วันที่ 11 มี.ค.67 ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (Swoc) อาคาร 99 ปี หม่อมหลวงชูชาติ กำภู กรมชลประทาน ถนนสามเสน ดร.ธเนศร์ สมบูรณ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารจัดการน้ำและอุทกวิทยา เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ ผ่านระบบ Video Conference ไปยังสำนักงานชลประทานที่ 1-17 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมี เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม เพื่อติดตามและวิเคราะห์สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำ แหล่งน้ำ และแม่น้ำสายหลักต่าง ๆ สำหรับเป็นข้อมูลในการบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องและเหมาะสมในแต่ละพื้นที่ต่อไป
สำหรับสถานการณ์น้ำปัจจุบัน (11 มี.ค. 67) พบว่า อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำรวมกันทั้งสิ้นประมาณ 49,237 ล้าน ลบ.ม. (64% ของความจุอ่างฯ รวมกัน) เป็นน้ำใช้การได้ 25,295 ล้าน ลบ.ม. เฉพาะลุ่มน้ำเจ้าพระยา 4 เขื่อนหลัก (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกันทั้งสิ้นประมาณ 13,593 ล้าน ลบ.ม. (55% ของความจุอ่างฯ รวมกัน) ปริมาณน้ำใช้การได้ 6,897 ล้าน ลบ.ม. ตั้งแต่ 1 พ.ย. 66 จนถึงขณะนี้มีการจัดสรรน้ำช่วงฤดูแล้งปี 2566/67 ทั้งประเทศไปแล้วกว่า 16,886 ล้าน ลบ.ม. (68% ของแผน) เฉพาะลุ่มเจ้าพระยามีการใช้น้ำไปแล้วประมาณ 6,180 ล้าน ลบ.ม. (71% ของแผน)
ด้านสถานการณ์การเพาะปลูกข้าวนาปรัง ทั้งประเทศมีการทำนาปรังไปแล้วประมาณ 8.70 ล้านไร่ หรือร้อยละ 150 ของแผนฯ เฉพาะลุ่มเจ้าพระยา มีการทำนาปรังไปแล้วประมาณ 5.68 ล้านไร่ หรือร้อยละ 188 ของแผนฯ ทั้งนี้ จากการสำรวจพบว่าพื้นที่เพาะปลูกข้าวนาปรังในลุ่มเจ้าพระยาเริ่มคงที่ เนื่องจากปัจจุบันเกษตรกรได้เริ่มทยอยเก็บเกี่ยวข้าวนาปรังรอบแรกแล้ว อย่างไรก็ตาม ขอให้เกษตรกรที่เก็บเกี่ยวข้าวนาปรังรอบแรกแล้วเสร็จ ไม่ทำนาปรังรอบสอง เพื่อลดความเสี่ยงผลผลิตเสียหายจากปริมาณน้ำไม่เพียงพอ พร้อมกันนี้ ยังได้กำชับให้โครงการชลประทานในพื้นที่ เร่งเข้าสำรวจพื้นที่ที่เก็บเกี่ยวแล้ว เพื่อวางแผนปรับลดการรับน้ำเข้าพื้นที่โดยไม่กระทบต่อการรักษาระบบนิเวศ เพื่อเป็นการประหยัดน้ำสำรองไว้ใช้ในการอุปโภคบริโภค รักษาระบบนิเวศ และสำรองไว้ใช้ในช่วงต้นฤดูฝนหน้าต่อไป
สำหรับพื้นที่ลุ่มต่ำบางระกำ ที่จะมีการส่งน้ำเข้าทุ่งในวันที่ 15 มี.ค.67 ตามแผนปรับปฏิทินการเพาะปลูกข้าว ให้เกษตรกรได้เพาะปลูกพร้อมกันในวันที่ 1 เม.ย.67 และเก็บเกี่ยวแล้วเสร็จก่อนฤดูน้ำหลากจะมาถึง กรมชลประทาน ได้วางแผนบริหารจัดการน้ำเขื่อนสิริกิติ์และเขื่อนภูมิพลให้สอดคล้องกันอย่างเหมาะสม เพื่อให้มีปริมาณน้ำเพียงพอสำหรับการเพาะปลูกในพื้นที่ลุ่มต่ำไปจนกว่าจะเก็บเกี่ยวแล้วเสร็จ
อนึ่ง จากการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาถึงปรากฎการณ์ลานีญา ที่จะส่งผลให้ครึ่งปีหลังโดยเฉพาะช่วงปลายฤดูฝน มีปริมาณฝนตกมากกว่าค่าปกติ จึงได้กำชับไปยังโครงการชลประทานทั่วประเทศ ให้ติดตามสภาพอากาศและการวิเคราะห์สถานการณ์ฝน เพื่อนำข้อมูลและสถิติฝนใกล้เคียง มาวางแผนการบริหารจัดการน้ำและมาตราการรับมือเชิงลุ่มน้ำและรายพื้นที่ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ สามารถบรรเทาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นให้ได้มากที่สุด