นายฐากร ปิยะพันธ์ ผู้จัดการใหญ่ ทีเอ็มบีธนชาต เปิดเผยว่า ทีทีบีมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อส่งมอบชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นให้ลูกค้าอย่างต่อเนื่องในทุกช่วงชีวิต โดยเฉพาะ 4 กลุ่มลูกค้าหลักที่ธนาคารเชี่ยวชาญ ภายใต้แนวคิด Ecosystem Play ได้แก่ กลุ่มคนมีรถ คนมีบ้าน พนักงานเงินเดือน และลูกค้า Wealth โดยมีแอป ttb touch เป็นแพลตฟอร์มหลักในการเชื่อมต่อโซลูชันและสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ จากพันธมิตรชั้นนำของธนาคาร เพื่อส่งมอบประสบการณ์ทางการเงินในระดับบุคคล หรือ Segment-of-One ให้กับลูกค้า ส่งผลให้ในปีที่ผ่านมา ทั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์เงินฝาก สินเชื่อ ลงทุน และประกัน มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง สำหรับในปี 2567 นี้ ทีทีบีเดินหน้ากลยุทธ์ LEAD the CHANGE for Financial Well-being of Retail Customers เป็นผู้นำในการสร้างความแข็งแกร่งด้านผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่สนับสนุนให้ลูกค้าฉลาดออม ฉลาดใช้ มีความรอบรู้เรื่องกู้ยืม พร้อมลงทุนเพื่ออนาคต และมีความคุ้มครองที่อุ่นใจ จึงมุ่งพัฒนาโซลูชันที่ตอบโจทย์ ตรงใจกลุ่มลูกค้า และนำ Digital & Data Innovation มาใช้เพื่อพัฒนาการให้บริการที่ดีขึ้น
ขยายฐานลูกค้าและการส่งมอบผลิตภัณฑ์เพื่อชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นทั้ง 4 มิติ
ด้านฉลาดออม ฉลาดใช้
ท่ามกลางความท้าทายของการแข่งขันเรื่องเงินฝากและดอกเบี้ยขาขึ้น ทีทีบีพร้อมตอบโจทย์ลูกค้าด้วยผลิตภัณฑ์เงินฝากที่หลากหลาย ครอบคลุมทุกความต้องการด้านการออม ทั้ง บัญชี ทีทีบี ดอกเบี้ยด่วน บัญชีฝากประจำที่ให้ดอกเบี้ยสูงและเร็วกว่า ถอนดอกเบี้ยไปใช้ได้ก่อน ไม่ต้องรอจนครบกำหนด บัญชี ME Save เงินฝากดิจิทัล เพื่อการออม ไม่ต้องฝากประจำ ให้ดอกเบี้ยสูงถึง 2.2% และบัญชีเงินฝากเงินตราต่างประเทศสกุล USD รับดอกเบี้ยสูงสุด 5.25% และกลุ่มผลิตภัณฑ์บัตรเดบิต 3 รูปแบบให้เลือกตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน บัตร ttb all free digital ที่เหมาะกับคนที่ชอบใช้จ่ายออนไลน์ ล่าสุดธนาคารได้เปิดตัวบัตร ttb all free Olympic Games Paris 2024 ไป เป็น Limited Edition สำหรับผู้ที่เน้นใช้บัตรในการรูดซื้อของ แต่ไม่กดเงิน/ถือเงินสด และ บัตร ttb all free ที่ กด โอน จ่าย เติม ฟรี โดยทุกบัตร ฟรี ค่าธรรมเนียม FX Rate 2.5% และไม่คิดค่าธรรมเนียมแปลงสกุลเงินบาท หรือ DCC 1%
ด้านรอบรู้เรื่องกู้ยืม
จากปัญหาเศรษฐกิจเรื้อรัง ทำให้ปีที่ผ่านมาประเทศไทยมีผู้ที่เป็นหนี้ค้างชำระระหว่าง 1-3 เดือนสูงขึ้น และมีการผิดนัดชำระหนี้มากขึ้น ทีทีบียังคงเดินหน้าพัฒนาโซลูชันการเงินที่ช่วยแบ่งเบาภาระหนี้อย่างครอบคลุม ได้แก่
