"สว.กิตติศักดิ์" เตือน "ยิ่งลักษณ์" กลับไทยใช้ "ทักษิณโมเดล" เป็นฟางเส้นสุดท้าย นำไปสู่ความขัดแย้งรอบใหม่ ชี้ถ้า "นิรโทษกรรม" ต้องครอบคลุมนักโทษทั้งประเทศ ลั่น "สว." พร้อมเปิดเวทีถลกรัฐบาล 12 ชั่วโมง ยันมีแน่ปม "ทักษิณ" ไม่ปล่อยให้สิ่งที่ไม่ถูกต้องเกิดขึ้น ไม่กลัวถูกฟ้องกลับ เหน็บ "เศรษฐา" บินรอบโลก แต่คว้าน้ำเหลว ขณะที่ "เสรี" เย้ย "เศรษฐา" อยู่ให้ถึง 25 มี.ค. เตือนระวังเสื่อมถูกวิจารณ์ทัวร์นอก 200 วัน แนะสว.อย่าเอ่ยถึง "คนนอก"

 ที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 11 มี.ค.67 นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สว. กล่าวถึงกระแสข่าว น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะกลับประเทศไทยโดยใช้โมเดลเดียวกับนายทักษิณ ชินวัตร ว่า ตนเป็นในเรื่องของความขัดแย้ง หากน.ส.ยิ่งลักษณ์จะหลับมาจริง เพราะต้องขอบอกว่าความขัดแย้งที่เกิดขึ้นของประชาชนคนไทยต้นตอมาจากนายทักษิณ แล้วถ้ายังมาซ้ำเติมโดยการที่นำผู้ที่ถูกศาลพิพากษาให้จำคุก ซึ่งน.ส.ยิ่งลักษณ์ถูกศาลพิพากษาให้จำคุก 5 ปี และยังมีคดีอื่นๆที่รอคำพิพากษาเดินทางกลับประเทศมาโดยไม่ต้องติดคุก ตนขอย้ำว่ากลัวจะเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ประชาชนจะสิ้นสุดความอดทน สำหรับประเทศไทยอะไรจะเกิดตนไม่ทราบแต่คิดว่าควรหยุดควรพอได้แค่นายทักษิณ หากว่า น.ส.ยิ่งลักษณจะกลับมาโดยไม่ต้องรับโทษ ตนเกรงว่าความอดทนของคนจะสิ้นสุด
 
เมื่อถามว่า มองถึงโอกาสการเดินทางกลับประเทศไทยของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะเป็นไปโดยง่ายหรือไม่ หากใช้เกณฑ์พักโทษเช่นเดียวกับนายทักษิณก็ยังอายุไม่ถึง นายกิตติศักดิ์ กล่าวว่า ตนมองว่าไม่ง่าย กรณีของนายทักษิณก็ยังพอกล้อมแกล้ม เอาสีข้างเข้าถูไปได้ แต่สำหรับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ตนมองไม่ออกว่าเข้ามาแล้วไม่ติดคุก จะเอาเหตุผลใดมา ยังมองไม่ออกว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ จะไม่ติดคุกได้อย่างไรถ้ากลับมา
 
เมื่อถามย้ำว่า ถ้าหากจะใช้ช่องทางนิรโทษกรรม นายกิตติศักดิ์ กล่าวว่า ใครจะทำพรรคการเมืองไหนจะทำ ปี 57 ก่อนที่จะเกิดการปฏิวัติ ก็มีการนิรโทษกรรมสุดซอย ดังนั้นตนคิดว่าตรงนั้นไม่ใช่หลักของกฎหมาย ถ้าทุกคนทำผิดสมมติต่อไปใครไปฆ่าคน ค้ายาบ้า ก็นิรโทษกรรมให้หมดและถ้าทุจริตซึ่งไม่ใช่ทุจริตธรรมดา รวมถึงการทำผิดกฎหมายเล็กๆน้อยๆ ศาลตัดสินจำคุก 3 เดือน 6 เดือน ยังติดคุกจริง
 
ถ้าหากกรณีของนักการเมืองและอดีตนายกรัฐมนตรี กระทำผิดโดยศาลพิพากษาแล้ว ถ้าจะนิรโทษกรรมผมขอเสนอให้นิรโทษกรรมให้กับนักโทษ 200,000 คน หรือนักโทษทั้งหมดทั้งประเทศ ล้างมลทินทั้งหมดเลย นักโทษที่เขาติดคุก แพะบ้าง จริงบ้าง ยกโทษให้หมด ผมจะเป็นคนเดียวและเป็นคนแรกที่ยกมือให้ แต่ถ้านิรโทษกรรมคนเดียวไม่เห็นด้วยเด็ดขาดนายกิตติศักดิ์ กล่าว

 นายกิตติศักดิ์ ยังให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมในการอภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 153 ว่า สมาชิกที่เข้าชื่อไว้ 36 คน มีความพร้อมมาก ตนจะเป็นผู้พิจารณาเวลาอภิปรายของแต่ละคน ส่วนจะอภิปรายด้วยหรือไม่นั้น ขอให้ติดตาม โดยวันที่ 25 มี.ค. จะเริ่มตั้งแต่ 09.00-24.00 น. สว.ได้สัดส่วน 12 ชั่วโมง รัฐบาลชี้แจง 3 ชั่วโมง

 ผู้สื่อข่าวถามว่าเรื่องนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะอยู่ในหัวข้อที่อภิปรายหรือไม่ นายกิตติศักดิ์ กล่าวว่า มีเยอะ ตนไม่ทราบว่าคนที่อภิปรายจะกลัวนายทักษิณฟ้องหรือไม่ แต่คิดว่าทุกคนพร้อม ตนก็พร้อมมาก หากปล่อยให้สิ่งที่ไม่ถูกต้องเกิดขึ้น ละเมิดกฎหมาย ทุจริตกันมหาศาล เสร็จแล้วกลับบ้านหน้าตาเฉย แล้วส่งลูกน้องไปฟ้องคนที่วิจารณ์ จากความกลัวจะกลายเป็นความไม่กลัว ขณะนี้อดีต สส.ถูกฟ้อง เพราะไปลงภาพที่นายทักษิณ ซ้อมต่อยมวย ก่อนกลับประเทศไทย ไม่ทราบว่าลูกน้องนายทักษิณ จะไปเดือดร้อนแทนอะไร

 เมื่อถามถึงนายทักษิณ จะเดินทางไปจ.เชียงใหม่ในวันที่ 14-16 มี.ค.นี้ นายกิตติศักดิ์ กล่าวว่า ตนบอกแล้วว่า นายทักษิณคือสิ่งมหัศจรรย์ของโลก การไปไหนมาไหนได้ ไม่ทราบว่าไปตกลงกับใคร แต่ในฐานะผู้แทนปวงชนชาวไทย ต้องเอาเรื่องจริงมาบอกประชาชน
 ผู้สื่อข่าวถามว่านายกฯ จะเดินทางไปในช่วงเวลาเดียวกัน มองว่าจะได้พบกับนายทักษิณหรือไม่ นายกิตติศักดิ์ ถามกลับว่า นายกฯคนไหน เห็นเขาว่ามีตั้งหลายคน

 ผู้สื่อข่าวตอบว่าหมายถึง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ นายกิตติศักดิ์ กล่าวว่า ความบังเอิญเกิดขึ้นได้ แต่ทุกอย่างเกิดจากความตั้งใจและวางแผนไว้แล้ว ตนเห็นใจนายเศรษฐา เพราะท่านตระเวนไปรอบโลก แต่สื่อและประชาชนก็เห็นว่าเอาแก่นสารสาระไม่ค่อยได้ ใช้งบประมาณจำนวนมาก เดินทางไปรอบโลก แต่ผลงานจับต้องไม่ได้ เมื่อถามว่า มีกองเชียร์คอยรอต้อนรับนายทักษิณที่ จ.เชียงใหม่ นายกิตติศักดิ์ กล่าวว่า เป็นธรรมดา ทั้งนายทักษิณ นายเศรษฐา หรือน.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ไปก็ต้องมีเอฟซีไปต้อนรับ แต่คนมีตำแหน่งที่ไปนั้นมีความละอายใจ และเหมาะสมหรือไม่ ตรงนี้ต้องคิดและพิจารณา
 
นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง และการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 153 ในวันที่ 25 มี.ค.ว่า มีสว.แสดงความจำนงที่จะอภิปรายฯ 30 กว่าคน เนื่องจากมีข้อจำกัดเรื่องระยะเวลาให้วันเดียว 12 ชั่วโมง เพราะฉะนั้นจึงได้หารือว่าหากสว.ท่านใดมีประเด็นคล้ายคลึงกัน ประเด็นเดียวกันอาจจะมอบให้สว.อภิปรายในประเด็นนั้น หรือมอบเวลาให้คนที่มีข้อมูลเยอะๆ เพื่อให้การอภิปรายมีประโยชน์กับรัฐบาลและพี่น้องประชาชน
 
