ดนตรี / ทิวา สาระจูฑะ

พื้นที่ตรงนี้เคยเขียนถึง เทย์เลอร์ สวิฟต์ หนึ่งในศิลปินสาวแถวหน้าสุดของวงการดนตรีโลก มาไม่น้อยกว่า 3 ครั้ง คราวที่แล้วเขียนเรื่องเกี่ยวกับรางวัล แกรมมี่ ครั้งล่าสุด ก็พาดพิงถึงเธอด้วย ในฐานะที่เธอคว้า 2 รางวัล คือ อัลบั้มแห่งปี และ อัลบั้มเพลงร้องป๊อปยอดเยี่ยม จากอัลบั้ม Midnights

เทย์เลอร์ สวิฟต์ เปิดทัวร์คอนเสิร์ท The Eras Tour กินเวลายาวจากปี 2566-2567 และมีหนังสารคดีออกฉายไปแล้วตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว แต่ตอนนี้ เทย์เลอร์ สวิฟต์ มาเป็นข่าวในประเทศแถวๆนี้ เพราะมาเล่นคอนเสิร์ท 6 รอบที่สิงคโปร์ ระหว่างวันที่ 2-3-4 และ 7-8-9 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา

ทัวร์คอนเสิร์ทของศิลปินสาววัย 34 ปี ยังพาดพันไปถึงการเมืองด้วย เมื่อนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยหยิบยกเรื่องการจัดคอนเสิร์ทของ เทย์เลอร์ สวิฟต์ ในเมืองไทย โดยรัฐบาลจะช่วยออกเงินให้ด้วยส่วนหนึ่ง ประมาณว่าคอนเสิร์ทของเธอจะดึงนักท่องเที่ยวเข้ามายังประเทศไทย และนำมาซึ่งการใช้จ่ายอย่างมาก

แต่ที่หยิบยกขึ้นมานี่ไม่ได้คิดขึ้นมาเองหรอกนะ เห็นสิงคโปร์เขาจัดคอนเสิร์ท เทย์เลอร์ สวิฟต์ โดยรัฐบาลเข้าไปร่วม ก็อยากจะเอามั่ง ตามประสาพ่อค้า หรือเป็นอาการอยากได้หน้าก็ไม่ทราบได้ เพราะก่อนหน้านี้ก็มีอดีตว่าที่นายกฯของอีกพรรคหนึ่งออกมาโพสต์เขียนจดหมายเปิดผนึกถึง เทย์เลอร์ สวิฟต์

ภาพ Roslan RAHMAN / AFP

แสดงว่านักการเมือง 2 คน จาก 2 พรรค มีระดับสติปัญญาที่คิดได้พอๆกัน

คนที่เชื่ออาจจะตาลุกวาว เพราะมีการประเมิน (หรือโฆษณาชวนเชื่อ) ของสิงคโปร์ออกมาว่า ระยะเวลา 1 อาทิตย์ในช่วงคอนเสิร์ทนี้...

  • จะมีแฟนเพลงทั่วเอเชียกว่า 300,000 คน เดินทางมาดูคอนเสิร์ทที่สิงคโปร์
  • ยอดขายตั๋วคอนเสิร์ทอยู่ที่ 2,000 ล้านบาท
  • มีการประเมินว่า 40% ของผู้ชมคอนเสิร์ทคือนักท่องเที่ยว และจะใช้เงินราว 37,000 บาท
  • ภาคธุรกิจโรงแรมมีแนวโน้มทำรายได้มากถึง 940 ล้านบาท
  • เที่ยวบินขาเข้าสิงคโปร์ช่วงที่มีคอนเสิร์ท เพิ่มขึ้น 186% ยอดจองห้องพักเพิ่มขึ้น 460% และยอดจองสถานที่ท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 2,373%
  • นักวิชาการเศรษฐศาสตร์ของสิงคโปร์ประเมินว่า คอนเสิร์ทครั้งนี้จะทำให้สิงคโปร์มีรายได้จากการท่องเที่ยวถึง 13,450 ล้านบาท

