"เศรษฐา" ยอมรับยังทำงานไม่ดีพอ หลังซูเปอร์โพลให้สอบผ่านและอยู่ครบวาระ เตรียมแถลงผลงานรัฐบาลรอบ 6เดือน 15 มี.ค. เชื่อฝ่ายค้านไม่เปิดอภิปรายฯ ในสมัยประชุมนี้ ด้านประธาน กกต.' ยันพิจารณายุบ2พรรคก้าวไกล-ภูมิใจไทย ไม่ได้ล่าช้า ย้ำเร่งศึกษาคำวินิจฉัยศาลรธน.ฉบับเต็มคดี 'ก้าวไกล' ส่วนคดี 'ภูมิใจไทย' อยู่ในมือนายทะเบียน 
       
     ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 4 มี.ค.67 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางเพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-ออสเตรเลีย สมัยพิเศษ กรณีผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนถึงการทำงานของรัฐบาลครบ 6 เดือน (ผลงานรัฐบาล) ตามที่โพลบางสำนักให้สอบผ่าน ว่า ภารกิจมีอีกเยอะต้องทำต่อ ระหว่างนั่งรถมาสนามบินสุวรรณภูมิ ตนก็ได้โทรศัพท์สั่งงานเรื่องความมั่นคง ชายแดน ปัญหาไฟป่าที่เชียงใหม่ โดยที่ประชุมครม. เมื่อ 3 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้อนุมัติงบกลางเพื่อจ้างบุคลากรเพิ่มเข้ามาดูแลในเรื่องนี้
    
 ผู้สื่อข่าวถามว่า ผลสำรวจออกมาแบบนี้ประชาชนพอใจ แต่ยังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากฝ่ายการเมืองว่านายกฯเดินสายปฏิบัติภารกิจหลัก แค่การลงพื้นที่ต่างจังหวัดและบินไปต่างประเทศ นายเศรษฐา กล่าวว่า ให้ผลงานเป็นตัวพิสูจน์ บางเรื่องต้องทำไปก่อนแล้วค่อยๆมีอะไรออกมาเป็นรูปธรรมมากขึ้น ตนเชื่อว่ากลับมาวันที่ 15 มี.ค.หรือวันที่ 16 มี.ค. จะมีการแถลงผลการทำงานของรัฐบาลครบ 6 เดือน ว่าที่เราทำงานมา 6 เดือน มีความคืบหน้าในด้านใดบ้าง ทั้งเรื่องการพูดคุยกับบริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งหลายว่าสำเร็จไปถึงขั้นตอนไหนบ้างแล้ว ตามที่ได้รับเสียงสะท้อนมาว่าแค่ไปต่างประเทศก็ยังไม่มีอะไรเป็นรูปธรรม ดังนั้นตนรับฟังและจะมาชี้แจง เพราะหากมีสิ่งไหนไม่ชัดเจนก็ขอให้บอกมา ถ้าเกิดตนทำให้ได้ก็จะทำ เพราะเราเองก็ไม่อยากถูกต่อว่า โดยไม่เป็นความจริง ดังนั้นเป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องชี้แจง
    
 "หากเรายังทำไม่ดีพอ ก็ขอให้บอกมาจะได้ปรับปรุงในหลายๆด้าน และอย่างที่เรียนว่าลงพื้นที่ไปพบปะกลุ่มชายขอบของสังคมที่ยังต้องการความช่วยเหลือมีจำนวนมาก รวมถึงยังมีหลายภาคส่วนที่ยังไม่ได้ลงพื้นที่ไปพบปะ โดยเฉพาะชุมชนแออัดในกรุงเทพฯ ซึ่งเรื่องนี้ นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี ก็ได้บอกกับผมมา ซึ่งผมได้พยายามประสานทีมงานกทม. อยู่ว่าจะดำเนินการลงพื้นที่อย่างไร และอย่างที่บอกขอเรียนตรงๆว่าภารกิจผมเยอะ ปัญหาก็เยอะ ก็ต้องแก้ไขกันไป เพราะเวลามีอยู่แค่นี้" นายเศรษฐา กล่าว
    
