โฆษกรัฐบาล เผยนายกรัฐมนตรีผลักดัน สินค้า-บริการไทย สู่ตลาดโลก ผ่านแผนดำเนินกิจกรรมด้วย Soft Power ทั้งในประเทศและต่างประเทศมากกว่า 30 ประเทศทั่วโลก สร้างมูลค่าทางการค้าแล้วกว่า 6 พันล้านบาทจากกิจกรรมนำร่อง
วันที่ 12 มี.ค.67 นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สนับสนุนการผลักดันการส่งออก และส่งเสริมสินค้าและบริการของไทยผ่าน Soft Power ตั้งเป้าสามารถสร้างงานให้แก่คนไทย 20 ล้านตำแหน่ง สร้างรายได้ 4 ล้านล้านบาทต่อปี ผ่านอุตสาหกรรม 11 สาขา โดยกระทรวงพาณิชย์ นำร่องกิจกรรมส่งเสริมตลาดแล้ว 42 กิจกรรม ผู้ประกอบการไทยได้รับประโยชน์จากกิจกรรมแล้ว 294 ราย และสร้างมูลค่าทางการค้าแล้วกว่า 6,089.36 ล้านบาท
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าปี 2567 นี้ รัฐบาลโดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ มีแผนดำเนินกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับ Soft Power ไม่น้อยกว่า 207 กิจกรรม ซึ่งประกอบด้วย กิจกรรมที่กรมฯ ดำเนินการ จำนวน 130 กิจกรรม และสนับสนุนผู้ประกอบการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าที่อยู่ภายใต้ Soft Power 11 สาขา ผ่านโครงการ SMEs Pro-active จำนวน 77 กิจกรรม โดยจะดำเนินการทั้งในประเทศและต่างประเทศมากกว่า 30 ประเทศทั่วโลก
ทั้งนี้ ในเดือนมีนาคม 2567 มีการจัดกิจกรรมงานหนังสือ Taipei International Book Exhibition (TIBE) 2024 ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้านานาชาติด้านหนังสือที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียและใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก และโครงการส่งเสริมภาพลักษณ์อาหารไทยและธุรกิจบริการอาหารไทย (Thai SELECT) ในภูมิภาคยุโรป อาเซียน เอเชียและโอเชียเนีย (Oceania) โดยนำ Influencer ชื่อดังในท้องถิ่น รีวิวสินค้าและบริการของไทยในต่างประเทศด้วย ขณะเดียวกัน มีแผนที่จะขับเคลื่อน Soft Power ของไทย โดยนำเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในประเทศต่าง ๆ เพื่อเปิดตัวและสร้างโอกาสทางการค้า รวมไปถึง ส่งเสริมผู้ประกอบการเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการค้าด้วยตนเอง 82 งาน มีผู้เข้าร่วมโครงการรวม 193 ราย และมูลค่าสั่งซื้อ 2,233.91 ล้านบาท
“นายกรัฐมนตรีส่งเสริมการนำซอฟต์พาวเวอร์ของไทยไปต่อยอดให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชน เพิ่มมูลค่าสินค้าท้องถิ่น สินค้าสร้างสรรค์ของไทย โดยเชื่อมั่นว่าซอฟต์พาวเวอร์ไทยมีศักยภาพหากได้รับการสนับสนุนที่เหมาะสมจากรัฐบาลจะส่งผลประโยชน์มหาศาล ถึงประชาชนท้องถิ่น สร้างงาน สร้างรายได้ และเพิ่มมูลค่าทางการค้าให้กับประชาชนชาวไทย โดยนายกรัฐมนตรีก็มีส่วนด้วยในการนำผ้าขาวม้าไทยมาโปรโมทให้เป็นที่สนใจในตลาดต่างประเทศ เพื่อให้ติดตลาด เผยแพร่ประชาสัมพันธ์สินค้าให้เป็นที่รู้จักทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยนายกฯ เชื่อว่า การดำเนินการของไทย รวมทั้งแผนกิจกรรมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะสร้างมูลค่ามหาศาลให้แก่ประเทศ และเปิดโอกาสให้ประชาชนไทย ทางอาชีพ และเศรษฐกิจ”นายชัย กล่าว