วันที่ 13 มี.ค.2567 โรงแรมเซ็นทาราฯ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นประธานเปิดการประชุมบูรณาการความร่วมมือเครือข่ายส่งเสริมวิถีประชาธิปไตย และเป็นสักขีพยาน การลงนามความร่วมมือบูรณาการเครือข่ายภาคประชาชนส่งเสริมวิถีประชาธิปไตยระหว่าง สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง และ สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ สภาองค์กรชุมชน สภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย เครือข่ายเยาวชนสังเกตการณ์การเลือกตั้งเพื่อประชาธิปไตย (We watch)
นายอิทธิพร กล่าวเปิดงานว่า การประชุมครั้งนี้ เป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญของ กกต.ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ. 2560 มาตรา 22 (5) ที่กำหนดให้ กกต. มีหน้าที่และอำนาจในการส่งเสริม สนับสนุนให้หน่วยงานของรัฐ สถาบันการศึกษา และองค์กรเอกชน ในการสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องให้แก่ประชาชนเกี่ยวกับการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข การมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน หรือให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการ ตรวจสอบการเลือกตั้งและมีความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ เพื่อให้การออกไปใช้สิทธิออกเสียงของประชาชนเป็นไปโดยอิสระ ปราศจากการครอบงำ และคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญ
ทั้งนี้ กกต.ตระหนักว่า สถานการณ์ทางการเมืองปัจจุบันจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องแก้ไขโดยเร่งด่วนด้วยการสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จึงได้ส่งเสริม สนับสนุน และบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานของรัฐ สถาบันการศึกษา และองค์กรภาคประชาสังคม ในการสร้างความรู้ ความเข้าใจ ที่ถูกต้องแก่ประชาชนเกี่ยวกับการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยมีการจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระดับนโยบายในการเสริมสร้างความเป็นพลเมือง คุณภาพและความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข นำมาสู่การกำหนดเป้าหมายในการผลักดันแนวทางการให้การศึกษาเพื่อสร้างพลเมืองคุณภาพ เป็นวาระแห่งชาติ
ซึ่งหวังอย่างยิ่งว่าสำนักงาน กกต.จะได้มีแผนการบูรณาการความร่วมมือกับ เครือข่ายหน่วยงานภาครัฐ ภาคประชาชน และองค์กรเอกชน เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนเรื่องดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป จึงขอให้การประชุมในครั้งนี้เป็นการรวมพลังและแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันที่จะขับเคลื่อนการสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับ การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขเพื่อวางรากฐานประชาธิปไตยที่มั่นคงและยั่งยืนสืบไป