 นายเศรษฐา ยังกล่าวถึงกรณีที่มีข่าวฝ่ายค้านจะไม่ยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในสมัยประชุมนี้ ว่า ก็คงเป็นไปตามนั้น  ส่วนหน้าที่ของรัฐบาลมีอะไรก็ต้องทำ นอกจากนั้นตนก็ได้ย้ำไปกับรัฐมนตรีเรื่องการไปตอบกระทู้ต่างๆ ว่าต้องให้ความสำคัญด้วย มอบหมายถ้ามีภารกิจก็ให้มอบหมายกันต่อๆ ไป แต่ถ้าเป็นไปได้ขอให้ไปตอบด้วยตนเอง แต่เรื่องการตอบกระทู้ถามสดก็มีระยะเวลาในการแจ้งให้รัฐมนตรีทราบ บางทีแจ้งเร็วหรือช้าเกินไป เวลาไม่มี ก็ได้บอกรัฐมนตรีว่าไม่เป็นไรแต่ต้องให้เกียรติกันทั้งสองฝ่าย เราเป็นฝ่ายบริหารฝ่ายนิติบัญญัติมีข้อกังขาอะไร เราก็ต้องไปชี้แจง
   
  ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการ กกต. ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการพิจารณาคำร้องยุบพรรคก้าวไกลและพรรคภูมิใจไทย ว่า ในส่วนของพรรคก้าวไกลนั้น หลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย เมื่อวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา ทาง กกต. ขอให้สำนักงานและนายทะเบียนพรรคการเมืองไปศึกษาคำวินิจฉัยและตัวบทของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมืองว่า จะต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง หลังจากนั้นสำนักงานฯ ก็เสนอผลการศึกษาเบื้องต้น
      
 "เห็นพ้องกันว่าควรที่จะนำเอาการวินิจฉัยฉบับสมบูรณ์มาประกอบการพิจารณาเสนอความเห็นด้วย โดยคำวินิจฉัยฉบับสมบูรณ์ศาลออกมาเมื่อวันที่ 29 ก.พ.ที่ผ่านมา ผ่านทางราชกิจจานุเบกษา ดังนั้นสำนักงานฯ ต้องนำคำวินิจฉัยไปพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ประกอบความเห็นที่ศึกษาไว้ก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีกรอบเวลา แต่กระบวนการนี้คงใช้เวลาไม่เยอะ แต่จะดำเนินการอย่างไม่ชักช้า" 
    
 นายอิทธิพร กล่าวอีกว่า ส่วนคำร้องยุบพรรคภูมิใจไทยนั้น กกต. ได้รับคำร้อง โดยเรื่องนี้อยู่ระหว่างกันพิจารณาของนายทะเบียนพรรคการเมืองว่าคำร้อง ข้อเท็จจริงตามที่มีอยู่นั้น ถือว่ามีมูลหรือไม่ หากเห็นว่ามีมูลก็จะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อเสนอความเห็น และหากเห็นว่ามีมูลจะต้องดำเนินการต่อไป ก็จะเสนอ กกต. เรื่องนี้จะดำเนินการโดยไม่ล่าช้า ซึ่งตามกฎหมายกำหนดไว้ 30 วัน หรือ 60 วัน แต่ก็ต่ออายุได้ เพราะกระบวนการนอกจากรวบรวมข้อมูลแล้ว ยังต้องมีการเชิญผู้เกี่ยวข้องเข้ามาให้ข้อมูล โดยหลักเราพยายามทำในกรอบเวลา ไม่ให้ล่าช้า ทั้งนี้เรื่องส่วนใหญ่จะไม่ล่าช้า แล้วหากดูคำวินิจฉัยที่ปรากฏในเว็บไซต์หรือ Smart Vote ไม่ว่าจะมีคำร้องหรือคำวินิจฉัยเมื่อเดือน ธ.ค. ที่ออกมาแล้ว