เมื่อวันที่ 6 มี.ค.67 นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. มอบหมายให้พนักงานเจ้าหน้าที่งานสืบสวนคดีทุจริตภาค 4 ของสำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 4 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สถานี ตำรวจภูธรฆ้องชัย จับกุมนายสุวิทย์ สร้อยวิเชียร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 ที่ 1/2567 ลงวันที่ 22 ม.ค.67 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่น เอาทรัพย์นั้นเสีย และฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำจัดการ หรือรักษาทรัพย์ใดๆ ใช้อำนาจ ในตำแหน่งโดยทุจริตอันเป็นการเสียหายแก่รัฐหรือเจ้าของทรัพย์นั้น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 และมาตรา 151 ประกอบมาตรา 86 และมาตรา 91 โดยสามารถดำเนินการจับตัวได้ในพื้นที่ อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์
โดยระหว่างวันที่ 3 ก.ค.51 ถึงวันที่ 14 ส.ค.51 นายเสถียรภาพ ภัทรสุขประเสริฐ หรือประเสริฐสุข เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านดง จ.ขอนแก่น และ นางอนัญพร ดวงศรี หัวหน้าส่วนการคลัง ได้ร่วมกันกระทำความผิดต่อกฎหมายและฝ่าฝืนระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน การเก็บรักษาเงิน และการตรวจเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม สั่งจ่ายเช็คธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ขององค์การบริหารส่วนตำบลบ้านดง จำนวน 4 ฉบับ ให้แก่นายสุวิทย์ คือเช็คเลขที่ 0034046 ลงวันที่ 3 ก.ค.51 จำนวน 39,000 บาท เช็คเลขที่ 0034057 ลงวันที่ 14 ก.ค.51 จำนวน 86,625 บาท เช็คเลขที่ 0034085 ลงวันที่ 25 ก.ค.51 จำนวน 252,000 บาท และเช็คเลขที่ 0035228 ลงวันที่ 14 ส.ค.51 จำนวน 149,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 527,225 บาท โดยไม่มีหลักฐานใดๆ มาประกอบ
เมื่อมีการสั่งจ่ายเงินตามเช็คทั้ง 4 ฉบับแล้ว นายสุวิทย์ ซึ่งไม่มีหน้าที่และอำนาจในการจัดการทรัพย์ ยังช่วยเหลือและสนับสนุน นายเสถียรภาพ และนางอนัญพร ในการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและโดยทุจริต ด้วยการรับเอาเช็คไปเบิกถอนเงินแล้วเบียดบังเอาเงินนั้นไปเป็นของตนเองหรือของผู้อื่นโดยทุจริต การกระทำของนายสุวิทย์ทำให้เกิดความเสียหายแก่องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านดง ซึ่งก่อนการจับกุมในวันนี้ เจ้าหน้าที่งานสืบสวนคดีทุจริตภาค 4 สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 4 สืบสวน จนทราบว่านายสุวิทย์ ย้ายที่อยู่ไปพักอาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 14 ต.ลำชี อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ จึงได้ทำการยืนยันเป้าหมายและประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สถานีตำรวจภูธรฆ้องชัย วางแผนเข้าจับกุม
พบตัวนายสุวิทย์ บริเวณถนนสาธารณะหน้าบ้าน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวขอทำการตรวจสอบยืนยันตัวบุคคลตามหมายจับ ซึ่งนายสุวิทย์ รับว่าตนเองเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับดังกล่าวนี้จริง และไม่เคยถูกจับในคดีนี้มาก่อน จึงแจ้งข้อกล่าวหาและแจ้งสิทธิผู้ต้องหาให้นายสุวิทย์ทราบ ก่อนควบคุมตัวมาที่สถานีตำรวจภูธรฆ้องชัย เพื่อบันทึกการจับกุม และนำตัวส่งอธิบดี อัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 4 เพื่อดำเนินการฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 ต่อไป