กลุ่มผลิตภัณฑ์สินเชื่อบุคคล ทีทีบียังคงมุ่งส่งเสริมให้คนไทยใช้จ่ายเท่าที่จำเป็น เพื่อจะได้ไม่ต้องแบกภาระดอกเบี้ยมากจนเกินไป และยังคงมุ่งเน้นการแนะนำโซลูชันรวบหนี้ให้กับลูกค้าผ่านสินเชื่อสวัสดิการ ttb welfare loan สำหรับพนักงานบริษัทที่ใช้บัญชีเงินเดือนทีทีบี และการโอนหนี้มายังบัตร ttb flash card รับดอกเบี้ยต่ำกว่า ทั้งยังเพิ่มการเข้าถึงสินเชื่อผ่าน Digital Lending ด้วย ttb touch
กลุ่มผลิตภัณฑ์สินเชื่อบ้าน ทีทีบีต้องการให้คนไทยสามารถเข้าถึงสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อมีบ้านเป็นของตัวเอง และลดภาระหนี้ ในปีนี้ ธนาคารได้ผนึกกำลังกับพันธมิตรชั้นนำเพื่อสร้างความแข็งแกร่ง โดยเน้นการปล่อยสินเชื่อบ้านใหม่ในกลุ่มบ้านเดี่ยวในเมือง และคอนโดตามแนวรถไฟฟ้า พร้อมเพิ่มสัดส่วนการรีไฟแนนซ์บ้านในกลุ่มลูกค้าพนักงานเงินเดือน และเน้นโครงการรวบหนี้ เพื่อช่วยผ่อนภาระดอกเบี้ยให้กับคนไทย
สินเชื่อรถยนต์ ทีทีบีมุ่งเพิ่มสัดส่วนรถ EV พร้อมวางแนวทางการดำเนินธุรกิจ ได้แก่ 1) Dealer 360° กำหนดกลุ่มคู่ค้าเพื่อสร้างและรักษาสัมพันธ์ในฐานะพันธมิตรอย่างยั่งยืน 2) Portfolio Mix ปรับสัดส่วนประเภทรถยนต์และกลุ่มลูกค้า เพื่อสร้างพอร์ตสินเชื่อคุณภาพ 3) บุกตลาดรถมือสองผ่านเว็บไซต์ Roddonjai เน้นกลุ่มลูกค้าคุณภาพ และรถสภาพดี 4) Risk Cost Management คัดเลือกลูกค้าคุณภาพ ให้ความช่วยเหลือลูกค้า และช่วยปรับโครงสร้างหนี้ รวมถึงติดตามหนี้อย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันหนี้เสีย และ 5) Cash Your Car ช่วยบรรเทาปัญหาหนี้สินของลูกค้า โดยการรวบหนี้ด้วยสินเชื่อรถแลกเงิน
บัตรเครดิต ในปีนี้ บัตรเครดิต ttb มุ่งขยายฐานลูกค้าใหม่ผ่านเครือข่ายพันธมิตร โดยมุ่งเน้นการสร้างความคุ้มค่าในการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันสำหรับคนมีรถ คนมีบ้านและพนักงานเงินเดือน ล่าสุดบัตรเครดิต ttb ได้จับมือกับ Google Pay ให้บริการผูกบัตรกับ Google Wallet แตะ จ่าย ไร้สัมผัส ผ่านสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ และ เร็ว ๆ นี้ ลูกค้าจะสามารถใช้บริการ Virtual Credit Card บนแอป ttb touch ใช้จ่ายได้ทันทีหลังบัตรอนุมัติ ไม่ต้องรอบัตรจัดส่ง เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้จ่ายให้กับลูกค้ามากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ธนาคารยัง มีความห่วงใยในปัญหาหนี้สินของคนไทย โดยเฉพาะกลุ่มพนักงานเงินเดือน โดยได้นำร่องเสริมสร้างความรู้ Financial Literacy ผ่านโปรแกรมปลดหนี้เพื่อพนักงานทีทีบี โดยให้พนักงานธนาคารทำแบบทดสอบตรวจสุขภาพทางการเงิน เข้าเรียนคอร์สออนไลน์ และพบโค้ชปลดหนี้ เพื่อการแก้หนี้อย่างยั่งยืน และปีนี้จะมีการขยายโปรแกรมดังกล่าวเพื่อสอดรับกับมาตรการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม (Responsible Lending) ของธนาคารแห่งประเทศไทยสู่คนไทยทั้งประเทศ
ด้านลงทุนเพื่ออนาคต
จากภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ส่งผลกระทบต่อความมั่นใจในการลงทุน ทีทีบีจึงเน้นผลิตภัณฑ์ที่มุ่งรักษาเงินต้นและปิดความเสี่ยง เช่น หุ้นกู้อนุพันธ์แฝงอ้างอิงดัชนี (Index Linked Note) เป็นทางเลือกสำหรับนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนที่สูงขึ้น พร้อมคุ้มครองเงินต้นในเวลาเดียวกัน ช่วยต่อยอดความมั่งคั่งทางการเงิน โดยปีที่ผ่านมา ทีทีบีประสบความสำเร็จในการส่งต่อความมั่งคั่งของกลุ่มลูกค้า Wealth โดยมีลูกค้าใหม่ กลุ่ม AUM 30 ล้านบาทขึ้นไป เพิ่มขึ้นกว่า 1,100 คน และ AUM เพิ่มขึ้นถึง 6 % ธนาคารยังได้มีการจัดทีม Private Banking ผู้เชี่ยวชาญการลงทุนเพื่อยกระดับการให้บริการ พร้อมทั้งเพิ่มสิทธิประโยชน์เพื่อขยายฐานลูกค้ากลุ่มนี้ ผ่านบัตรเครดิต ttb reserve รวมถึงเดินหน้าเจาะกลุ่มลูกค้า Wealth ที่มีบุตร-หลานเรียนต่างประเทศ และมุ่งเน้นการส่งมอบ Wellness Solution เพื่อการลงทุนอย่างยั่งยืน
ด้านความคุ้มครองที่อุ่นใจ
ทีทีบีผนึกกำลังกับพันธมิตรชั้นนำด้านประกันชีวิตและประกันภัย โดยเน้นการนำเสนอประกันสุขภาพที่ตอบโจทย์ ทั้งประกันเหมาจบ ๆ @BDMS, ทีทีบี เฟล็กซี่ ไลฟ์ โพรเทค (ยูนิตลิงค์), ประกันชีวิต ทีทีบี โกลบอล อินเด็กซ์, พรินซิเพิล โพรเทค15/5 พลัส และนำเสนอโซลูชันประกันรถยนต์ที่ครอบคลุม ทั้งประกันรถยนต์ EV ประกันอะไหล่รถยนต์ มอเตอร์ วอร์รันตี รวมไปถึงการเพิ่มความสะดวกในการซื้อประกันภัยผ่านช่องทางแอป ttb touch และผ่าน ttb broker
การใช้ Digital & Data Innovation เพื่อพัฒนาการให้บริการที่ดีขึ้น
ทีทีบีมุ่งให้บริการด้วย Digital-First Experience โดยนำเสนอประสบการณ์การทำธุรกรรมที่สะดวกและครอบคลุม ผ่านแอป ttb touch และการทำ Data Analytics วิเคราะห์ข้อมูลควบคู่ไปกับการใช้ AI Engine เพื่อเข้าใจพฤติกรรมลูกค้าที่มากขึ้น สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ บริการ และส่งมอบประสบการณ์ที่ตรงใจในระดับบุคคล พร้อมยกระดับความปลอดภัยในการใช้งาน และในปีนี้แอป ttb touch ยังมีฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่ทยอยออกมาตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่ม Ecosystem Play ตลอดทั้งปี ปัจจุบันมีผู้ใช้งานที่ Active ในแต่ละเดือนบนแอป ttb touch เพิ่มขึ้น 10% จากปีที่ผ่านมา เช่นเดียวกับธุรกรรมบนแอป ttb touch ที่เพิ่มขึ้น 33 %
"ทีทีบีมั่นใจว่าจากกลยุทธ์ดังกล่าวที่ธนาคารมีความมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีขึ้นให้กับลูกค้าในทุกด้าน พร้อมกับนำดิจิทัลโซลูชันตอบโจทย์ลูกค้าให้ได้รับประสบการณ์ที่ดีมากกว่าเดิม จะส่งผลให้ในปี 2567 ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆในทุกกลุ่มสามารถเติบโตเพิ่มขึ้นได้ตามเป้าหมาย และทำให้ทีทีบียังเป็นธนาคารที่ลูกค้าเลือกใช้ ชื่นชอบและบอกต่อ เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยยกระดับให้ชีวิตทางการเงินของคนไทยดีขึ้น ทั้งในวันนี้และอนาคต"