วันที่ 5 มี.ค. 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะที่กำกับดูแลกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงกรณีข้อพิพาทเรื่องที่ดินระหว่างสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ว่า เรื่องนี้สถานการณ์ดีขึ้นตามลำดับ โดย เมื่อวันที่ 4 มี.ค. ตนได้เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ซึ่งได้แจกสิทธิทำกินให้กับประชาชนในเขตลุ่มน้ำ ตามกฎระเบียบกฎหมาย ประมาณ 8 แสนกว่าไร่ ใน 50 กว่าจังหวัด ส่วนเรื่องที่ดิน  ส.ป.ก. เป็นเรื่องเก่าที่ต้องสะสาง เพราะเป็นเรื่องที่มีหน่วยราชการรับผิดชอบหลายหน่วย อีกทั้งมีแผนที่ที่มองไม่ตรงกัน จึงได้แก้ปัญหาในการจัดทำแผนที่วันแมป ให้เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย โดยเมื่อ 1-2 วันที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีก็ได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาประชุมพูดคุยกัน ซึ่งทุกคนต่างยอมในการที่จะใช้วันแมป 1 ต่อ 4,000 ให้เป็นมาตรฐานกลาง

 

นายภูมิธรรม กล่าวว่า  ตนมองว่า ต้องแก้ไขปัญหาแบบยืดหยุ่น  และต้องดูความเป็นจริง ยกตัวอย่างว่าก่อนหน้านี้ได้ไปดูแหล่งการปลูกกาแฟ ที่จังหวัดน่าน ซึ่งเป็นอันดับต้นๆ ของโลก โดยมีชนเผ่าเมี่ยน เป็นผู้มีสิทธิทำกินในพื้นที่ดังกล่าว และอยู่ประเทศไทยมาแล้วประมาณ 200 ปี แต่พอรัฐบาลประกาศเขตไปทับซ้อนพื้นที่พวกเขาก็เกิดปัญหา คทช. จึงไปคืนสิทธิให้กับพวกเขาในการทำกิน แต่สินทรัพย์ต้องเป็นสินทรัพย์กลาง พร้อมกับมีเงื่อนไขให้พื้นที่ต้องมีการปลูกต้นไม้ เพื่อจะทำให้พวกเขาอยู่ได้อย่างมีศักดิ์ศรี ซึ่งไม่อยากใช้คำว่าเป็นอาชญากร หรือเป็นคนที่ทำผิดกฎหมาย เพราะพวกเขาอยู่มาก่อนหน้านั้น และรัฐบาลประกาศเขตทับซ้อนพื้นที่เขา จึงต้องคืนสิทธิในการทำกินให้กับพวกเขา ยกเว้นกับคนที่มีสิทธิจริงๆ ยืนยันว่าเรื่องนี้ต้องไปเร่งรัดให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการอย่างเคร่งครัด  อย่าไปอำนวยประโยชน์ให้ใคร ซึ่งใครที่มีปัญหาต้องจัดการกันตามกฏหมาย ไม่มีสิทธิที่จะไปคุ้มครองได้ จึงอยากให้ดูตามความเป็นจริง

 

นายภูมิธรรม กล่าวว่า ปัญหาที่ไม่ยอมรับแผนที่วันแมป ตอนนี้คิดว่าดีขึ้นแล้ว เพราะที่ประชุม คทช.ได้พูดคุยกับหลายส่วนไม่ว่าจะเป็น ส.ป.ก. เขตอุทยาน เขตอุทยานชายฝั่ง และกรมที่ดิน ซึ่งตนพยายามให้ทุกฝ่ายได้คุยกัน และขณะนี้ในคณะกรรมการ คทช.มีความเข้าใจกันมากขึ้น  ส่วนเรื่องนี้จะมีคนผิดหรือไม่มีคนผิด ซึ่งขึ้นอยู่ที่ข้อเท็จจริง ไม่ใช่ว่าเราอยากให้มีคนผิดหรืออยากให้มีคนถูก หากข้อเท็จจริงถูก ก็ต้องว่าถูก