พุทธศาสนิกชนจากทั่วทุกสารทิศเดินทางร่วมสักการะพระบรมสารีริกธาตุฯ ที่อัญเชิญมาประดิษฐาน ณ ท้องสนามหลวงเป็นวันสุดท้ายกันอย่างเนืองแน่น ก่อนอัญเชิญไปประดิษฐานใน 3 จังหวัด เชียงใหม่-อุบลฯ-กระบี่
ตามที่รัฐบาลไทยร่วมกับสาธารณรัฐอินเดียอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ จากอินเดีย มาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ ประเทศไทย โดยผู้สื่อข่าวรายงานล่าสุด เมื่อวันที่ 3 ก.พ.67 ที่บริเวณท้องสนามหลวง ตั้งแต่ช่วงเช้า พุทธศาสนิกชนจากทั่วทุกสารทิศต่างเดินทางมาร่วมสักการะพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุ ของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายอย่างเนืองแน่น
ทั้งนี้สืบเนื่องจาก กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม จัดกิจกรรมส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในเทศกาลวันมาฆบูชา พุทธศักราช 2567 และเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ก่อนอัญเชิญไปประดิษฐานในส่วนภูมิภาคใน 3 จังหวัด ให้ประชาชนได้เข้าสักการบูชา ดังนี้ ภาคเหนือ ระหว่างวันที่ 5-8 มี.ค. เวลา 09.0020.00 น. ณ หอคำหลวง อุทยานหลวงราชพฤกษ์ จ.เชียงใหม่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ระหว่างวันที่ 10-13 มี.ค. เวลา 09.00 20.00 น. ณ วัดมหาวนาราม จ.อุบลราชธานี ภาคใต้ ระหว่างวันที่ 15 -18 มี.ค.เวลา 09.0020.00 น. ณ วัดมหาธาตุวชิรมงคล จ.กระบี่
โดยในวันที่ 4 มี.ค. เวลา 17.00 น. จ.เชียงใหม่จะได้จัดริ้วขบวนอัญเชิญอย่างยิ่งใหญ่ตระการตา โดยจัดเป็นขบวนเครื่องสักการะล้านนา ขบวนช่างฟ้อนพื้นเมือง ขบวนธงชาติไทย ธงชาติอินเดีย ธงธรรมจักร ธงฉัพพรรณรังสี ขบวนรถบุษบกประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุฯ ขบวนเฉลิมพระเกียรติฯ ข้าราชการ จิตอาสา ศาสนิกสัมพันธ์ และศาสนิกชน เคลื่อนขบวนจากบริเวณประตูช้างค้ำมายังหอคำหลวง อุทยานหลวงราชพฤกษ์ อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุฯ ขึ้นสู่มณฑปที่ประดิษฐานบนหอคำหลวง
จากนั้น วันที่ 5 8 มี.ค. จะเปิดให้ศาสนิกชนเข้ากราบสักการะ โดยจะทำการเปิดรับบัตรคิวรอบเช้าเวลา 08.00 น. จำนวนไม่เกิน 3,000 คน และรอบบ่ายเวลา 12.00 น. จำนวนไม่เกิน 3,000 คน ที่บริเวณเต็นท์ลงทะเบียนวงเวียนราชพฤกษ์ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ จ.เชียงใหม่ และในทุกๆ ช่วงเย็นเวลา 18.00 19.00 น. จะมีพิธีเจริญพระพุทธมนต์เสริมสิริมงคลให้กับศาสนิกชนที่เข้ากราบสักการะพระบรมสารีริกธาตุฯ ซึ่งจะหยุดพักไม่อนุญาตให้ขึ้นสักการะพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุฯ บนหอคำหลวง แต่สามารถไหว้สักการะ รอบๆ หอคำหลวงได้ และจะปิดการเข้าสักการะในเวลา 21.00 น.
นอกจากนี้ ยังมีการจัดนิทรรศการการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุฯ จากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอินเดียมาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ ประเทศไทย เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคล พระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เพื่อหลอมรวมพลังศรัทธาของศาสนิกชนชาวไทยทั่วโลก ซึ่งถูกรังสรรค์ขึ้นมาเพื่อให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องต่อพระพุทธศาสนา บริเวณอาคารนิทรรศการ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ โดยแบ่งเป็นส่วนการจัดแสดงนิทรรศการความเป็นมาของพระบรมสารีริกธาตุฯ การค้นพบพระบรมสารีริกธาตุฯ ณ เมืองปิปราห์วา รัฐอุตตรประเทศ สาธารณรัฐอินเดีย สังเวชนียสถาน 4 ตำบล การบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ณ บรมบรรพต วัดสระเกศ และข้อมูลเกี่ยวกับพระธาตุที่นำมาจัดแสดงในประเทศไทยอีกด้วย