วันที่ 6 มี.ค.67 เวลา 14.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ที่ ศูนย์รับแจ้งความ บช.ก. พหลโยธิน จตุจักร กทม. ตัวแทนผู้เสียหาย 6 คนจาก 29 คนเดินทางเข้าพบ พงส.กก.1 บก.ป.แจ้งความกรณีถูกจัดซีรี่ย์หญิงรายหนึ่ง ร่วมกับผู้เข้าประกวดนางงามเวทีดัง ร่วมกันฉ้อโกง 

น.ส.โบว์ลิ่ง (นามสมมุติ) อายุ 36 ปี นักธุรกิจสาว หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ช่วงเดือนสิงหาคม 2566 ตนได้ถูกผู้ผู้จัดซีรี่ย์หญิงชื่อดังรายนี้ชักชวนให้ร่วมลงทุนผลิตซีรี่ย์ประเภทเพศทางเลือกเรื่องหนึ่ง โดยผู้จัดท่านนี้ ระบุว่าจะมีผู้เข้าประกวดนางงามชื่อเล่น ”น.ต.“ มาเป็นนักแสดงนำฝ่ายหญิงด้วย ซีรี่ย์เรื่องนี้จะดังติดตลาดแน่

ดังนั้น ตนจึงตัดสินใจร่วมลงทุนทำซีรีย์ดังกล่าวด้วยเป็นจำนวนเงิน 1,500,000 บาท โดยโอนเงินให้ 2 ครั้งๆ แรก 500,000 บาท วันที่ 27 ก.ย.66 ครั้งที่สอง 1,000,000 บาท วันที่ 2 ต.ค.66 หลังจากนั้น ตัวผู้ประกวดนางงามรายนี้ได้ติดต่อมาขอยืมเงินตน อ้างว่าจะเอาไปใช้ในการล็อคตำแหน่งในการเข้าประกวดนางงามระดับจังหวัด อีก 350,000 บาท 

หลังจากนั้นเมื่อทวงถามเรื่องการถ่ายทำซีรีย์กลับไม่มีความคืบหน้า อ้างว่าเปลี่ยนตัวนักแสดง จนเมื่อทวงถามหลายครั้ง ผู้จัดหญิงคนนี้ยอมคืนเงินจำนวน 350,000 บาทกลับคืนมา โดยต่อรองไม่ให้ตนไปพูดเรื่องการล็อคตำแหน่งนางงามอีก จนทุกวันนี้เมื่อทวงถามเงินที่ยืมไปก็บ่ายเบี่ยง ไม่ยอมคืนเงินลงทุนทำซีรี่ย์อีกเลย

นอกจากนี้ ผู้เข้าประกวดนางงามเวทีดังรายนี้ ยังได้มีการจัดรายการประกวดร้องเพลง เพื่อค้นหาไอดอลที่อ้างว่าได้ทำร่วมกับตัวแทนจากประเทศเกาหลีใต้ โดย ครูบี (นามสมมุติ) อายุ 42 ปี ผู้เสียหายตัวแทนจากทีมผู้ฝึกสอนร้องเพลง เปิดเผยว่า ตนได้ถูกว่าจ้างให้เข้าไปฝึกสอนใน รายการทีวีประกวดหานักแสดง Idol กลุ่ม รายการหนึ่ง และไม่ได้รับค่าสอน จำนวน 1 ตอน ในเทปที่ 3 เป็นมูลค่าความเสียหายเฉพาะทีม ครูสอนร้องเพลง จำนวนเงินกว่า 300,000 บาท

