วันที่ 7 มี.ค.2567 เวลา 11.45 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม ทั้งนี้ได้พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา ของนายฐิติกันต์ ฐิติพฤฒิกุล สส.ภูเก็ต พรรคก้าวไกล เรื่องชาวสวิสเซอร์แลนด์กระโดดเตะน.ส.ธารดาว จันทร์ดำ อายุ 26 ปี แพทย์ประจำโรงพยาบาลดีบุก ที่บริเวณหาดยามู ตำบลป่าคลอก อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 24 ก.พ. ที่ผ่านมา ถามนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อยากทราบความคืบหน้าการดำเนินการของรัฐบาลในเรื่องต่างๆ ทั้งกระบวนการดำเนินคดีหลังเพิกถอนวีซ่า การทำธุรกิจปางช้างของชาวต่างชาติรายดังกล่าว เส้นทางการเงินทั้งค่าใช้จ่ายและการรับบริจาค การเช่าบ้านเดือนละ 1 ล้านบาท เส้นทางการเงินหล่อเลี้ยงข้าราชการ การขยายผลการปราบผู้มีอิทธิพล ใบอนุญาตพกปืน ป.4 สองกระบอก เลิกจ้างงานอย่างไม่เป็นธรรม การครอบครองที่ดินนส.3 การประกาศขายที่ดินส่วนตัวติดชายหาด ว่าเจ้าหน้าที่รัฐได้ดำเนินการโดยชอบหรือไม่ และจะดำเนินการอย่างไรในการจัดการกับเจ้าหน้าที่รัฐที่ประพฤติมิชอบ รวมถึงแนวทางของรัฐบาลในการป้องกันไม่ให้กระทบกับการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต
นายสมศักดิ์ ชี้แจงว่า คาดว่าภายในวันนี้อัยการจะสั่งฟ้องผู้ก่อเหตุข้อหาทำร้ายร่างกาย ส่วนการเพิกถอนวีซ่านั้น ได้เพิกถอนแล้ว ปัจจุบันสถานะของชาวต่างชาติรายดังกล่าวเป็นผู้ต้องกัก เพื่อรอส่งกลับประเทศของตนเอง สำหรับระยะเวลาในการดำเนินคดีจะช้าหรือเร็ว ตอนนี้เรื่องอยู่ที่ชั้นศาลแล้วก็เท่ากับว่าอยู่ในขั้นตอนการพิจารณของศาลต่อไป อย่างไรก็ตาม การก่อสร้างที่รุกล้ำชายหาดสาธารณะ และเอกสารสิทธิ์ต่างๆนั้น ทาง อ.ถลาง และเทศบาลตำบลปากคอก ตรวจสอบพบว่าบันไดขั้นที่ 3 รุกล้ำที่สาธารณะ เจ้าของโครงการวิลล่าหรูได้นำเครื่องจักรรื้อถือบันไดจุดเกิดเหตุ รวมถึงรื้อแนวกันคลื่น บันไดไม้และสะพานตั้งแต่วันที่ 5 มี.ค. ที่ผ่านมา
“ประเด็น นส.3 ที่มีปัญหา พบข้อมูลว่า เดิมสค.1 มี 63 ไร่ แต่พบว่ามีนส.3 ออกเกินจำนวน 106 ไร่ ขณะนี้เป็นประเด็นที่น่าสนใจ มีที่ดินงอกออกมา 43 ไร่ จังหวัดกำลังตรวจสอบ และมีหน่วยงานที่ตามหลังจะตรวจสอบอีก สำหรับประเด็นเรื่องปางช้าง กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) จะต้องตรวจสอบต่อไปว่าเป็นธุรกิจนอมินีหรือไม่ ส่วนเรื่องการจัดตั้งมูลนิธิ การครอบครองอาวุธอยู่ระหว่างการตรวจสอบของกระทรวงมหาดไทย ปัญหาการจ้างงานไม่เป็นธรรมตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่พบการกระทำความผิด” รองนายกฯ กล่าว
“เมื่อวันที่ 4 มี.ค. จ.ภูเก็ตมอบหมายเจ้าหน้าที่ตำรวจและกรมการปกครองตรวจสอบชาวต่างชาติ หากพบว่าประกอบอาชีพผิดกฎหมาย หรือเข้าข่ายเป็นผู้มีอิทธิพลให้บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ตามนโยบายของรัฐบาล และหากสส.มีเรื่องร้องเรียนใดๆอีก ขอให้ทำหนังสือร้องมาเฉพาะเจาะลงเป็นเรื่องๆ ตนจะตรวจสอบให้”นายสมศักดิ์ กล่าว