วันที่ 14 มีนาคม 2567 ที่บริเวณคลองผดุงกรุงเกษม เขตพระนคร นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ชี้แจงกรณีกระแสวิพากษ์วิจารณ์แนวทางการพัฒนาคลองโอ่งอ่างว่าไม่ยอมสานต่อจากผู้บริหารเดิมที่เคยพัฒนาไว้ ทำให้คลองโอ่งอ่างวันนี้ดูเงียบเหงาลงกว่าก่อน
โดยนายชัชชาติ ชี้แจงว่า การพัฒนาย่านคลองโอ่งอ่างหรือย่านต่าง ๆ ไม่ใช่เพียงการนำคนมาจัดอีเวนต์หรือตลาดนัดแล้วจบไป เพราะเป็นเรื่องชั่วคราว คนในพื้นที่ไม่ได้ประโยชน์อย่างยั่งยืน ซึ่งคลองโอ่งอ่างแต่เดิมเป็นคลองหลังบ้านและหลังออฟฟิศต่าง ๆ บางช่วงจึงเป็นที่จอดรถด้านหลังของสำนักงาน รวมถึงอยู่ระหว่างก่อสร้างช่วงต่อขยายไปคลองบางลำพู ซึ่งหากมีการรับมอบงานเรียบร้อยแล้ว จะไม่มีที่จอดรถอีก
อย่างไรก็ตาม ย่านคลองโอ่งอ่างยังไม่มีอัตลักษณ์หรือสินค้าประจำย่านเหมือนย่านอื่น ๆ เช่น ปากคลองตลาด หรือย่านเสาชิงช้า ย่านบรรทัดทอง ซึ่งมีร้านอาหารจำนวนมาก ดังนั้น การพัฒนาอัตลักษณ์ต้องใช้เวลา ตนพร้อมรับทุกคำติชม แต่ต้องเรียนว่าไม่ใช่เรื่องการเมือง
ยกตัวอย่าง การจะตั้งสตรีทฟู้ดย่านดังกล่าว ต้องจัดระเบียบและตั้งหลักให้ดีก่อน หาอัตลักษณ์ให้ได้ว่าย่านนี้อยากเป็นอะไร แนวทางที่คิดไว้คือ ย่านนี้ใกล้วิทยาลัยเพาะช่าง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ อาจจะทำเป็นสตรีทอาร์ต หรือย่านนำเสนองานศิลปะ ซึ่งต้องให้ชุมชนร่วมกันออกแบบแสดงความคิดเห็นด้วย
นายชัชชาติ กล่าวว่า การไปคลองโอ่งอ่าง คงไม่ได้ไปดูคลอง เพราะมีคลองสวยอื่น ๆ หลายที่ หรือมาพายเรือก็คงไม่ใช่ เพราะตลิ่งสูง คลองแคบ ลงไปพายเรือแล้วมองไม่เห็นอะไร เหมือนพายอยู่ในท่อ ซึ่งหากต้องการพายเรือ กทม.เปิดบริการแล้วในสวนลุมพินี สวนบึงยาสูบ สวนรถไฟ ปัจจุบัน ย่านคลองโอ่งอ่างเป็นสถานที่ออกกำลังกายได้ ในอนาคตอาจมีตลาดสด มีตลาดขายต้นไม้บางช่วง แต่ต้องค่อย ๆ พัฒนาต่อไป ซึ่งที่ผ่านมา กทม.พัฒนามาหลายย่านแล้ว
”ยินดีรับคำติชม ยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับการเมืองเลย ผมก็เบื่อเรื่องการเมือง เราทำงานอย่างเดียว ไม่มีความทะเยอทะยานอะไร ขอทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เราเคารพผลงานของทุกท่านที่ผ่านมา ทุกท่านทำงานได้ดี เรามาต่อเนื่องจากงาน แต่เราต้องคิดให้ถึงแก่น ดึงอัตลักษณ์ของย่านจริง ๆ ออกมา ด้วยคำถามง่าย ๆ ว่า เราจะไปคลองโอ่งอ่างเพื่ออะไร“ นายชัชชาติ กล่าว
#ชัชชาติ #คลองโอ่งอ่าง #กทม