งง! ทั้งตำรวจ แม่และเมียไม่เชื่อว่า ลูกชาย หรือสามีจะขี่รถยามาฮ่าเอ็กซ์แม็กซ์ 300 ซีซี.ล้มเองจนเสียชีวิตที่ท่าม่วง กาญจนบุรี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 22.19 น.ของวันที่ 7 มี.ค.67 ร.ต.อ.กิตติภพ ห้วยหงษ์ทอง รองสารวัตรเสรสอบสวน สภ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.ฯ ว่าเกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ล้มคว่ำมีผู้เสียชีวิต 1 ราย เหตุเกิดบนถนนแสงชูโต( สายนอก)ก่อนถึงสะพานดำ ฝั่งตรงข้ามหน้าสถานีบริการน้ำมันยี่ห้อ PT บ้านหนองเสือ หมู่ 9 ต.วังศาลา หลังทราบเรื่องจึงลงบันทึกประจำวันเพื่อรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบเรื่อง
จากนั้น จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่า หน่วยกู้ชีพของมูลนิธิขุนรัตนาวุธประจำสำนักงานใหญ่ และประจำจุดรอรับเหตุ ต.บ้านใหม่ ร่วมกับอาสาสมัครประจำจุดรอรับเหตุวังศาลา ได้เดินทางมาทำการช่วยเหลือร่างของผู้เสียชีวิตรายนี้เป็นผู้ชาย สภาพศพนอนหงายขวางทางริมถนนใกล้ราวสะพาน ห่างไปประมาณ 100 เมตร พบรถจักยานยนต์ยี่ห้อYAMAM X MAK 300 ซีซี.สีบรอนซ์เทา หมายเลขทะเบียน 1 กภ.xxxx กาญจนบุรี ล้มคว่ำในลักษณ์เป็นรอยครูดไปกับพื้นถนนเป็นทางยาว
จากการสอบสวนทราบชื่อผู้ตายชื่อนายนายทศพร(ขอสงวนนามสกุล)หรือที่ชาวบ้านในหมู่บ้านเรียกจนติดปากว่า ช่างแบงค์ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12/3 หมู่ 5 ต.วังศาลา อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ผู้ตายเป็นช่างแต่งรถอยู่ในหมู่บ้านหนองสะแก หมู่ 5 ต.วังศาลา ผู้ตายเป็นคนมีอันจะกินครอบครัวหนึ่งในหมู่บ้าน ชอบแต่งรถ
เบื้องต้นจากการตรวจสอบภายในที่เกิดเหตุบนถนนสายดังกล่าว ช่วงจุดเกิดเหตุไม่มีไฟฟ้าส่องสว่าง ไม่พบหลักฐานใดๆ ของรถคู่กรณี ลักษณะบาดแผลของผู้ตายมีเพียงเลือดไหลออกจากบริเวณศีรษะเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดเหตุขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและแพทย์เวร รพ.สมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 19 กำลังร่วมกันชันสูตรพลิกศพอยู่นั้น ได้มีหญิงสาว 2 คน ซึ่งคนหนึ่งเป็นภรรยา ส่วนอีกคนหนึ่งเป็นแม่ของผู้ตายพร้อมด้วยญาติๆ ที่ทราบข่าวต่างก็ได้เดินทางมาดูเหตุการณ์ ซึ่งเมื่อมาถึงทั้งแม่และภรรยาต่างก็ร้องไห้โฮ ก้มลงไปร้องไห้อยู่ข้างศพลูกชาย และผู้เป็นสามีซึ่งเป็นภาพที่น่าเวทนาต่อผู้พบเห็นยิ่งนัก
หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับแพทย์ทำการชันสูตรพลิกศพเสร็จ ได้มอบศพให้มูลนิธิฯ นำศพไปเอ็กซเรย์ร่างกายต่อที่ รพ.ฯ ก่อนรุ่งเช้าจะนำศพส่งแผนกนิติเวช รพ.ศูนย์ราชบุรี เพื่อให้แพทย์ทำการผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตายที่แท้จริงว่า ถูกรถไม่ทราบชนิดเฉี่ยวชนจนเสียชีวิต หรือประมาท ขับขี่รถด้วยความเร็วสูงแล้วเสียหลักเฉี่ยวชนราวสะพาน จนทำให้ร่างของผู้ตายกระเด็นไปไกลกว่า 100 เมตร เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบแผงวัดไมล์ความเร็วของรถพบว่า ไมล์วัดความเร็วหยุดอยู่ที่ 180/ ต่อ ชม.
ซึ่งเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ผู้ตายน่าจะประมาท ขับขี่รถมาด้วยความเร็วสูงแล้วเกิดเสียหลักล้มเอง ทำให้ร่างไปพุ่งชนกับราวสะพาน แล้ว กระเด็นไปไกลเกือบ 100 เมตร ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ติดตามสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้
เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป