเข้าใจให้กับผู้ประกอบการร้านค้าอย่างต่อเนื่อง  พร้อมกำหนดระยะเวลาให้รื้อถอน  ขณะเดียวกัน มีบางพื้นที่ต้องประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปด้วยดี และไม่เกิดผลกระทบมากนัก  พร้อมกันนี้ ได้รับปาก ภายในระยะเวลาอันใกล้นี้  จะพลิกฟื้นจังหวัดพระนครศรีอยุธยา  ให้กลับคืนมาเป็นเมืองมรดกโลกอย่างสง่างามอย่างแน่นอน