เศรษฐา เดินหน้าโรดโชว์ ร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-ออสเตรเลีย พบ 4 ผู้นำประเทศ 6 บิ๊กธุรกิจแดนจิงโจ้ ยันเกิดประโยชน์สูงสุดคนไทย พร้อมเดินหน้าพัฒนาความตกลงด้านดิจิทัล สร้างมูลค่า 2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ชวนลงทุนแลนด์บริดจ์ พลังงานสะอาด
เมื่อวันที่ 6 มี.ค.67 ที่นครเมลเบิร์น เครือรัฐออสเตรเลีย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ ถึงการร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-ออสเตรเลีย ว่า การเดินทางมาในครั้งนี้ จะเป็นการเพิ่มโอกาสและ สร้างประโยชน์ให้ประเทศและประชาชนไทยอย่างมากและส่งเสริมความร่วมมือระหว่างอาเซียน-ออสเตรเลีย ภายใต้ 3 สามเสาหลักของอาเซียน คือ การเมืองและความมั่นคง, เศรษฐกิจ, สังคมและวัฒนธรรม และถือเป็นการเฉลิมฉลองในโอกาสครบ รอบความสัมพันธ์ 50 ปีอาเซียน-ออสเตรเลีย ที่เป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบด้าน และในฐานะตัวแทนประเทศไทย ได้กล่าวถึงสิ่งที่ประเทศไทยพร้อมผลักดัน 2 เรื่องหลัก ได้แก่ 1.ความเชื่อมโยงในมิติต่าง ๆ ทั้งการค้าการลงทุน เพิ่มมูลค่าทางการค้าผ่านกรอบความร่วมมือด้านต่าง ๆ คือด้านโครงสร้างพื้นฐาน ส่งเสริม ระบบโลจิสติกส์ให้เป็นไปได้อย่างรวดเร็ว ไร้รอยต่อ
ผมเชื่อมั่นว่าจะเกิดความมั่นคงและสันติภาพในภูมิภาคผ่านเป้าหมายร่วมกัน และจะเกิดความร่วมมือ เป็นพันธมิตรทางเศรษฐกิจ เกิดการพัฒนา และต้องไม่ลืมที่จะต้องรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ร่วมกัน โดยประเทศไทยให้คำมั่นสัญญาว่าจะร่วมมืออย่างเต็มที่ในกรอบความร่วมมือนี้ ที่จะนำไปสู่ความสำเร็จของภูมิภาค
นายเศรษฐา กล่าวอีกว่า ในฐานะตัวแทนประเทศไทย ได้กล่าวถึงสิ่งที่ประเทศไทยพร้อมผลักดัน 2 เรื่องหลัก ได้แก่ 1.ความเชื่อมโยงในมิติต่าง ๆ ทั้งการค้าการลงทุน เพิ่มมูลค่าทางการค้าผ่านกรอบความร่วมมือด้านต่าง ๆ คือด้านโครงสร้างพื้นฐาน ส่งเสริมระบบโลจิสติกส์ให้เป็นไปได้อย่างรวดเร็วไร้รอยต่อ ด้านดิจิทัล เริ่มพัฒนาเจรจาความตกลง DEFA (Digital Economy Framework Agreement) ที่จะสร้างมูลค่ามากกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และด้านประชาชน การติดต่อสัมพันธ์กันระหว่างประชาชนผ่านการส่งเสริม Soft Power และเศรษฐกิจสร้างสรรค์ รวมทั้งส่งเสริมให้เกิดการช่วยเหลือด้านการเชื่อมโยงการตรวจลงตราระหว่างกัน 2.การเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานสะอาด ที่ไทยสามารถร่วมกับออสเตรเลีย ทำให้เกิดระบบนิเวศน์ EV ครบวงจร รวมถึงการออกพันธบัตรเพื่อความยั่งยืน(Sustainability bonds)
นายเศรษฐา กล่าวว่า ในการเดินทางมาครั้งนี้ ได้หารือกับผู้นำ 4 ประเทศ การพบหารือกับผู้นำ สปป.ลาว ได้พูดถึงการค้าชายแดน ขณะที่การหารือกับนายกฯ มาเลเซีย ได้พูดคุยถึงสันติสุขใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงพูดคุยเรื่องโอกาส โดยนายกฯมาเลเซีย เห็นด้วยว่าควรเริ่มพูดคุยแนวทางการแก้ปัญหาจากการเพิ่มโอกาส ตนได้กล่าวถึงการลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ เป็นการสร้างโอกาสให้เกิดการพบ Hidden Gem ถือเป็นอีกมิติในการแก้ไขปัญหา
สำหรับการหารือกับผู้นำออสเตรเลีย ได้พูดคุยเรื่องการสนับสนุนการนำเข้าแรงงานไทย มาทำงานด้านการเกษตรที่ออสเตรเลีย และได้ขอบคุณออสเตรเลียที่ดูแลนักเรียนไทยมาตลอด และการพบกับนายกฯ นิวซีแลนด์ ได้พูดคุยกันอย่างเป็นกันเองเรื่องฟรีวีซ่า และนายกฯนิวซีแลนด์ มีกำหนดการเดินทางไทยในช่วงเดือน เม.ย.นี้
ส่วนของการพบหารือกับฝ่ายเอกชน ได้หารือกับผู้นำเอกชน 6 บริษัทใหญ่ ที่เป็นบริษัทสำคัญด้านอุตสาหกรรม พลังงานสะอาด ด้านกองทุน ทำให้เชื่อมั่นว่าประเทศไทยคนไทย จะได้ประโยชน์จากการเดินทางครั้งนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจบภารกิจในช่วงเช้า ก่อนร่วมงานเลี้ยงอาหารกลางวัน ที่ทำเนียบราชการผู้สำเร็จนายกฯ ได้เข้าไปเล่นทักทาย หมีโคอาลา สัตว์ท้องถิ่นออสเตรเลีย พร้อมป้อนอาหารให้น้องหมีโคอาลาเฟรดดี้ และเฮย์ ที่ผู้สำเร็จราชการประจำรัฐวิกทอเรีย เจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวัน ได้นำมาต้อนรับผู้มาร่วมงานเลี้ยง