ทั้งนี้ ผู้ว่าจ้างมีพฤติกรรมชำระเงินล่าช้าตั้งแต่ เทปที่ 1 และมีการเปลี่ยนทีมงาน ตลอดรายการ ทราบภายหลังว่าไม่ได้รับเงินในการว่าจ้าง โดยผู้ว่าจ้างมีการเปลี่ยนทีมงานอื่นๆ มาแทนโดยอ้างว่าทีมงานที่ถูกเปลี่ยน มีปัญหาเรื่องความรับผิดชอบหรือทำงานได้ดีเพียงพอ โดยในรายการดังกล่าวยังมีผู้เสียหายทีมอื่นอีกจำนวนมาก ซึ่งในวันนี้ตนยังรับมอบอำนาจจากผู้เสียหายอีก 3 คน ให้มาแจ้งความและให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเหลือติดตามด้วย 

ด้าน ครูบี กล่าวเพิ่มเติม ผู้เสียหายที่ถูกผู้จัดหญิง กับ ผู้ประกวดนางงาม 2 คนนี้ฉ้อโกง พบว่ามีทั่วประเทศ ตนได้ติดต่อและรวมกลุ่มกันได้กว่า 29 คน ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของการลงทุน และการฉ้อโกง ตลอดจนจ่ายเช็คเด้ง บางรายมีการแจ้งความ สน.ท้องที่บางรายฟ้องศาลเองก็มี จึงได้นัดหมายและมอบอำนาจกันมาแจ้งความขอให้ตำรวจกองปราบฯ ช่วยดำเนินคดีกับทั้งสองคนในวันนี้ เราไม่อยากเห็นคนอื่นตกเป็นเหยื่อของบุคคลทั้งสองเพิ่มอีกจึงตัดสินใจออกมาเปิดเผยพฤติการณ์ของบุคคลคู่นี้ และต้องการให้ตำรวจดำเนินคดีถึงที่สุด

ผู้เสียหายอีกราย เปิดเผยว่า บริษัทตนถูกผู้ประกวดนางงามคนนี้จ่ายเช็คเด้ง มูลค่า 1.2 ล้านบาท เมื่อปี 65 ไปยื่นฟ้องศาล ก่อนจะตกลงยอมความผู้ประกวดนางงามรายนี้ยินยอมชดใช้เป็นรายเดือนๆ ละ 1.5 หมื่นบาท แต่จนถึงวันนี้ผู้ประกวดนางวามคนนี้ ก็ยังไม่ยอมจ่ายเงินตามที่รับต่อศาลเลย

ส่วนอีกหนึ่งผู้เสียหาย เปิดเผยว่าตนเป็นผู้จัดการบริษัทฯ เอกชน เกี่ยวกับรายการเพลง ผู้ประกวดนางงามรายนี้มาชักชวนบริษัทฯ ตนร่วมลงทุนผลิตรายการประกวดนักร้องออกทีวีช่องหนึ่ง โดยโทร.มาขอร้องให้ช่วยเหลือ ก่อนตัดสินใจโอนเงินไปให้ 2 ล้านบาท หลังจากนั้นเขาก็ไม่ยอมเข้ามาทำสัญญา อ้างว่าบริษัทตนไม่มีคุณภาพผลิตรายการ แต่ไม่ยอมคืนเงินให้ ทวงถามก็เซ็นเช็คให้ 2 งวด แต่เช็คเด้ง จึงต้องฟ้องอาญาผู้ประกวดนางงาม กับเพื่อนชายชาวเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 29 พ.ค.66  จนมาถึงเดือน พ.ย.66 ศาลอาญา ชั้นต้นได้ตัดสินจำคุกผู้ประกวดนางงามคนนี้ 1 ปี แต่ลดเหลือ 6 เดือน ก่อนเขาจะประกันตัวไประหว่างรออุทธรณ์   ส่วนเพื่อนชายเกาหลีใต้ ศาลยกฟ้อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันผู้ประกวดนางงามคนนี้ อยู่ในขั้นตอนการเก็บตัวในกองประกวดนางงามเวทีมีชื่อ ซึ่งผู้เสียหาย ฝากบอกว่า อยากจะขอร้องให้ออกมารับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้น

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้รับแจ้งความลงประจำวันและนัดผู้เสียหายมาสอบปากคำเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป