"ยุ้ย ญาติเยอะ" พร้อมทนายความเดินหน้าเข้าแจ้งความตรวจสอบเอาผิด "ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง" เพจดัง ทนายความ ลูกทีมโพสต์ หมิ่นผ่านโซเชียล เจ้าตัวเผยพร้อมเคลียร์แฟนคลับอยู่แล้วรอแค่สลิบยอดเงินที่เป็นหนี้แต่ยังไม่ได้รับ ย้ำยังมีความผูกพันไม่โกรธเพราะอยู่เหมือนครอบครัว ส่วนกรณีแจ้งความรัวเพราะงานหายไปนับสิบ กระทบลูกทีมเป็นร้อยชีวิต ทนายพจน์ชี้ อินฟลูฯ คนดังไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับกรณีดังกล่าวแต่มีการโพสต์โดยไม่มีสิทธิ์ทำ การแจ้งความเป็นสิทธิของยุ้ย ที่ต้องปกป้องศักดิ์ศรี ชื่อเสียงและให้สังคมรู้ว่าคนดังและทนายความไม่ควรเพราะยังไม่ทราบความจริง 

วันนี้ 14 มี.ค.67 ผู้สื่อข่าวรานงานว่า ที่สภ. เมืองนครปฐม นางสาวจริยา ปรีดากูล อายุ 46 ปี หรือ ยุ้ย ญาติเยอะ นักร้องลูกทุ่งสาวชื่อดัง ได้เดินทางมาพร้อมกับนายศุภภัทร์พจน์ นิติศศธร ทนายความ เพื่อเข้าแจ้งความร้องทุกข์ กับต้นอ้อ เป็นหนึ่ง อินโฟเอ็นเซอร์ ชื่อดัง ทนายความ และเพจดัง รวม 6 ราย หลังจากมีการโพสต์เข้าข่ายกระทำความผิดในการหมิ่นประมาท ทางพ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นกรณีที่เป็นข่าวหลังจากแฟนคลับคนสนิทของยุ้ยญาติเยอะได้ไปร้องเรียนกับต้นอ้อเรื่องนักร้องลูกทุ่งดังติดหนี้ 300,000 บาท และทวงถามแต่ไม่มีการชดใช้หนี้ให้ ซึ่งเป็นข่าวดังเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้เสียเสียชื่อเสียงและทำให้สูญรายได้จากการถูกผู้ว่าจ้างและพรีเซนเตอร์ผลิตภัณฑ์ยกเลิกงานไปนับสิบงาน ทำให้มีผลกระทบกับลูกทีมนับ 100 คน โดยมี พ.ต.อ.ภูภณ ทัพเจริญ ผกก.สภ.เมืองนครปฐม เข้ารับทราบข้อมูล 

นายศุภภัทร์พจน์ นิติศศธร ทนายความ เผยว่า การเข้าแจ้งความในวันนี้ เพื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีกรณีที่ มีเพจดัง ทนายความ และอินโฟเอ็นเซอร์ชื่อดัง ได้มีการโพสต์ข้อความที่ทำให้นักร้องสาวลูกทุ่งเกิดความสูญเสียชื่อเสียง ซึ่งตามกระบวนการหากรับร้องเรียนแล้วต้องดำเนินการตามสิทธิ์เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบไม่ใช่การโพสต์บนโลกโซเชียล ซึ่งเรื่องนี้หลังจากได้พูดคุยกับเจ้าตัวพบว่าเงินจำนวนดังกล่าวได้มีการนัดที่จะจ่ายเงินกันแล้วเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ แต่ทางเจ้าตัวกลับไม่มา และมีการไปร้องเรียน Pages ดัง เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ หลังจากมีการคุยซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดปกติ

นายศุภภัทร์พจน์ กล่าวอีกว่า หากย้อนกลับไปแล้วคู่กรณีคือคุณแนนได้ย้ายเข้ามาอยู่กับคุณยุ้ยที่บ้านเกือบสองปีซึ่งถือว่ามีความสนิทกันมากจนกลายเป็นคนในครอบครัว และเป็นคนใช้กระเป๋าเดียวกัน เช่นอย่างคุณยุ้ยจะให้ซื้อของเข้ามาในบ้านคุณแนนก็จะมีการจ่ายไปก่อนเมื่อคุณยุ้ยได้เงินสดจากการร้องเพลงก็จะให้เงินสดไป ฉะนั้นเรื่องของการชดใช้หนี้จึงพร้อมที่จะชดใช้ให้แต่ขอให้มีการนำสลิปเพื่อมาชี้แจงต่อหน้าจะได้มีการชดใช้เงินให้ทันทีและทางคุณยุ้ยก็พร้อมจ่ายเงินมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์แล้วก็ยังไม่เห็นสลิป

