วันที่ 7 มี.ค. 2567 นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ สส.บัญชีรายชื่อ และรองโฆษกพรรคเพื่อไทย ในฐานะวิปรัฐบาล กล่าวถึงกรณีมีการให้ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนในสื่อโซเชียล และอาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในการลงมติรับหลักการร่างพ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน ฉบับที่..(พ.ศ…) ในการประชุมสภาฯเมื่อวานนี้ (6มี.ค.67) ว่า พรรคร่วมรัฐบาลลงมติรับหลักการร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน จำนวน 2 ฉบับ คือ ร่างของนายวรศิษฎ์ เลียงประสิทธิ์ สส.สตูล พรรคภูมิใจไทย และร่างของน.ส.วรรณวิภา ไม้สน สส.พรรคก้าวไกล หรือร่างของพรรคก้าวไกล แต่มีมติไม่รับหลักการเพียงร่างเดียว คือร่างของนายเซีย จำปาทอง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล  ซึ่งมีหลักการแตกต่างกัน ดังนั้นการสื่อสารว่าพรรคเพื่อไทย หรือพรรคร่วมรัฐบาลตีตกทุกร่างของพรรคก้าวไกล หรือไม่ให้ความสนใจภาคแรงงาน จึงไม่ตรงกับข้อเท็จจริง เพราะร่างที่ได้รับหลักการไปนั้นก็เป็นการส่งเสริมการคุ้มครองแรงงานในมาตรฐานที่สูงขึ้น และพรรคเพื่อไทยก็เห็นด้วยจึงโหวตรับทั้งสองร่างข้างต้น

"การที่พรรคร่วมรัฐบาลไม่รับอีกร่าง เพราะร่างดังกล่าวจะสร้างผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจ และภาคการผลิตมากขึ้น 30% และอาจส่งผลให้บริษัทขนาดเล็กต่างๆที่ไม่สามารถปรับตัวได้ทันล้มตายลง  ซึ่งจะเกิดผลในทางกลับกัน โดยอาจสร้างผลลบทำให้พี่น้องแรงงานจำนวนมากไม่สามารถหางานได้ หรือต้องถูกเลิกจ้างแทน  กฎหมายที่คาดหวังจะยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงาน อาจซ้ำเติมสถานการณ์ให้ย่ำแย่ลงแทน ยืนยันพรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญกับพี่น้องประชาชนทุกภาคส่วน เรามีความตั้งใจอย่างยิ่งที่จะผลักดันการปรับขึ้นค่าแรง ตามอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ ทุกอย่างต้องสัมพันธ์กัน และสมดุลกับทุกฝ่าย ภายใต้เป้าหมายที่จะทำให้ชีวิตความเป็นอยู่พี่น้องประชาชนดีขึ้น จะเลือกคิดเพียงมิติใดมิติหนึ่งเท่านั้นไม่ได้”นายชนินทร์กล่าว