ก้าวไกลยันฝ่ายค้าน ต้องมีข้อมูลชัดเจน ก่อนยื่นซักฟอกรัฐบาล ขอรวบรวมข้อมูลให้เสร็จในสัปดาห์นี้ก่อนเลือกแนวทางชำแหละครม.เศรษฐา ยืนกรานไม่มีเกี้ยเซี๊ยะ ด้านธนาธร" เข้าใจ "ก้าวไกล" ไม่ยื่นซักฟอก บอกรัฐบาลเพิ่งทำงานได้ 7 เดือน
ที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 5 มี.ค.67 นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน กล่าวถึงการร่วมงานกับ นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ประธานวิปรัฐบาลคนใหม่ ที่ออกมายืนยันวรัฐมนตรีจะเข้ามาตอบกระทู้ในสภาฯ แน่นอน ว่า เบื้องต้นก็มีแนวโน้มที่ดี แต่ความจริง นายอดิศร เพียงเกษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ประธานวิปรัฐบาลคนก่อน ก็ไม่ได้มีอุปสรรคในการทำงานมากขนาดนั้น ที่ผ่านมาก็พูดคุยกันด้วยดี เรื่องที่เห็นไม่ตรงกันมีบ้าง สำหรับประธานวิปรัฐบาลคนใหม่ก็อาจจะมีบ้าง ส่วนตัวมองว่านายวิสุทธิ์มีท่าทีกระตือรือร้นต่อเรื่องกระทู้ ส่วนจะมั่นใจว่ารัฐมนตรีจะมาตอบกระทู้หรือไม่ ก็ต้องรอดู สัปดาห์นี้มีกระทู้ถามทั่วไปเยอะมาก อาจจะมีรัฐมนตรีบางท่านที่ขอเลื่อน ซึ่งไม่ว่ากัน แต่ประเด็นคือต้องอธิบายให้ชัดมากกว่าว่าไปไหน ติดภารกิจที่สำคัญหลีกเลี่ยงไม่ได้คืออะไร
ผู้สื่อข่าวถามถึงความคืบหน้าของการเตรียมข้อมูลอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ยังไม่ได้พูดคุยกันอย่างเป็นทางการ มีต่อสายหากันบ้าง นับแต่สัปดาห์ที่แล้วที่ตนให้สัมภาษณ์ไป แล้วมีการโต้ตอบจากหลายฝ่าย ต้องชี้แจงว่าเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่ได้มีแบบเดียว แต่มีทั้งแบบลงมติและไม่ลงมติ สัปดาห์ที่แล้วตนก็ยอมรับว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบลงมติ ค่อนข้างหนักใจ เพราะไม่อยากทำเนื้อหาสาระเหมือนกันเมืองยุคก่อนๆ ที่ต้องเปิดทุกปี
"ผมเห็นนักการเมืองสมัยเก่าหลายๆ ท่าน ออกมาวิจารณ์ผมว่าทำตัวเกี๊ยะเซี๊ยะกับรัฐบาล ไม่ยอมอภิปรายไม่ไว้วางใจ คือถ้าเปิดมาแล้วพูดเรื่องส่วนตัวของรัฐมนตรี ผมไม่ทำ มันต้องมีเนื้อหาสาระที่จับต้องได้ ที่ประชาชนมองเห็นว่าบุคคลนี้ รัฐมนตรีท่านนี้ ไม่เหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีอีกต่อไป ไม่ใช่แค่เปิดอภิปรายตามสิทธิ์ ผมว่าถ้าเปิดมาตามสิทธิ์แล้วอภิปรายอะไรที่ไร้สาระ ผมว่านั่นแหละเกี๊ยะเซี๊ยะของจริง เป็นการทำให้รัฐบาลดูดีขึ้นมาทันที ถ้าเราพูดอะไรที่ไม่มีเนื้อหาสาระ"
ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวต่อว่า การอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติจะกว้างกว่า สามารถให้ข้อเสนอแนะ ทวงถามหลายๆ เรื่อง ซึ่งพักร่วมฝ่ายค้านก็ได้ทวงถามหลายๆ เรื่องต่อรัฐบาลมาตลอดแทบจะรายสัปดาห์ คิดว่าผู้สื่อข่าวก็สามารถลงข่าวได้ทุกสัปดาห์ว่าฝ่ายค้านทวงถามอะไรรัฐบาลบ้าง อภิปราย 4 วันก็คงไม่จบ แต่ถ้าจะอภิปรายจริงก็ต้องเป็นเรื่องที่สำคัญ ซึ่งก็ยังเปิดกว้าง พร้อมย้ำว่า สามารถเปิดอภิปรายแบบไม่ลงมติได้ และมีโอกาสมากกว่าการเปิดอภิปรายแบบลงมติแน่นอน
เมื่อถามว่า ข้อมูลใหม่ๆ ที่ไม่เคยเปิดมาก่อนนั้น นายปกรณ์วุฒิ กล่าวยืนยันว่า มีเยอะ มีการไล่เรียงและเก็บข้อมูลแต่ละหัวข้อกันอยู่ตลอด เพียงแต่อาจยังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ แต่สามารถหยิบมาได้ มองว่าต้องมีสัก 40-50 เรื่องที่เก็บเอาไว้ พร้อมขอให้ติดตาม ภายในสัปดาห์นี้ควรต้องเห็นความชัดเจนแล้ว เพราะการยื่นญัตติก็จำเป็นต้องใช้เวลา
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคก้าวไกลไม่เปิดอภิปรายไม่วางใจรัฐบาลเป็นการเกี้ยเซียะกันหรือไม่ ว่า ไม่หรอก ตนเข้าใจพรรคก้าวไกล เพราะในสมัยอนาคตใหม่ ตนก็เป็นหัวหน้าทีมทำข้อมูลเกี่ยวกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วยตัวเอง ถ้าเราจะยกมาตรฐานการทำงานให้สูง ข้อมูลต้องมีคุณภาพ การอภิปรายต้องมีเนื้อหาที่หนักแน่น และรัฐบาลนี้ทำงานมาได้ 6-7 เดือน ซึ่งการจัดงบประมาณ ภายใต้ครม. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ก็ยังไม่เห็นชัด ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับนายเศรษฐานิดหนึ่ง และเข้าใจพรรคก้าวไกลนิดหนึ่ง ถ้ามีข้อมูลที่ไม่หนักแน่น เอามาอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตรงนี้ต่างหากที่จะเป็นผลเสีย
"การอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบที่สำคัญที่สุดของฝ่ายค้าน ถ้าใช้พร่ำเพรื่อ ใช้อย่างไม่มีเรื่องราวที่หนักแน่นเพียงพอ ผมคิดว่าจะทำให้พรรคก้าวไกลไม่สง่างาม ดังนั้นผมคิดว่าไม่ใช่เรื่องเกี้ยเซียะอะไรกัน แต่เป็นเรื่องของพรรคก้าวไกล ต้องการธำรงไว้ซึ่งมาตรฐานการทำงาน ของสภาฯที่มีคุณภาพ" นายธนาธร กล่าว