เมื่อเวลา 09.00 น. ของวันที่ 12 มี.ค.67 ร.ต.อ.ฐานิต ที่ภักดี รอง สว.สอบสวน สภ.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งมีคนร้ายเข้าไปภายในร้านทองปัญญา สาขา 700 ไร่ เลขที่ 111/90 ม.3 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา โดยกล้องวงจรปิดสามารถ จับภาพคนร้ายได้ หลังรับแจ้งได้รุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ธนพล กลิ่นเกษร ผกก.สภ.สัตหีบ พ.ต.ท.สุวิจักขณ์ เรืองนวมดี รอง ผกก.สส.สภ.สัตหีบ พ.ต.ท.ชนะทัต นวคุณรังสี รอง ผกก.ป.สภ.สัตหีบ กำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจและชุดสืบสวน
ที่เกิดเหตุ เป็นตึกแถว-อาคารพาณิชย์ 3 ชั้น โดยมี นายปัญญา ปั้นประสงค์ อายุ 61 ปี เจ้าของร้านทองปัญญา สาขา 700 ไร่ ยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยจากการตรวจสอบ ภายในร้าน ไม่มีทรัพย์สินสูญหายแต่อย่างใด มีเพียงกล้องวงรปิด และตู้สัญญานกันขโมย ได้รับความเสียหาย โดยกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพคนร้ายเป็น ชาย 1 คน ใส่หมวกแก๊ป สวมกางเกงยีนต์ขายาว สวมเสื้อแจ็คเก็ต รองเท้าผ้าใบ ใส่แมสก์ปิดใบหน้า ขณะเดินสำรวจหาทรัพย์สินภายในร้านทอง แต่ทางร้านมีระบบความปลอดภัยที่แน่นหนา ก่อนระบบส่งสัญญานเตือนไปยัง เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าของร้านและเจ้าหน้าที่บริษัทที่ดูแลระบบความปลอดภัย ในช่วงเวลา 22.00 น.ของวันที่ 11 มี.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รีบลงไปตรวจสอบพร้อมเจ้าของร้าน แต่ไม่สามารถติดต่อ ลูกจ้างถือกุญแจร้านได้ จึงได้ลงตรวจสอบกันอีกครั้งในช่วงเช้า
นายปัญญา ปั้นประสงค์ อายุ 61 ปี เจ้าของร้านทองปัญญา สาขา 700 ไร่ กล่าวว่า เหตุเกิดประมาณ 22.00 น. ของเมื่อคืน คนร้ายมาคนเดียว ซึ่งตอนนี้กำลังดูกล้องวงจรปิดกันอยู่ โดยไม่ได้ทรัพย์สินอะไรไปแม้แต่อย่างเดียว เพราะเรามีระบบความปลอดภัยที่แน่นหนา โดยระบบได้ส่งสัญญานเตือนไปยัง เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าของร้านและเจ้าหน้าที่บริษัทที่ดูแลระบบความปลอดภัย ในช่วงเวลา 22.00 น.ของวันที่ 11 มี.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ได้รีบลงไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่บริษัทที่ดูแลระบบความปลอดภัย ในช่วงเวลาที่สัญญานส่งเตือนภัย แต่ไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบภายในร้านได้ช่วงกลางดึก เพราะลูกจ้าง ที่ถือกุญแจร้านไม่สามารถติดต่อได้ ก่อนในรุ่งเช้าวันนี้จะได้ร่วมกันลงตรวจสอบอีกครั้งในช่วงเช้า
เบื้องต้น พ.ต.อ.ธนพล กลิ่นเกษร ผกก.สภ.สัตหีบ ได้สั่งการให้ชุดสืบสวน ลงพื้นที่หาข่าวและตรวจสอบกล้องวงจรปิดโดยรอบบริเวณร้านแล้วเพื่อเร่งติดตามหาตัวคนร้ายรายนี้มาสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยพฤติกรรมคนร้ายได้ปีนเข้าจากทางหลังร้านโดยงัดประตูจากชั้น 2 เข้าไป ก่อนจะลงไปหาทรัพย์สิน แต่ทางร้านมีระบบความปลอดภัยที่แน่นหนา ทำให้ไม่ได้ทรัพย์สินอะไรออกไป ประกอบกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับสัญญานเตือนภัย ช่วงกลางดึก จึงได้ลงไปตรวจสอบทันที แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบภายในได้ในช่วงกลางดึกเนื่องจาก กุญแจ เปิดร้านทองอยู่ที่ลูกจ้าง โดยที่เจ้าของร้านก็พยายามติดต่อลูกจ้าง แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ จึงได้ร่วมกันตรวจสอบในรุ่งเช้าของวันนี้ ก่อนตรวจสอบกล้องวงจรปิดและพบเห็นคนร้ายดังกล่าว