ป่าไม้พิษณุโลก จับกุมผู้เข้าป่าสงวนโดยไม่ได้รับอนุญาต ข้อหามีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน

ป่าไม้พิษณุโลก สนธิกำลังร่วมกับฝ่ายปกครองและเจ้าที่ตำรวจ จับกุมผู้เข้าป่าสงวนโดยไม่ได้รับอนุญาต ข้อหามีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่งดำเนินคดีตามกฏหมาย

เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 13 มี.ค.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณสวนป่าน้ำตาก ท้ายบ้านห้วยเซิม ม.25 ต.หนองกะท้าว อ.นครไทย จ.พิษณุโลก เจ้าหน้าที่องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.นครไทย จ.พิษณุโลก ได้ร่วมกันจับกุมตัวชายไทย อายุ 49 ปี ภูมิลำเนา ม.7 ต.หนองกะท้าว อ.นครไทย จ.พิษณุโลก  พร้อมด้วยของกลางอาวุธปืนลูกซองยาว จำนวน 1 กระบอก (พบสะพายอยู่ข้างตัวขณะถูกจับกุม) เครื่องกระสุนปืนลูกชอง จำนวน 4 นัด (พบอยู่ในกระเป๋ากางเกงขายาวด้านหน้า ข้างขวาตัวที่ สวมใส่อยู่  ซึ่งเป็นพฤติการณ์การจับกุมซึ่งหน้า  จึงแจ้งข้อกล่าวหาว่า " มีอาวุธปินและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนเข้าไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร "และแจ้งสิทธิ์ต่างๆที่ผู้ถูกจับพึงมีให้ทราบ เบื้องต้นรับสารภาพตลอดข้ออกล่าวหา โดยรับว่าอาวุธปืนลูกซองยาวกระบอกดังกล่าวเป็นของตนเองจริง และ เป็นอาวุธปืนที่ไม่มีหมายเลขทะเบียนแต่อย่างใด

“ มาตรการจับกุมเข้มข้นในครั้งนี้เป็นไปตามประกาศจังหวัดพิษณุโลก เรื่องห้ามมิให้บุคคลใดเข้าไปเผาป่าหรือเข้าไปกระทำการใดใดอันจะก่อให้เกิดไฟในเขตป่าสงวนแห่งชาติทุกแห่งในจังหวัดพิษณุโลก ซึ่งลงนามโดยนายภูษิต สมจิตต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2567 โดยขอให้ทุกส่วนราชการ ดำเนินงานจริงจังกับผู้ฝ่าฝืน มีความผิดต้องระวังโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 5 ปี ปรับตั้งแต่ 5,000 บาท ถึง 50,000 บาท และมีความผิดตามกฎหมายอื่นๆรวมทั้งมีรางวัลนำจับหากผู้ใดสามารถแจ้งเบาะแสผู้ลักลอบจุดไฟในเขตป่าหรือผู้ที่เข้าไปในเขตป่าโดยไม่ได้ได้รับอนุญาตหรือมีอุปกรณ์และมีพฤติกรรมพร้อมที่จะทำให้เกิดไฟป่าเลยทำให้เสื่อมสภาพโดยต้องมีพยานหลักฐานชัดเจนได้แก่คลิปวิดีโอหรือภาพถ่ายที่เห็นชัดเจนจนนำไปสู่การจับกุมผู้กระทำผิดได้เป็นจำนวนเงิน 5000 บาท “