ขณะนี้ มีสว. 33 คน ตอนนี้ยังมีเวลาทำความเข้าใจตกลงร่วมกันว่าจะทำอย่างไรให้ได้สาระมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะฉะนั้นตอนนี้จึงขอความร่วมมือเพื่อลดจำนวนคน จริงๆถ้ารัฐบาบใจกว้าง และจริงใจควรจัดเวลาให้ 2 วันเพราะเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อการบริหารราชการแผ่นดิน เพราะเป็นการนำประเด็นปัญหามาพูดคุยกันในสภาฯ แต่รัฐบาลก็ไม่เข้าใจเรื่องเหล่านี้ ตอนแรกก็พยายามไม่ให้ลงชื่อให้ครบ แต่พอครบก็พยายามที่จะดึงเวลาออกไปอีก แทนที่จะนำประเด็นปัญหาไปแก้ไข ทำให้รัฐบาลเสียประโยชน์ เสียความน่าเชื่อถือ
 
ถือเป็นช่วงสุดท้ายของสว.ที่เราพยายามทำให้ดีที่สุด เพราะช่วงที่ผ่านมาเราไม่ค่อยมีโอกาสแบบนี้ สว.กว่าจะทำความเข้าใจไม่ใช่เรื่องง่าย ๆไม่เช่นนั้นก็ยื่นไปตั้งแต่รัฐบาลชุดที่แล้ว รัฐบาลก็คงจะเข้าใจ สว.เองก็ต้องเข้าใจไม่ใช่ยื่นอภิปรายฯกลายเป็นล้มรัฐบาล นายเสรี กล่าว
 
เมื่อถามว่ารัฐบาลอ้างยังไม่ได้ใช้งงบประมาณเลยจะอภิปรายฯทำไม นายเสรี กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกับเรื่องใช้งบประมาณหรือไม่ใช้งบประมาณ แต่คนในรัฐบาลนำมาอ้าง เพราะในรัฐธรรมนูญให้ใช้กฎหมายเดิมอยู่แล้ว  เมื่อถามว่า ประเด็นไหนที่สว.ต้องการอภิปรายมากที่สุด นายเสรี กล่าวว่า เรื่องเศรษฐกิจ เรื่องปากท้อง ประชาชนลำบากกลับกลายเป็นว่าจะมาแจกเงินดิจิตอลมีสมาชิกจะพูดเรื่องนี้เยอะ ส่วนเรื่องการเปลี่ยนตัวนายกฯมีการพูดมาตลอดว่ามีนายกฯ 2-3 คนบ้าง ตนก็ยังภาวนาให้รัฐบาลนายกฯคนปัจจุบันอยู่ให้ถึงวันที่ 25 มี.ค.จะได้มีการอภิปรายกัน ถ้าเปลี่ยนนายกฯครม.ก็หมดไป การอภิปรายก็อาจจะสิ้นผลไป
 
การเมืองตอนนี้ก็กระเพื่อมทุกวัน มีประเด็นปัญหาในการบริหารประเทศมีเยอะ รัฐบาลก็แก้อะไรไม่ได้ที่เป็นรูปธรรม สิ่งที่พูดแค่มาชี้แจงสัมผัสไม่ได้ แสดงวิสัยทัศน์ 8 ข้อ แก้ปัญหาหนี้ ความยากจน เป็นการพูดรายวัน แต่ไม่มีอะไรชัดเจนว่าจะทำอะไร ที่ชัดเจนคือมีสถิติไปต่างประเทศเกือบ 200 วัน ถูกวิพากษ์วิจารณ์เยอะ แทนที่จะเอาเวลามาบริหารประเทศ ทำประโยชน์ให้กับประชาชน หรือมาพูดคุยและทำความเข้าใจกันในสภา กลับกลายเป็นไปต่างประเทศเยอะ ทำให้เสียโอกาส ถูกวิพากษ์วิจารณ์กันเยอะ ความน่าเชื่อถือก็จะเสื่อม เพราะการตั้งใจแก้ปัญหาให้ประเทศไม่เห็น ตรงนี้อาจจะเป็นจุดเปลี่ยนให้เปลี่ยนตัวนายกฯก็ได้ แต่ก็อยู่ที่คนที่มีกำลังทางการเมืองที่จะตัดสินใจ แต่เห็นแล้วว่าไม่ใช่นายกฯปัจจุบันตัดสินใจ แต่นายกฯอยู่ด้วยจมูกคนอื่น แต่คนที่มีอำนาจจริงๆก็อยู่ที่เขาแหละที่จะตัดสินใจ จะเอาอย่างไร นายเสรี กล่าว
 
เมื่อถามว่า การอภิปรายอาจจะนำเรื่องนายทักษิณ ชินวัตร และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ มาอภิปราย นายเสรี กล่าวว่า การพูดเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องเอ่ยชื่อคนนอก เพราะหลักการคือเรื่องกระบวนการยุติธรรมที่เราใช้ในบ้านเมือง เป็นหลักสำคัญของบ้านเมือง มันถูกกระบวนการทางการเมืองเข้าไปแทรกแซง ทำให้การใช้กฎหมาย ให้ความยุติธรรม ให้ความเป็นธรรมที่หลายมาตรฐาน พูดแค่นี้คนก็เข้าใจแล้วว่าปัญหาของประเทศกระบวนการยุติธรรมอยู่ตรงไหน
     
ด้าน นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพี่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือวิปรัฐบาล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคร่วมฝ่ายค้านเตรียมยื่นญัตติเพื่อขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไปโดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152  ว่า ไม่มีปัญหาอะไร เชื่อว่ารัฐบาลมีความพร้อมที่จะตอบ เพราะในการอภิปรายครั้งนี้รัฐบาลยังไม่ได้ใช้เงินสักบาท เชื่อมั่นว่ารัฐบาลไม่ได้กังวล และคงไม่ต้องเตรียมองครักษ์อะไร เชื่อว่ารัฐบาลตอบได้ ถ้าการอภิปรายอยู่ในระเบียบข้อบังคับก็ไม่มีปัญหา ถ้าพาดพิงบุคคลภายนอก หรือพูดเกินเลยก็ต้องมีการประท้วงก็เป็นเรื่องธรรมดาของสภาฯ เป็นความสายงามของระบอบประชาธิปไตย 
     
เมื่อถามว่า การเดินทางไปจังหวัดเชียงใหม่ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯจะมีสส.พรรคเพื่อไทยไปต้อนรับหรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า มีแต่คนถามว่านายทักษิณไปจังหวัดเชียงใหม่ แต่ในพรรคเพื่อไทยไม่ได้คุยเรื่องเล่านี้ ซึ่งนายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ไม่เคยเคยเรื่องนี้เลย แต่เป็นเรื่องที่ดีที่นายทักษิณจะไปกราบไหว้บรรพบุรุษ โดยเฉพาะท่านเป็นคนเหนือสิ่งที่เขาเคารพกันคือบรรพบุรุษ ในเดือนเม.ย.ปกติเขาก็ไปกันอยู่แล้ว คนทั่วไปเดือนเม.ย.ถือโอกาสไปกราบไหว้พ่อแม่หรือผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ หรือบุคคลที่จากโลกนี้ไปแล้ว  เป็นประเพณีอันดีงามของคนภาคเหนือ นายทักษิณก็จะไปกราบไหว้บรรพบุรุษก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
    
 ใครจะไปด้วยผมก็ไม่ทราบเพราะไม่ได้คุยกันเรื่องนี้ หลายท่านก็มาถามว่านายกฯจะไปด้วยไหม ผมก็ไม่ทราบว่าจะไปด้วยไหม ซึ่งในข้อกฎหมายก็ไม่มีข้อห้าม ไม่มีอะไรผิด คนที่เคารพนับถือกัน ถ้าพี่น้องประชาชนคิดถึงจะไปหานายทักษิณ เพราะท่านออกจากประเทศไป 17 ปี ก็เป็นเรื่องปกติที่ทำได้ เพราะกฎหมายไม่ได้ห้าม แต่อยากฝากไปถึงบางกลุ่มบางส่วนอย่าจมอยู่กับนายทักษิณ อย่านำมาเป็นประเด็นทางการเมืองเพราะไม่เกี่ยวกัน คนที่จะไปกราบไหว้ ไปหาคนที่เคารพเป็นสิทธิ์ของพี่น้องประชาชนนายวิสุทธิ์ กล่าว
     
เมื่อถามว่า นายทักษิณเดินไปในวันที่มีการประชุมสภาฯ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ตนหารือกับเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ได้สั่งเด็ดขาดวันประชุมสภาฯสส.เพื่อไทยอยู่ที่นี่ ทำหน้าที่ในสภาฯไม่มีใครไป เชื่อมั่นได้เลยว่าวันประชุมสภาเราจะพิจารณากฎหมาย และทำหน้าที่อยู่ที่นี่ เลขาฯไม่มีใครไปสักคน ตนเชื่อมั่นว่ายาก ไม่มีใครไป นอกจากอดีตสส.อาจจะไปเพราะไม่ได้ติดต่อกัน ก็เป็นสิทธิ์ของเขา แต่สส.พรรคเพื่อไทยวันประชุมสภาฯอยู่ครบ
     
เมื่อถามอีกว่า จะมีการกวดขันให้มาประชุมสภาฯมากขึ้นจะมีการกวดขันมากขึ้นและมีบทลงโทษหรือไม่ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า ไม่ถึงขั้นจะมีการกำหนดบทลงโทษ แต่เชื่อมั่นว่าในจิตสำนักรับผิดชอบต่ออำนาจหน้าที่ที่พี่น้องประชาชนมอบให้จะมาประชุมสภาฯ เพราะฉะนั้นประชาชนอย่าเชิญสส.ไปในวันประชุมสภาฯไม่ว่างานอะไรก็ตาม ถ้าเชิญไม่ไปก็อย่าไปโกรธส.ส.