ตัวเลขเหล่านี้ดูแล้วหอมหวานชวนเคลิบเคลิ้ม แต่ในความเป็นจริงยังมีอีกหลายแง่มุม

ใครที่เคยไปสิงคโปร์คงรู้ว่า เป็นประเทศที่แทบไม่มีอะไรดึงดูดผู้คนนอกจากแหล่งช้อปปิง และสถานที่เที่ยวที่ถูกสร้างขึ้นมา ไม่ใช่โบราณสถานหรือแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติแบบที่ประเทศไทยหรือประเทศอื่นๆมี จึงไม่แปลกที่สิงคโปร์จะหาเหตุการณ์ หรือที่เรียกติดปากกันสมัยนี้ว่า ‘อีเว้นท์’ มาทำอยู่เสมอ

ปกติการจัดคอนเสิร์ทเป็นเรื่องธุรกิจของเอกชน แต่เผอิญเอกชนรายใหญ่ๆในสิงคโปร์ก็คือพวกของรัฐบาล เหตุที่รัฐบาลสิงคโปร์ ช่วยออกเงินค่าจัดคอนเสิร์ทรอบละ 600 ล้านบาท (6 รอบ) เพราะต้องการทำสัญญาผูกมัดให้คอนเสิร์ทของ เทย์เลอร์ สวิฟต์ เป็นเฉพาะสิงคโปร์แห่งเดียวในอาเซียน เป้าหมายก็คือต้องการดึงคนจากประเทศอื่นๆเข้าไปดู แต่ก็ไม่ได้ทำสำเร็จกับทุกศิลปิน เพราะหลังสุด โคลด์เพลย์ หรือ เอ๊ด เชียแรน ก็มาเล่นคอนเสิร์ทในประเทศไทยด้วย

สิงคโปร์มีพื้นที่ใหญ่กว่าภูเก็ตนิดหน่อยเท่านั้น มีคนอาศัยอยู่ 5.9 ล้านคน ประมาณว่า 1 ใน 5 เป็นคนต่างชาติที่เข้าไปทำงานอยู่ที่นั่น การจัดคอนเสิร์ทครั้งนี้คงคุ้มเมื่อนึกถึงปริมาณประชากร แต่อย่าลืมว่า เงินรายได้ส่วนใหญ่ย่อมตกอยู่กับกลุ่มธุรกิจที่เป็นผู้จัด และเมื่อหักค่าต้นทุนออกไปก็ไม่รู้จะเหลือสักเท่าไหร่

ประเทศไทยมีประชากรแตะ 70 ล้านคน การจัดคอนเสิร์ท เทย์เลอร์ สวิฟต์ ครั้งเดียวจะไปกระตุ้นอะไรได้สักแค่ไหน และถ้าพูดในแง่การลงทุน โปรโมเตอร์คอนเสิร์ทใหญ่ๆบ้านเราก็สามารถจัดได้อยู่แล้วโดยไม่ต้องพึ่งพาเงินของรัฐบาล ซึ่งมาจากภาษีประชาชน เพียงแต่ไม่ได้จัดเพราะมีเงื่อนไขที่ทีมจัดการของ เทย์เลอร์ สวิฟต์ ได้ตกลงกับสิงคโปร์ไว้ เอาเข้าจริง แสนสิริ บริษัทของตระกูลนายกฯบริษัทเดียวก็จัดเองได้แล้ว

เพื่อนหลายคนของผมที่มีกำลังทรัพย์และกำลังซื้อ บางคนบินไปดู เทย์เลอร์ สวิฟต์ ที่สิงคโปร์เมื่อ 9 ปีที่แล้ว บางคนก็ไปดูในคราวนี้ ไม่เห็นมีใครสักคนบอกว่าอยากให้รัฐบาลลงมาเป็นผู้จัด