นายศุภภัทร์พจน์ กล่าวต่อว่า หลังจากมีการร้องเรียนผ่านเพจดังเช่นเพจของคุณต้นอ้อ ก็ได้มีการโพสต์ ในการพูดถึงหนี้สินโดยโดยไม่ได้มีการตรวจสอบอย่างชัดเจนซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่สามารถจะทำได้และเป็นเรื่องที่ไม่สมควร ส่วนกรณีว่ามีการไปแจ้งความไว้ที่สภ. พระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีตรวจสอบไปแล้วก็ไม่ได้มีการแจ้งความในการกล่าวทุกเพียงแต่เป็นการลงบันทึกบันทึกประจำวันไว้จึงไม่มีหมายเรียกตัวและก็ไม่ทราบด้วยว่าแจ้งเรื่องอะไรไป สำหรับกรณีการปิดเฟสหนี เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ซับซ้อนเนื่องจากอดีตสามีของคุณแนนพยายามจะตามให้คุณแนน กลับบ้านซึ่งคุณยุ้ยก็ได้มีการตักเตือนจนเกิดความไม่พอใจและเป็นประเด็นที่ห่างเหินกันไปซึ่งเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ การชดใช้หนี้ได้นัดหมายกันวันที่ 18 กุมภาพันธ์ แต่มาปรากฏบนโลกออนไลน์ในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ซึ่งตอนนี้เราพยายามจะชดใช้หนี้เพียงแต่ขอให้มีการนำสลิปมาสรุปจนถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้รับมา

"โดยสรุปคือตอนนี้คุณยุ้ยไม่ได้มีการติดใจเอาความกับคุณแนนแต่ต้องแจ้งความร้องทุกข์กับคนที่โพสต์ทำให้เสียหายโดยปรากฎตามสื่อ  และผู้คอมเม้นต์อื่นๆ ในลักษณะใส่ความกล่าวหาว่าเป็นผู้เป็นหนี้ไม่จ่าย เป็นขอทาน ซื้อกาแฟไม่จ่าย ทำให้เกิดความเสียหายเป็นวงกว้างจากการทำงานในวงการลูกทุ่งมากกว่า 30 ปี ซึ่ง หากพนักงานสอบสวนตรวจสอบพบว่ารายใดเข้าข่ายกระทำดูหมิ่นหมิ่นประมาทให้ร้าย ก็จะแจ้งความดำเนินคดีโดยทันที" นายศุภภัทร์พจน์ กล่าวปิดท้าย 

ขณะที่ยุ้ย ญาติเยอะ บอกว่าการมีปัญหากับแนนเบื้องต้นเกิดจากที่แนนมาอยู่กับเรานานนับปีซึ่งอดีตสามีก็จะมีการติดตาม มาที่เราหากติดต่อแนนไม่ได้ เราก็หนักใจที่จะต้องคอยแบกรับปัญหาเมื่อบอกไปแล้วก็เกิดปัญหาดังกล่าวและไม่คิดว่าเรื่องนี้จะกลับมาทำร้ายเรา แต่ทุกวันนี้ก็ยังมองว่าแนนเป็นคนในครอบครัวยังรู้สึกดีเค้าใช้เงินกระเป๋าเดียวกับเรากินเที่ยวอยู่ที่เราซึ่งวันนี้ก็ยังคิดเรื่องดีดีกับแนนอยู่เสมอไม่คิดเอาความ และเรื่องสลิปหากได้มาก็จะต้องมานั่งคุยกันและพร้อมโอนทันทีซึ่งส่วนที่คิดว่าได้ให้เงินสดไปแล้วตรงนั้นก็ไม่ได้นับเพราะถือว่าเราสนิทกันมาก 

ยุ้ย ญาติเยอะ บอกต่อว่า วันนี้ผลกระทบมาที่ครอบครัวของเรา เพราะเราต้องใช้ชื่อเสียงในการทำมาหากิน ตอนนี้โดนตัดงานยกเลิกมัดจำไปแล้ว 10 กว่างาน พรีเซนเตอร์ก็ถูกยกเลิก ถึงแม้ว่ายอดหนี้จะไม่ถึงตามที่เค้าบอกแต่เราก็ตัดใจไม่คิดอะไรพร้อมคืนให้ทั้งหมด เพียงแต่เราคุยกันแล้วคิดว่าไม่น่าจะเกิดเรื่องเพราะยังแซวกันว่าถ้าแกเอาเรื่องนี้ไปโพสต์หรือไปแจ้งใคร สงสัยฉันจะหางานไม่ได้ แล้วก็ ยังนั่งขำกัน แต่ไม่คิดว่าเรื่องนี้จะกลายเป็นจริง ส่วนเจ้าของเพจดังหรือทนายก็ไม่เคยได้พูดคุยหรือรู้จักกันมาก่อนมาก่อนมารู้อีกที ตอนมาทำบุญที่นครปฐมเพราะมาเจอแฟนคลับเปิดให้ดูว่ามีการโพสต์ทวงหนี้โพสต์กล่าวหาซึ่งมันไม่เป็นความจริง สุดท้ายก็ขอปกป้องสิทธิของตัวเองและรักษา ชื่อเสียงของวงดนตรีเอาไว้เพราะตอนนี้ผลกระทบกับลูกทีมเป็น 100 ครอบครัวทั้งทีมงานขนของทีมงานเวทีแดนซ์เซอร์ ที่ทุกคนกำลังเครียดและขอให้คนที่เสพข่าวได้ เปิดใจฟังยุ้ยบ้าง นี่คือสิ่งที่อยากจะบอก สุดท้ายคือเรื่องนี้ถ้ายุ้ยกับแนนได้คุยกันส่วนตัวมันต้องจบแน่นอน